“5,888หยวนค่ะ ขอบคุณค่ะ” พนักงานพูดราคาออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม
ดวงตาของถังจือซย่าเบิกกว้าง ไม่อยากเชื่อว่ากาแฟหนึ่งแก้วจะแพงขนาดนี้ “ราคาของคุณสมเหตุสมผลแล้วหรือ”
“เราบดมาจากเมล็ดกาแฟที่คุณภาพดีที่สุดค่ะ คุ้มราคาแน่นอน”
ถังจือซย่าพูดไม่ออก แกแฟแก้วนั้นเธอยังไม่ได้ดื่มเลยสักนิด! เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่ารสชาติเป็นยังไง แต่จะมาเก็บเงินเธอขนาดนี้”
“ก็ได้ค่ะ เก็บเงินเลย ขอคุณนำกาแฟของฉันใส่แก้วกลับให้ด้วย เติมน้ำแข็ง น้ำตาลและก็นมให้ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ” ถังจือซย่าพูดจบก็ยื่นบัตรไปให้พนักงานที่กำลังตกตะลึง
พนักงานรีบให้เพื่อนร่วมงานนำกาแฟใส่แก้วกลับ และนั่นทำให้หันเหลยหย่าที่นั่งติดหน้าต่างหัวเราะออกมา “ถังจือซย่า ขอโทษทีนะ ฉันลืมไปว่าเธอเป็นพนักงานธรรมดา กาแฟแก้วนี้คงจะราคาเท่ากับเงินเดือนของเธอครึ่งหนึ่งเลยใช่ไหม!”
ถังจือซย่าไม่อยากที่จะหันกลับไปตอบเธอ พนักงานที่อยู่รอบๆ มองเธอด้วยสายตาที่แปลกไป ถังจือซย่ารับสายตาพวกนั้นมาอย่างไม่เกรงกลัวอะไร พนักงานนำกาแฟมาส่งให้เธอถึงมือ เธอรับมาและเดินออกไป
หันเหลยหย่ากัดฟันด้วยความโกรธ ถังจือซย่าเป็นคนที่ทำอะไรไม่ได้และเชื่อมั่นในความคิดของตัวเองสุดๆ
ถังจือซย่ากลับมาที่บริษัทก็เป็นเวลารับประทานอาหารเที่ยงแล้ว เธอนัดหลี่เหมยออกไปทานอาหารด้านนอก และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้เธอฟัง
“อะไรนะ เขาแค่อยากจะแกล้งเธอเท่านั้น?” หลี่เหมยถามออกมาด้วยความตกใจ
“ใช่ค่ะ! เธอแค่อยากจะให้ฉันออกห่างจากเพื่อนของฉันและตั้งใจมากลั่นแกล้งฉันเท่านั้น ไม่ได้ตั้งใจจะสั่งซื้อสินค้าจากพวกเราจริงๆ ค่ะ” ถังจือซย่ายังไม่ได้พูดถึงกาแฟแก้วนั้นเลยนะ!
“เป็นแบบนี้นี่เอง งั้นฉันจะไปยื่นเรื่องกับเบื้องบนสักหน่อย จะได้จ่ายค่าชดใช้ให้เธอไป!” หลี่เหมยเป็นคนที่ค่อนข้างจะมีเหตุผล
ถังจือซย่าพยักหน้า “งั้นฉันขอรบกวนพี่เหมยจัดการให้หน่อยนะคะ”
“ไม่เป็นไร เรื่องแบบนี้ เราก็ยอมให้คนมารังแกไม่ได้หรอกใช่ไหมล่ะ!” หลี่เหมยยิ้มออกมา
จะว่าไปแล้ว ขอแค่มีสีจิ่วเฉินอยู่ คงไม่มีใครกล้ามารังแกเธอหรอก!
เวลาประมาณสองโมงครึ่ง หลี่เหมยก็ขึ้นไปที่ห้องทำงานของสีจิ่วเฉิน สีจิ่วเฉินกำลังนั่งอ่านเอกสารอยู่ที่โซฟา ผู้ชายคนนี้จัดการกับงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก ตอนเช้ามีเอกสารเป็นกอง ตอนนี้เหลือเพียงไม่กี่ฉบับแล้ว
“ประธานสีคะ ฉันมีเรื่องจะรายงานค่ะ” หลี่เหมยพูดกับเขา
สีจิ่วเฉินวางเอกสารลงและพยักหน้า “พูดมา!”
หลี่เหมยเล่าเรื่องที่ถังจือซย่าไปพบกับหันเหลยหย่าเมื่อตอนเช้าให้ฟัง และถามออกไป “ฉันอยากจะมายื่นเรื่องการจ่ายค่าชดใช้ที่ผิดสัญญาค่ะ”
ใบหน้าหล่อเหลาของสีจิ่วเฉินดูเคร่งขรึมขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เขาพูดออกมาอย่างเย็นชาว่า “มารังแกพนักงานของผมแล้วยังกล้ามาเรียกร้องค่าเสียหายอีก คุณหันท่านนี้เห็นบริษัทของเราเป็นของเล่นหรือไง”
หลี่เหมยตกตะลึง ดูท่าประธานสีจะโกรธเสียแล้ว!
“งั้นฉันโทรกลับไปปรึกษากับคุณหันอีกครั้งว่าเรื่องนี้สามารถจบกันไปได้ไหม”
“นัดคุณหันมาที่บริษัทบ่ายนี้ ผมจะพูดเธอเรื่องการจ่ายค่าผิดสัญญาเอง” สิ่วเฉินพูดออกมาอย่างเคร่งขรึมราวกับว่าจะไม่ปล่อยให้เรื่องนี้จบไปง่ายๆ
หลี่เหมยอดที่จะดีใจขึ้นมาไม่ได้ ตอนนี้มีเรื่องสนุกให้ดูแล้ว
“รับทราบค่ะประธานสี” หลี่เหมยออกไปแล้ว สีจิ่วเฉินหรี่ตาลง ผู้หญิงคนนี้ถูกรังแกมางั้นหรือ
หลี่เหมยกลับมาถึงห้องทำงานก็โทรไปหาหันเหลยหย่าในทันที เธอไม่ได้บอกว่าสีจิ่วเฉินจะเข้าพบเธอด้วยตัวเขาเอง เธอเพียงแค่นัดหันเหลยหย่ามาเจรจาเรื่องการจ่ายค่าผิดสัญญาเท่านั้น หันเหลยหย่าอยู่แถวนี้พอดี ใช้เวลาประมาณยี่สิบนาทีก็ถึงแล้ว
หลี่เหมยมาที่ห้องทำงานของถังจือซย่า และบอกกับเธอว่าเรื่องของหันเหลยหย่าสีจิ่วเฉินจะเป็นคนจัดการเอง
“ถังจือซย่าอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง “เขามีเวลาจัดการเรื่องนี้ด้วยหรือ”
“จือซย่า เธอเดาว่าหันเหลยหย่าจะได้เงินค่าผิดสัญญาไหม”
“ถ้าเกิดว่าเธอได้ไปจริงๆ เธอก็สะดวกสบายเกินไปแล้ว อยู่ดีๆ ก็ได้เงินมาสองล้าน เรื่องแบบนี้ฉันก็อยากไปทำเหมือนกัน” ดวงตาของถังจือซย่าเป็นประกายที่ค้นพบเส้นทางรวย
“อย่าซื่อบื้อหน่า นี่มันผิดกฎหมายนะ เธอตั้งใจทำงานไปน่ะมั่นคงดีแล้ว” พูดจบหลี่เหมยก็เดินยิ้มออกไป
ถังจือซย่าเอามือเท้าคาง เธอไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว
หลังจากผ่านไปยี่สิบนาที หันเหลยหย่าก็มาถึง เธอพาเพื่อนสาวของเธอมาด้วย หลี่เหมยเชิญพวกเธอไปที่ห้องรับแขกและต้อนรับเป็นอย่างดี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว