รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว นิยาย บท 157

ใช่เวลาขับรถประมาณสิบนาทีก็ขับมาถึงชั้นล่างของคอนโด สีจิ่วเฉินจอดรถ ถังจือซย่าจึงยื่นกุญแจบ้านให้สีจิ่วเฉิน “คุณพาเฉินเฉินเข้าบ้านไปก่อน ฉันจะไปซื้อกับข้าวเอง”

สีจิ่วเฉินรับกุญแจมา จูงมือเด็กน้อยเดินเข้าไปทางประตูใหญ่ของคอนโด

ถังจือซย่ามาถึงซูเปอร์มาเก็ตที่ตั้งอยู่ด้านข้าง เธอกำลังเลือกซื้อผักอยู่ก็เหลือบไปเห็นพริกหยวกสีเขียวที่วางกองกันอยู่ด้านข้าง จู่ ๆเธอนึกอยากกินสามชั้นผัดพริก แล้วก็นึกอยากจะทำผัดพริกชี้ฟ้าลายเสือ แล้วก็หัวปลาราดพริกอีกเมนู

คืนนี้ถังจือซย่าก็มีอาหารรสจัดจ้านแล้ว นอกจากไข่ตุ๋นของลูกชายที่ไม่ใส่พริก ทุกเมนูล้วนมีพริกเป็นส่วนประกอบทุกจาน และยังใส่พริกขี้หนูเพิ่มอีกด้วย ยังไงเธอก็ชอบกินอยู่แล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าประธานบ้าอำนาจอย่างเขาจะชอบกินไหม

หลังจากถังจือซย่าซื้อเสร็จ รู้สึกอารมณ์ดีจึงเลือกซื้อผลไม้นิดหน่อยถือกลับบ้าน เมื่อกลับมาถึงบ้าน สีจิ่วเฉินกำลังเล่นตัวต่อไม้กับเด็กน้อยอยู่ ถังจือซย่าจึงล้างผลไม้แล้วเอาไปวางไว้บนโต๊ะ แต่พบว่าผู้ชายคนนั้นหยิบแก้วของเธอไปใช้ดื่มน้ำอีกแล้ว

เธออดไม่ได้ที่จะหงุดหงิด ทำไมถึงไม่ซื้อแก้วที่ใช้แล้วทิ้งกลับมานะ?

“ฉันไปทำกับข้าวก่อนนะ” ถังจือซย่าพูดจบก็เดินเข้าไปยุ่งอยู่ในครัว

ทำกับข้าวมื้อนี้เล่นเอาเธอฉุนจนสำลัก แต่รสชาติต้องอร่อยเลิศแน่นอน ถังจือซย่าใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงในการทำกับข้าว เธอยกมาตั้งโต๊ะ ล้วนเป็นสีแดงๆเขียวๆของสีพริกหยวก กลิ่นพริกลอยอบอวลในอากาศ ทำเอาเด็กน้อยถึงกับจามไปหลายครั้ง

“กินข้าวได้แล้ว” ถังจือซย่าหันไปเรียกร่างสูงกับร่างเล็กที่นั่งเล่นอยู่บนโซฟา

สีจิ่วเฉินลุกขึ้นมา ตอนเขาเห็นกับข้าวที่วางอยู่บนโต๊ะ ตกใจอย่างเห็นได้ชัด แต่เขาไม่ได้บ่นอะไร นั่งลงแล้วหยิบถ้วยข้าวขึ้นมาเริ่มกิน กลับเป็นเด็กน้อยด้านข้างที่ทำปากจู๋ถาม “หม่ามี้ อาหารมื้อนี้เผ็ดจังเลย!”

ถังจือซย่ายิ้มอยู่ด้านข้างอธิบายขึ้น “นั้นเพราะว่าหม่ามี้ชอบกินเผ็ดไงจ๊ะ!”

“อาสี คุณชอบกินพริกไหม?” เด็กน้อยเอียงหัวเล็กๆถามด้วยความสงสัย

ชายหนุ่มกลับยิ้มเล็กน้อย “ชอบ”

สายตาของถังจือซย่าปรากฏแววตานึกสนุกขึ้นมา ยื่นมือไปคีบพริกหยวกลายเสือสองเม็ดวางไว้ในถ้วยข้าวเขา “ถ้างั้นประธานสีกินเยอะๆ”

ชายหนุ่มมองเห็นพริกที่อยู่ในถ้วย ลูกกระเดือกเริ่มสั่นเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเขาเริ่มกดดัน

“รีบกินสิ!” ถังจือซย่าได้ใจ รีบเอ่ยเร่งอีกประโยค

ชายหนุ่มกัดลงไปหนึ่งคำต่อหน้าเธอ เห็นได้ชัดว่าเผ็ดเป็นอย่างมาก แต่เขาไม่ได้ส่งเสียงอะไรออกมา

ถังจือซย่าขยันขันแข็งมาก สักพักก็คีบหัวปลาครึ่งหัวใส่ไปในถ้วยของเขา “มาๆ ประธานสี นี่คือหัวปลาราดพริก อร่อยสุดๆ”

สีจิ่วเฉินรู้ว่าเธอมีเจตนาไม่ดี เห็นได้ชัดว่าเล็งเป้ามาที่เขา แต่ว่าเขาไม่ต่อต้านอะไร แต่ว่ากลับตั้งใจกินกับข้าวที่เธอคีบมาให้ ถังจือซย่าเป็นคนกินพริกได้ ดังนั้น เธอกินอย่างมีความสุข

สีหน้าของสีจิ่วเฉินมีเลือดฝาดขึ้นมากกว่าปกติเล็กน้อย เหมือนกับคนที่กินเหล้า เห็นได้ชัดว่ารู้สึกเผ็ดมาก แม้แต่หน้าผากที่เคยขาวสะอาดของเขา กลับเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อเป็นชั้นๆ

คืนนี้เขากินข้าวไปสองถ้วย อาจเป็นเพราะเผ็ดจนกินไม่ได้แล้ว ถังจือซย่ากินเสร็จก็เก็บถ้วยเก็บตะเกียบ เด็กน้อยก็ไปทำการบ้านของเขาให้เสร็จ

ถังจือซย่าล้างถ้วยเสร็จก็เดินออกมา เห็นสีจิ่วเฉินใช้แก้วของเธอดื่มน้ำตลอด เห็นได้ชัดว่าโดนความเผ็ดเล่นงานไปเต็มๆ

“นี่ก็ดึกมากแล้ว คุณควรกลับบ้านไปได้แล้ว!” ถังจือซย่าเอ่ยและมองไปทางผู้ชายที่นั่งอยู่บนโซฟา

เห็นเพียงแต่สีจิ่วเฉินหรี่ตามองเธอ เอ่ยด้วยเสียงต่ำ “มานี่”

ถังจือกะพริบตาปริบๆ “มีอะไรเหรอ”

สีจิ่วเฉินหยิบมือถือของเขาขึ้นมายื่นให้เธอ “ดูเอง”

ถังจือซย่าเดินเข้ามาอย่างสงสัยเล็กน้อย หยิบมือถือของเขาขึ้นมาก็พบว่าเป็นภาพกล้องวงจรปิดที่ถูกบันทึกภาพไว้อย่างละเอียด และเสียงของซ่งซานก็ดังออกมาจากมือถืออย่างชัดเจน “จิ่วเฉิน มีอะไรก็ไม่รู้เข้าตาฉัน ช่วยดูให้ฉันหน่อยได้ไหม? เจ็บจัง!”

ถังจือซย่ามองดูวิดีโอ ตาของซ่งซานปิดอยู่ และสีจิ่วเฉินก้มตัวลงไปเพื่อดูตาของเธอ และก็เป็นจังหวะนี้เองที่เธอเห็นเข้ากับตา เพียงแต่เธอไม่ได้ยินคำพูดก่อนหน้านั้นของซ่งซาน

ดังนั้น นี่คือความจริง ผู้ชายคนนี้เพียงแค่ช่วยซ่งซานดูสิ่งที่เขาตาเท่านั้น?

ตาของซ่งซานเจ็บตอนไหนไม่เจ็บ ต้องเป็นช่วงที่เธอผลักประตูเข้าไปตอนนั้นถึงเจ็บ อีกทั้งผู้ชายคนนี้รู้ทั้งรู้ว่าซ่งซานก็อยู่ด้วย ยังนัดเธอมาที่ห้องทำงานของเขาอีกทำไม?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว