ฉู่เฮ่าที่อยู่ด้านนอกเคาะประตูและเข้ามาแจ้งว่า “ประธานสีครับ คุณซ่งมาครับ”
สีจิ่วเฉินขมวดคิ้ว “ให้เธอเข้ามา”
ซ่งซานเผยยิ้มที่ชวนหลงใหลออกมาและเรียกเขาอย่างอ่อนหวาน “จิ่วเฉิน ฉันเอาชายามบ่ายและขนมหวานมาส่งให้คุณ”
เธอมาในเวลานี้เพราะว่าอยากจะชวนสีจิ่วเฉินไปรับประทานอาหารเย็น
“ต่อไปนี้ไม่ต้องมาส่งแล้ว ผมไม่ค่อยชอบกินของหวาน” สีจิ่วเฉินเอนตัวไปด้านหลัง เสื้อเชิ้ตสีขาวทำให้เธอยากจะหักห้ามอารมณ์ โดยเฉพาะท่าทางเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าที่ดูน่าหลงใหลนั่น
หัวใจของซ่งซานเต้นแรง ผู้ชายที่หล่อเหลาและสูงส่งเช่นนี้ จะมีผู้หญิงที่ไหนไม่หวั่นไหวบ้าง
ซ่งซานคำนวณเวลา และเดินเข้าไปใกล้สีจิ่วเฉินทีละก้าว ในใจคิดว่า ถังจือซย่าคงจะใกล้จะมาถึงแล้วใช่ไหม!
ขณะนี้ ถังจือซย่าได้รับแจ้งจากซูเหม่ย เธอขึ้นไปชั้นบนโดยไม่ได้คิดอะไรมาก ผู้ชายที่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟที่โทรศัพท์มาเมื่อกี้ ตอนนี้จะเรียกเธอไปทำไมอีกล่ะ
คงจะไม่ได้จะใช้เรื่องงานเป็นข้ออ้างเพื่อด่าเธอหรอกใช่ไหม
ซ่งซานเดินไปถึงที่ข้างกายสีจิ่วเฉินแล้ว จู่ๆ เธอก็ก่ายหน้าผาก “โอ๊ย...”
“คุณเป็นอะไร” สีจิ่วเฉินลุกยืนขึ้น สังเกตอาการเธอ
ทันใดนั้นเอง ซ่งซานเหมือนจะได้ยินเสียงรองเท้าส้นสูงกระทบพื้น บวกกับที่กะเวลาไว้ก่อนหน้านี้ ใบหน้าของซ่งซานก็แสดงความทรมานออกมา และเซถลาเข้าไปในอ้อมแขนของสีจิ่วเฉิน
สีจิ่วเฉินใช้ประโยชน์จากแขนยาวของเขาในสถานการณ์นี้ ซ่งซานกอดไปที่เอวของเขา “จิ่วเฉิน ฉันเวียนหัวมากเลย...”
“ผมจะพยุงคุณไปพักที่โซฟา” สีจิ่วเฉินอยากเว้นระยะห่างกับเธอ
แต่ซ่งซานก็กอดเอวของเขาเอาไว้แน่น ไม่ยอมปล่อย เธอเงยหน้าขึ้นและหลับตาแน่น “จิ่วเฉิน มีอะไรเข้าไปในตาฉันก็ไม่รู้ ช่วยฉันดูหน่อยได้ไหม ฉันเจ็บมากเลย!”
สีจิ่วเฉินหรี่ตาลงและก้มลงเล็กน้อย
ในขณะนั้นเอง ประตูห้องทำงานของท่านประธานก็ถูกเปิดออก ถังจือซย่าไม่ได้เคาะประตูเพราะเธอคิดว่าสีจิ่วเฉินกำลังรอที่จะคุยกับเธออยู่แล้ว
ประตูเปิดออก สิ่งที่เธอเห็นคือชายหญิงคู่หนึ่งที่กำลังกอดกันอย่างสนิทสนม สีจิ่วเฉินก้มลงไปใกล้กับใบหน้าของซ่งซาน ในขณะที่ซ่งซานกำลังหลับตาอยู่และเงยหน้าขึ้น ราวกับกำลังรอคอยจูบจากผู้ชายคนนี้อยู่
ดวงตาของถังจือซย่าเบิกกว้าง และจ้องไปที่ภาพนั้นหลายวินาที เธอรีบพูดออกไปอย่างสุขุมและเยือกเยือน “ฉันไม่รบกวนพวกคุณแล้ว ทำต่อได้เลย”
พูดจบเธอก็หันหลังกลับและปิดประตูอย่างแรง จากนั้นก็เดินจากไป
เรื่องที่เกิดขึ้นภายในไม่กี่วินาที สีจิ่วเฉินจึงยังไม่ทันได้ตอบโต้อะไร พอเขาได้สติกลับมา ก็รีบผลักไหล่ของซ่งซานออก และดึงมือของเธอที่เกาะอยู่ที่เอวออก เขารีบพูดกับซ่งซาน “ผมจะให้ฉู่เฮ่าไปส่งคุณที่โรงพยาบาล”
พูดจบเขาก็พลั้งมือผลักซ่งซานออกไป จริงๆ แล้วเขาผลักไม่แรงเลย แต่ซ่งซานก็ใช้โอกาสนี้ล้มลงไปและนั่งอยู่ที่พื้น
“โอ๊ย...” เธอส่งเสียงตกใจออกมา
สีจิ่วเฉินที่เพิ่งก้าวขายาวของเขาไปถึงประตู ก็หันหลังกลับมามองเธอ เขากำหมัดแน่นแต่ก็ยังเดินกลับมาช่วยพยุงซ่งซานให้ลุกขึ้น
“คุณไม่เป็นไรใช่ไหม!”
“ไม่เป็นไรค่ะ จิ่วเฉิน คุณเป็นอะไรไป” ซ่งซานตั้งใจถามออกไป
“ไม่มีอะไร” สีจิ่วเฉินพูดจบก็กดเรียกปลายสาย “ฉู่เฮ่าเข้ามาหน่อย”
เพียงครู่เดียวฉู่เฮ่าก็เคาะประตูและเดินเข้ามา สีจิ่วเฉินบอกกับเขา “ส่งคุณถังไปตรวจที่โรงพยาบาลหน่อย เสร็จแล้วก็ไปส่งเธอที่บ้านด้วย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว
สรุปเรื่องไม่ไปต่อแล้วเหรอค่ะ ติดตามมาตลอดหายไปอีกรอบ เสียดายจังค่ะ กำลังสนุกเลย ด้วยเพราะเหตุผลอะไร ยังไงก็ขอขอบคุณค่ะที่ทำให้การอ่านมีความสุขกับตัวละครที่สร้างจินตนาการให้นะ่ค่ะ...
เรืองหยุดชะงักอีกรอบแล้ว ผู้แต่งไม่สบายหรือเปล่าค่ะ หรือติดอะไรยังก็ขอเป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ รอการกลับมาของนิยายเรื่องนี้อยู่ตลอดค่ะ...
หายไป 3 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน.....
หายไป 2 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน...
สนุกมากค่ะ อยากให้ลงสักวันล่ะ 20 ตอนเลยค่ะ สนุกมากๆๆและมีลุ้นด้วยว่าจะยังไงต่อ ต่อไปจะเป็นคู่ของท่านรองปะค่ะ รองประธาน น่ะจะมีนะ555...
น่าสงสารนางเอกจัง และสงสารพระเอกที่จะบอกคนที่ตนเองรักยังไง ว่าคู่หมั้นตัวเองเป้นญาติกัน...
ติดตามต่อค่ะ สนุกมากๆๆๆ...
ลุ้นเนี่ยเฟย จะได้สมหวัง กับคุณหนูอันไหมน๊า แต่ลุ่นอีกคู่ค่ะ รอติดตามต่อค่ะ เป็นกำลังใจทุกตอนสนุกมากค่ะ...
ตายล่ะ ใช่แบบเดียวกับ ที่เป็นแฟลตไดร์ปะล่ะ ถ้าใช้ก็ต้องหาอีก555 เป็นกำลังใจให้ค่ะรอติดตามตอนต่อไปสนุกมาก ๆๆๆ...
เกือบความจำกลับมาแล้ว ความรู้สึกคนรักกัน ต้องมีบ้าง ความรู้สึก ของอาเฟยเกิดขึ้น...