“ขึ้นรถ พวกเราจะไปเดินห้างสรรพสินค้ากัน” สีจิ่วเฉินอุ้มเด็กน้อยไปวางที่เบาะหลัง ในขณะเดียวกันนั้น จู่ๆ เขาก็เกิดความคิดบางอย่างขึ้นมา เขาควรจะติดตั้งคาร์ซีท ไว้ที่รถด้วย จะได้สะดวกเวลาไปรับไปส่งเด็กน้อย
ทั้งสามคนขึ้นรถและไปที่ศูนย์การค้าใกล้ๆ เวลายังไม่ดึกมากนัก ทำให้พวกเขามีเวลามากพอที่จะเดินซื้อของ
ในซูเปอร์มาร์เก็ต เด็กน้อยนั่งอยู่บนรถเข็นที่มีสีจิ่วเฉินเป็นคนเข็นรถ ส่วนถังจือซย่ารับผิดชอบการเลือกซื้อของ คืนนี้เธอรู้สึกอยากจะกินอาหารดีๆ เธอซื้อกุ้ง ขาหมูและผักสองสามชนิด
“พระเจ้า! เป็นครอบครัวพ่อแม่ลูกที่ดูดีมากเลย!” ถังจือซย่าที่กำลังเลือกของอยู่ก็ได้ยินประโยคนี้เข้า เธอหันหลังกลับไปมองก็พบกับผู้หญิงวัยรุ่นสองคนยืนอยู่ข้างๆ กำลังพูดและหันมาที่พวกเขา
เมื่อถังจือซย่ามองไป พวกเขาก็รู้สึกเกรงใจขึ้นมาจึงรีบเดินออกไป
ถังจือซย่าเงยหน้าขึ้นไปมองลูกชายและสีจิ่วเฉิน คนอื่นไม่เข้าใจผิดสิถึงจะแปลก! ลักษณะท่าทางนี้เหมือนพ่อแม่ลูกกำลังเดินซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ตกันชัดๆ!
ถังจือซย่ารีบเลือกของและหันไปพูดกับผู้ชายที่เข็นรถอยู่ด้านหลัง “ไปเถอะ! ซื้อเสร็จแล้ว”
ดวงตาที่ลึกซึ้งของสีจิ่วเฉินมองเห็นทุกอย่าง มุมปากของเขายกขึ้นยิ้ม ความรู้สึกแบบนี้เขากลับรู้สึกมีความสุขกับมันมาก
หลังจากซื้อของเสร็จ ก็ขับรถกลับไปที่บ้านของเธอทันที เขาจอดรถไว้ที่ทางเข้าตึก ทันทีที่ถังจือซย่ายกของขึ้นมาก็มีมือใหญ่ๆ มารับถุงใส่ของที่เธอถืออยู่ไป “ฉันถือเอง”
“มันไม่หนัก ไม่เป็นไร” ถังจือซย่าไม่อยากให้เขาช่วย
แต่ชายคนนี้ก็ยังพยายามใช้แรงแย่งถุงไปถือ ถังจือซย่าหมดคำจะพูดและมองไปที่ลูกชายให้เขาจับมือด้วยความเต็มใจ เธอรู้สึกทำตัวไม่ถูกขึ้นมาเล็กน้อย
เธอรีบเดินไปข้างหน้าเพื่อรักษาระยะห่างกับชายหนุ่ม เลี่ยงไม่ให้เพื่อนบ้านเห็นแล้วเข้าใจไปว่าพวกเขาเป็นครอบครัวเดียวกัน!
“หม่ามี๊ รอพวกเราด้วย” เด็กน้อยตะโกนมาจากด้านหลัง
ถังจือซย่าพูดไม่ออก เธอทำได้เพียงยืนรอพวกเขา
ในที่สุดก็ถึงบ้านเสียที ถังจือซย่าถอนหายใจด้วยความโล่งอก เธอรับถุงมาจากมือของชายหนุ่มและไปที่ห้องครัว อาหารที่ต้องใช้เวลาทำนานอย่างเช่นขาหมู เธอต้องรีบทำให้เรียบร้อยก่อน
“ลูก ดูแลแขกด้วยนะ” ขณะที่ถังจือซย่าเดินออกมาหยิบของก็พูดกับลูกชายหนึ่งประโยค
เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นด้วยความสับสนเล็กน้อยและมองไปที่สีจิ่วเฉิน สำหรับเขาแล้ว สีจิ่วเฉินไม่ใช่แขก แต่เหมือนเป็นญาติที่อยู่ด้วยกันตามปกติ
สีจิ่วเฉินยิ้มและลูบหัวน้อยๆ ของเขา “ฉันรู้ว่าจะดูแลตัวเองยังไง”
ถังจือซย่ายุ่งอยู่กับการทำอาหารในห้องครัว เนื่องจากทำอาหารให้ลูกมาหลายปี เธอจึงสามารถใช้อุปกรณ์ในห้องครัวได้อย่างคล่องแคล่ว อีกทั้งยังคอยตามหารสชาติใหม่ๆ ให้กับลูก ทั้งยังศึกษาการปรุงอาหารจากตำราอาหารต่างๆ มาหลายปี สามารถพูดได้ว่าฝีมือการทำอาหารของเธอนั้นผ่านเกณฑ์
ขาหมูในคืนนี้เป็นเธอที่อยากกิน ดังนั้น เครื่องปรุงที่เธอใส่ลงไปค่อนข้างที่จะเยอะและเผ็ด ของลูกชายจะมีไข่ตุ๋นกุ้งกับผัก ซึ่งเพียงพอสำหรับเขาแล้ว
ถังจือซย่าเดินเข้าๆ ออกๆ ห้องครัว บางครั้งเห็นสีจิ่วเฉินดูทีวีเป็นเพื่อนลูก สักพักก็เห็นสีจิ่วเฉินเล่นของเล่นเป็นเพื่อนลูกอยู่ในห้อง ดูท่าผู้ชายคนนี้อยู่ในบ้านก็ไม่ได้ทำตัวไร้ประโยชน์ อย่างน้อยเขาก็อยู่เป็นเพื่อนลูกของเธอได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว
ค่าต่อการอ่านหน้าต่อไปแพงจังค่ะ...
มาแล้ว พึ่งเข้ามาดู...
รอๆๆคะ...
สรุปเรื่องไม่ไปต่อแล้วเหรอค่ะ ติดตามมาตลอดหายไปอีกรอบ เสียดายจังค่ะ กำลังสนุกเลย ด้วยเพราะเหตุผลอะไร ยังไงก็ขอขอบคุณค่ะที่ทำให้การอ่านมีความสุขกับตัวละครที่สร้างจินตนาการให้นะ่ค่ะ...
เรืองหยุดชะงักอีกรอบแล้ว ผู้แต่งไม่สบายหรือเปล่าค่ะ หรือติดอะไรยังก็ขอเป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ รอการกลับมาของนิยายเรื่องนี้อยู่ตลอดค่ะ...
หายไป 3 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน.....
หายไป 2 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน...
สนุกมากค่ะ อยากให้ลงสักวันล่ะ 20 ตอนเลยค่ะ สนุกมากๆๆและมีลุ้นด้วยว่าจะยังไงต่อ ต่อไปจะเป็นคู่ของท่านรองปะค่ะ รองประธาน น่ะจะมีนะ555...
น่าสงสารนางเอกจัง และสงสารพระเอกที่จะบอกคนที่ตนเองรักยังไง ว่าคู่หมั้นตัวเองเป้นญาติกัน...
ติดตามต่อค่ะ สนุกมากๆๆๆ...