รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว นิยาย บท 152

เวลานี้ หันเหลยหย่าพยายามคิดหาวิธีที่จะให้สีจิ่วเฉินยกโทษให้ เธอคิดไม่ถึงว่าถังจือซย่าจะเอาน้ำมันไปราดกองไฟ เธออดไม่ได้ที่จะแอบจ้องไปที่ถังจือซย่า

พอสีจิ่วเฉินฟังจบ ใบหน้าหล่อเหลาของเขาเคร่งขรึมขึ้น ใจของหันเหลยหย่าก็บีบรัดแน่นขึ้นตามไปด้วย

“ขอโทษค่ะ คุณสี ฉัน...ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันคิดว่าคุณถังชอบดื่มกาแฟแก้วนั้น” หันเหลยหย่าพยายามกอบกู้ภาพลักษณ์ของตัวเองกลับมา ยังไงสีจิ่วเฉินก็เป็นญาติกับจ้านฉิงเหย่ เธอจะเสียชื่อต่อหน้าเขาไม่ได้เด็ดขาด!

ถังจือซย่าเห็นเช่นนั้นจึงยกยิ้มขึ้น “คุณหัน เอาอย่างนี้แล้วกัน! ฉันจะรับคำขอโทษ และคุณก็คืนเงินค่ากาแฟมาให้ฉัน แล้วเราก็จบเรื่องนี้กันเถอะ!”

ในใจของหันเหลยหย่าไม่ยอมเป็นอย่างมาก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ วิธีที่ถังจือซย่าเสนอมานั้นเธอสามารถทำได้ เธออดกลั้นความโกรธนั้นเอาไว้อย่างสุดความสามารถและพยักหน้า “ได้ ฉันขอโทษก็ได้ เงินชดเชยก็ไม่ต้องให้แล้วและฉันจะจ่ายเงินค่ากาแฟให้เธอด้วย”

สีจิ่วเฉินเห็นว่าเธอพูดออกมาเองแล้วจึงไม่ได้ช่วยออกหน้าให้เธอ เขาเห็นถังจือซย่าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดคิวอาร์โคดและวางไว้บนโต๊ะ หันเหลยหย่าก็รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาสแกน และโอนเงินไป5,888หยวน

ในเวลาเดียวกันนั้น ก็มีเสียงสูดหายใจเข้าลึกๆ และพูดขึ้นมาว่า “คุณถัง ขอโทษนะคะ ให้อภัยกับความไร้มารยาทของฉันด้วย”

ถังจือซย่าหยิบโทรศัพท์ไปและตรวจสอบยอดจำนวนเงิน เธอตอบรับโดยที่ยังไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา “ตกลง ฉันยกโทษให้คุณ”

ผู้ชายคนนั้นมองไปที่ผู้หญิงที่กำลังก้มหน้าดูจำนวนเงินอยู่ สายตาเย็นชาเมื่อสักครู่นี้มีความอ่อนโยนมากขึ้น

ผู้หญิงคนนี้ตกลงไปในบ่อเงินแล้วหรือ

“คุณสี ขอโทษนะคะ รบกวนเวลาอันมีค่าของคุณแล้ว พวกเรายังมีธุระอื่นอีกคงต้องขอตัวก่อน” หันเหลยหย่ารีบดึงตัวเพื่อนที่นั่งข้างๆ ให้ลุกขึ้นและรีบเดินออกประตูไป กลัวว่าถ้าอยู่นานกว่านี้อีกแค่วินาทีเดียวคงจะทำให้ผู้ชายคนนี้ไม่พอใจ”

ถังจือซย่าก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและหันไปมองชายคนนั้นด้วยความขอบคุณ “ประธานสี ขอบคุณที่ช่วยรักษาความยุติธรรมให้กับฉันนะคะ”

“เย็นนี้เพิ่มกับข้าวอีกหนึ่งอย่าง” ชายคนนั้นยกคิ้วขึ้น แสดงออกว่าต้องการคำขอบคุณเป็นการลงมือทำ

ถังจือซย่ากลั้นยิ้ม “ได้ค่ะ เพิ่มให้คุณสองอย่างเลยพอไหมคะ ประธานสี”

ถังจือซย่ายืนอยู่ที่ประตู และลากเสียงยาวๆ เธอไม่รู้ว่าสองคำสุดท้ายที่เธอพูดออกมานั้น ติดอยู่ในใจใครเป็นพิเศษ ราวกับมีขนนกปลิวว่อนอยู่ในใจของชายคนนั้น

หัวใจของสีจิ่วเฉินเต้นแรงมาก เขาเลิกคิ้วขึ้น “อย่าลืมหุงข้าวเพิ่ม”

“รู้แล้วน่า!” ถังจือซย่ารู้สึกเขินเล็กน้อยที่พูดกับเขาแบบนี้ที่บริษัท จึงรีบเปิดประตูและเดินออกไป

ถึงแม้วันนี้จะถูกรังแกมา แต่สุดท้ายก็รู้สึกสบายใจและโล่งใจมาก

ทันทีที่หันเหลยหย่ากลับมาถึงที่รถ เธอตีไปที่พวงมาลัยด้วยความโกรธ ใบหน้าของเพื่อนเธอที่นั่งข้างๆ ก็ดูไม่สบอารมณ์มากนัก “ถังจือซย่ามันมีอะไรดีนักหนา สีจิ่วเฉินถึงโกรธแทนเธอขนาดนั้น”

“โดนดูถูกรอบนี้ ฉันจะหาโอกาสเอาคืนเธอแน่นอน” หันเหลยหย่าโกรธมากจริงๆ

หลี่เหมยจัดการเรื่องของหันเหลยหย่าจนเรียบร้อย และในห้องทำงานก็ไม่มีใครร็ว่าสีจิ่วเฉินมาจัดการเรื่องนี้ให้ถังจือซย่าด้วยตัวเอง ถ้าไม่อย่างนั้นถังจือซย่าคงจะโดนอิจฉาริษยาและเคียดแค้นมากกว่าเดิม

ถังจือซย่าก็คิดขึ้นมาได้ว่าหลักๆ แล้วเป็นเพราะว่าได้เงินห้าพันกว่าหยวนนั้นกลับคืนมาแล้ว เลยทำให้เธอไม่คิดเล็กคิดน้อยอีก เธอเรียนรู้มาอย่างหนึ่งนั่นก็คือไม่ควรให้คนและเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับเธอมาเอาเวลาของเธอไป

เวลาบ่ายสามโมง หลังจากที่เธอไปคุยกับหลี่เหมยสองสามประโยค เธอก็ผลักประตูห้องทำงานของเธอให้เปิดออก เธอเห็นจ้านฉิงเหย่นั่งทำลับๆ ล่อๆ อยู่ที่ที่นั่งของเธอ

เมื่อเห็นว่าเธอกลับมาแล้ว เขาก็หันเก้าอี้มาอย่างสง่าผ่าเผย และส่งยิ้มที่สว่างไสวราวกับพราะอาทิตย์มาให้เธอ โดยเฉพาะฟันขาวซี่ใหญ่เป็นประกายของเขา

“นายมาทำอะไรที่นี่ การตกแต่งเสร็จแล้วหรือ” ถังจือซย่าเดินเข้าไปถาม

“ฉันแค่มาตรวจสอบสักหน่อย ก็เลยมาหาเธอด้วย ไหนคืนนี้จะต้องไปกินข้าวเย็นกับเธอและก็เฉินเฉินอีก”

“เอ๊ะ? คืนนี้?” ถังจือซย่ากังวลใจขึ้นมา คืนนี้เธอต้องทำกับข้าวให้สีจิ่วเฉิน

“อร่อย” จ้านฉิงเหย่พูดจบก็เอื้อมมือไปหยิบน้ำบนโต๊ะของเธอขึ้นมาดื่ม

ถังจือซย่าเบิกตากว้าง จะพูดก็สายไปแล้ว เธอรีบหยิบแก้วน้ำของเธอกลับคืนมา “ห้ามดื่มน้ำจากแก้วของฉัน”

“ขี้เหนียวจริง ดื่มอึกเดียวมันจะเป็นอะไรล่ะ” จ้านฉิงเหย่เม้มปาก เขารู้สึกเสียใจมาก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว