รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว นิยาย บท 139

สีจิ่วเฉินปิดแฟ้มเอกสาร แล้วมองเวลา “ไปกันเถอะ!”

ถังจือซย่าเข้าไปนั่งในรถ เธอเอ่ยถามพ่อด้วยความแปลกใจ “พ่อคะ มีเรื่องสำคัญอะไรหรือคะ ถึงจะต้องให้หนูไปให้ได้น่ะค่ะ”

“พ่อจะพาลูกไปสถานที่ประมูลงาน คราวนี้บริษัทของเรากำลังเล็งโครงการทางวิศวกรรมอยู่โครงการหนึ่ง พ่อหวังว่าเราจะชนะการประมูล สิ่งสำคัญคืออยากจะให้ลูกได้เปิดหูเปิดตาสักหน่อย เมื่อลูกสืบทอดต่อกิจการในอนาคต จะได้รู้ว่าเขามีกระบวนการในการดำเนินงานกันยังไง”

ถังจือซย่ากะพริบตาถี่ๆ พ่อคิดมองการณ์ไกลเกินไปแล้วหรือเปล่า!

“พ่อคะ พ่อยังหนุ่มอยู่เลยนะคะ ยังมีเวลาอีกสิบกว่าปีโน่นแน่ะ!” ถังจือซย่ายิ้มและเอ่ยขึ้นอย่างจนใจ

“พ่อแค่อยากจะเตรียมการไว้ล่วงหน้า เผื่อถึงเวลาที่ลูกเข้ารับช่วงต่อจะได้ไม่วุ่นวาย หวังว่าลูกจะเข้าใจในกิจการของพ่อนะ” ถังจวิ้นเป็นคนมองการณ์ไกล อีกทั้ง ระยะหลังมานี้เขารู้สึกแรงตกอย่างเห็นได้ชัด เขาแก่แล้วจริงๆ

ถังจือซย่าจำต้องไปเป็นเพื่อนพ่อสักครั้ง อย่างไรก็ตาม นี่เป็นสิ่งที่พ่อหวังจะให้เธอทำ

การประชุมสำหรับงานประมูลในครั้งนี้จัดขึ้นที่บริษัทขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ถังจวิ้นพาถังจือซย่ามาสมทบกับผู้ช่วยของเขา และเดินเข้าห้องประชุมใหญ่ไปพร้อมกัน

ถังจือซย่าและพ่อของเธอนั่งลง ตำแหน่งที่พวกเขานั่งอยู่เป็นตำแหน่งแถวเกือบสุดท้าย ถังจือซย่ามองดูผู้คนที่ทยอยเดินเข้ามา เธอแอบคิดในใจ โครงการประกวดราคาวิศวกรรมขนาดใหญ่ระดับนี้ บริษัทของพ่อเธอจะมีโอกาสหรือ

ในเวลานี้ ถังจือซย่ากำลังยกขวดน้ำขึ้นดื่ม สายตาของเธอมองไปรอบๆ อย่างสนใจใคร่รู้

และเมื่อสายตาของเธอเห็นคนสองคนปรากฏตัวขึ้นที่หน้าประตู เธออุทานออกมาด้วยความตกใจ และเกือบจะพ่นน้ำใส่คนที่นั่งอยู่ข้างหน้า โชคดีที่เธอเอามือปิดปากได้ทันเวลา น้ำในปากจึงถูกกลืนลงท้องไปด้วยความยากลำบาก

เธอเห็นคนที่เดินผ่านประตูเข้ามา นอกเหนือจากพวกเถ้าแก่ใหญ่พุงโตเหมือนคนท้องได้เจ็ดแปดเดือนพวกนั้นแล้ว จู่ๆ มีผู้ชายสองคนที่มีออร่าที่ต่างออกไปโดยสิ้นเชิงเดินเข้ามา

สีจิ่วเฉินเดินนำหน้าฉู่เฮ่าผู้ช่วยของเขา คนทั้งสองสวมชุดสูทและรองเท้าหนัง ภาพลักษณ์ของผู้ลากมากดีที่โดดเด่นออกมานั้นได้ดึงดูดสายตาของผู้คน

ถังจือซย่าคิดไม่ถึงเลยว่าจะได้พบคนอย่างสีจิ่วเฉินในสถานที่เสียงดังอึกทึกเช่นนี้

เขา...ก็มาประมูลเช่นเดียวกันหรือ

ดวงตาของถังจือซย่าจ้องมองไปยังร่างกายที่กำลังเคลื่อนไหวของพวกเขา สีจิ่วเฉินไม่ได้สังเกตเห็นเธอ เขาและฉู่เฮ่าเดินตรงไปยังตำแหน่งด้านล่าง สุดท้าย เขานั่งลงบนที่นั่งแรกของแถวหน้าสุด ถังจือซย่าเห็นเขานั่งข้างๆ ชายหัวล้าน และดูเหมือนกำลังพูดคุยงานกับชายคนดังกล่าว

ถังจือซย่าลุกขึ้นยืนด้วยความสงสัย ถังจวิ้นต้องสะกิดเธอ “จือซย่า นั่งลง การประชุมกำลังจะเริ่มแล้ว”

ถังจือซย่าอดไม่ได้ที่จะคิดในใจว่า หากสีจิ่วเฉินเข้าร่วมการประมูลในครั้งนี้ บรรดาเถ้าแก่ที่นั่งอยู่ที่นี่ คงจะได้กลับบ้านกันหมด ยังจะเหลืออะไรให้พวกเขาอีก”

และบริษัทของพ่อก็ยิ่งมีโอกาสน้อยลง

ผ่านไปไม่กี่นาที ถังจือซย่าก็เห็นสีจิ่วเฉินลุกขึ้น เมื่อมองจากด้านหลัง ดูเหมือนเขากำลังจัดชุดสูทด้วยท่าทีที่งามสง่า ฉู่เฮ่าที่อยู่ข้างๆ ก็ลุกขึ้นและจับมือกับชายหัวล้านคนนั้น พลางพูดคุยด้วยรอยยิ้ม

ชายหัวล้านผายมือส่งพวกเขาอย่างเคารพนบนอบ ราวกับว่าเขากำลังน้อมส่งเทพเจ้า

ถังจือซย่าจับจ้องไปที่ชายหนุ่มที่กำลังเดินขึ้นมาจากด้านล่าง คงเป็นเพราะสายตาของเธอนั้นรุนแรงเกินไป จนทำให้ชายหนุ่มผู้หล่อเหลาร่ำรวยคนนั้นเห็นเข้าในทันที

ดวงตาทั้งสองสบกัน

ชายหนุ่มตกตะลึง เขาหรี่ตามองถังจือซย่า ดูเหมือนเขาเองก็คาดไม่ถึงว่าจะเจอเธอในสถานที่แบบนี้

แน่นอนว่า เมื่อเห็นเธอนั่งอยู่ข้างๆ พ่อ เขากลับไม่แปลกใจเลยสักนิด

ถังจือซย่าได้เผชิญหน้ากับสีจิ่วเฉิน ดวงตาคู่หนึ่งเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ในขณะที่ดวงตาอีกคู่หนึ่งนั้น เจตนาไม่ชัดเจน

จู่ๆ สีจิ่วเฉินตัดสินใจอยู่ต่อ เขาหันไปบอกกับฉู่เฮ่า “หาที่นั่งนั่งกันก่อน”

เมื่อพูดจบ สีจิ่วเฉินตรงมาที่ที่นั่งด้านหลังของถังจือซย่า เมื่อฉู่เฮ่าเห็นเธอ เขายิ้มและโบกมือทักทาย ถังจือซย่าก็ส่งยิ้มให้เขา

เมื่อเธอหันศีรษะไป ชายหนุ่มนั่งลงอย่างสงบตรงที่นั่งด้านหลังของเธอ แต่เนื่องจากพ่อของเธออยู่ข้างๆ ถังจือซย่าจึงไม่ได้พูดอะไรกับเขา และในเวลานี้ การประชุมเพื่อการประมูลก็ได้เริ่มขึ้นแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว