รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว นิยาย บท 148

ถังจือซย่าหน้าแดงก่ำ “ไม่ใช่สักหน่อย”

“แต่งงานกับฉันสิ เธอจะได้ดูอย่างถูกต้อง” ชายคนนั้นพูดออกมา

“ฉันไม่ได้อยากดูสักหน่อย” ถังจือซย่าตะโกนออกมา ใบหน้าของเธอแดงขึ้นเรื่อยๆ ผู้ชายคนนี้มั่นใจในตัวเองขนาดนี้เลยหรือ

ชายคนนั้นยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย และค่อยเปิดประตูเดินออกไป

ผู้หญิงที่ยังนั่งอยู่ที่โซฟา สมองของเธอยังไม่ได้สติไปอีกสักพัก ถังจือซย่าปิดใบหน้าที่แดงก่ำไว้ ที่ริมฝีปากบางยังมีไอร้อนจากจูบของชายคนนั้นอยู่ ให้ตายสิ เขาบอกว่าจะไม่ทำอะไรโดยที่ไม่ได้บอกกันก่อนไม่ใช่หรือไง

เธอไม่ควรเชื่อเขาเลยจริงๆ ถ้าคำพูดของผู้ชายเชื่อถือได้ แม่หมูคงจะปีนต้นไม้ได้แล้ว

ถังจือซย่าเหลือบไปมองห้องนอนของลูกชาย ยังดีที่ลูกชายไม่รู้ว่าด้านนอกเกิดอะไรขึ้นบ้าง

พอคิดว่าต้องกินข้าวเย็นกับชายคนนั้นไปอีกหนึ่งปี ถังจือซย่าก็คิดมากขึ้นมา

เช้าวันต่อมา ถังจือซย่าที่รีบมาที่บริษัทหลังจากไปส่งลูกที่โรงเรียนเสร็จแล้ว เธอเดินผ่านฝูงชนเข้ามาอย่างเร่งรีบ ผมยาวของเธอม้วนเป็นลอนตามธรรมชาติ เสื้อเชิ้ตลายสก็อตสีเทาของเธอจับคู่กับกระโปรงเข้ารูปสีดำ และมือของเธอถือกระเป๋าหนึ่งใบ เผยให้เห็นถึงสไตล์ของมืออาชีพโดยไม่ได้ตั้งใจ

ในเวลานั้นเอง มีรถสีดำคันหนึ่งมาจอดอยู่ที่หน้าประตูบริษัท สีจิ่วเฉินมาที่นี่เพื่อนำเอกสารกลับไปที่กลุ่มบริษัทตระกูลสี เขาเห็นผู้หญิงที่กำลังเดินที่ทางเดินเพื่อไปพบปะกับกลุ่มเพื่อนร่วมงานโดยไม่ได้ตั้งใจ เสน่ห์น่าดึงดูดของเธอนั้นเปล่งประกายไปทั่วทั้งตัว ท่าทางสบายๆ และมั่นใจในตัวเองนั้น ทำให้คนหลงใหลมากทีเดียว

ในเวลานั้นเอง ถังจือซย่าเหลือบมองไปที่นาฬิกาข้อมือ เวลาตอกบัตรเหลืออีกเพียงสองนาทีเท่านั้น เธอรีบร้อนขึ้นมาในทันทีจึงรีบวิ่งไปที่ล็อบบี้โดยไม่สนใจภาพลักษณ์ของตัวเอง นั่นทำให้เธอรู้สึกเขินอายขึ้นมา

และสิ่งที่เธอไม่รู้ก็คือ ภาพที่เธอรีบวิ่งไปตอกบัตรนั้น อยู่ในสายตาของชายที่นั่งในรถที่จอดข้างๆ ทั้งหมด

มุมปากเซ็กซี่ของชายคนนั้นยกขึ้น เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าโลกนี้จะมีผู้หญิงแบบนี้ด้วย เธอไม่ถือว่าโดดเด่นและก็ไม่ใช่สาวงาม แต่เธอมีเสน่ห์บางอย่างที่ทำให้เขาคลั่งไคล้และเต็มใจที่จะเป็นถ้ำมองคอยจ้องมองเธอ

ถังจือซย่าตอกบัตรทันในเวลาหนึ่งนาทีสุดท้าย พอเห็นไฟเขียวที่สว่าง มุมปากของเธอก็ยกขึ้นด้วยความรู้สึกสำเร็จเล็กๆ ความรู้สึกของการตอกบัตรทำให้เธอรู้สึกสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก

พอถังจือซย่ามาถึงห้องทำงาน หลี่เสี่ยวซินก็ยกกาแฟมาให้เธอ “พี่จือซย่า วันนี้พี่จะไปพบลูกค้าใช่ไหม ต้องเตรียมเอกสารอะไรหรือเปล่า”

ถังจือซย่าคิดขึ้นมาได้ในทันทีว่าวันนี้ต้องไปพบกับหันเหลยหย่า เธอเดินไปที่ตู้เก็บของและหยิบเอกสารสองสามฉบับออกมาวางบนโต๊ะ

“พี่จือซย่า ให้ฉันไปกับพี่ด้วยไหม” หลี่เสี่ยวซินถามออกไป

ถังจือซย่าส่ายหน้าพลางยิ้มออกมา “ไม่เป็นไร ฉันไปทำความเข้าใจสถานการณ์ก่อน ครั้งหน้าค่อยพาเธอไปด้วย”

จริงๆ แล้วหันเหลยหย่าต้องการจะกลั่นแกล้งเธอ ถ้าพาหลี่เสี่ยวซินไปอาจจะทำให้เธอโดนรังแกไปด้วย ให้เธอแบกรับความกดดันนี้เพียงคนเดียวเถอะ!

เวลาประมาณสิบโมง ถังจือซย่าก็โทรไปหาหันเหลยหย่า เสียงเฉยเมยของปลายสายดังขึ้นมา “นักออกแบบถัง เธอทำอะไรของเธออยู่ถึงพึ่งโทรมาหาฉันตอนนี้ ประสิทธิภาพการทำงานของเธอจะต่ำเกินไปแล้ว”

“ขอโทษค่ะ ฉันจะไปหาคุณเดี๋ยวนี้ ไม่ทราบว่าคุณอยากนัดเจอกันที่ไหนดีคะ”

“ฉันจะส่งที่อยู่ไปให้ เธอรีบมาล่ะ!”

ผ่านไปไม่นานถังจือซย่าก็ได้รับที่อยู่ เธอดูตำแหน่งของสถานที่สักครู่และเดินลงไปชั้นล่างเพื่อเรียกแท็กซี่

ขณะที่กำลังเดินทางอยู่นั้น ถังจือซย่าอดไม่ได้ที่จะนิ่งค้างไปครูหนึ่ง และอดไม่ได้ที่จะนึกถึงภาพที่สีจิ่วเฉินเล่นเป็นเพื่อนลูกเมื่อคืนนี้ ตอนที่เธอไปส่งลูกไปโรงเรียนในตอนเช้า ลูกชายถามออกมาด้วยใบหน้าที่คาดหวัง “หม่ามี๊ คืนนึคุฯอาสีจะมากินข้าวที่บ้านเราอีกไหมครับ”

ถังจือซย่าพูดออกไปเพื่อให้ลูกชายมีความสุข “มาสิ”

พอเห็นลูกชายกระโดดไปมาอย่างมีความสุข เธอก็คาดหวังว่าคืนนี้สีจิ่วเฉินจะไม่มีเรื่องอะไรและมาที่บ้านของเธอ

ถังจือซย่าถอนหายใจออกมา ช่วงนี้เธอเป็นอะไร ทำไมถึงมีเรื่องของผู้ชายคนนี้อยู่เต็มหัวกันนะ

ในเวลานั้นเอง เสียงของคนขับรถก็ดังขึ้นมา “คุณ ถึงแล้วครับ”

ถังจือซย่าเงยหน้าขึ้นมอง พอเห็นร้านป้ายของกาแฟขนาดใหญ่ก็จ่ายเงินและเดินลงจากรถ

เธอเดินเข้าไปในห้องโถงใหญ่ และเพิ่งจะพบว่าร้านกาแฟอยู่ชั้นบนสุดของตึก เธอเดินเข้าไปในลิฟต์ขนาดใหญ่และขึ้นไปชั้นบนสุด ร้านกาแฟนี้เป็นร้านสำหรับคนมีฐานะ คนธรรมดาอย่างเธอปกติดื่มสตาร์บัคก็ถือว่าดีมากแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว