รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว นิยาย บท 166

ถังจือซย่ากลับมาที่ห้องทำงาน ในใจรู้สึกสับสนวุ่นวายอย่างมาก วันนี้ท่าทีของสีจิ่วเฉินแปลกไปมาก ทำให้เธอรู้สึกถึงความผิดปกติ ผู้ชายคนนี้ชอบเธอจริงเหรอ

เขาจะให้ดอกไม้ก็ให้ แถมยังไปเลือกเอง อย่างจ้านฉิงเหย่ให้ดอกไม้ ก็แค่โทรไปสั่งดอกไม้ที่ร้านขายดอกไม้แน่นอน ใครจะมาหาเวลาว่างไปเลือกเองแบบเขากัน?

เขาจะโกรธก็ไม่แปลกหรอก เพราะเธอไม่ได้จัดการกับดอกไม้ที่เขาให้มาดีจริงๆ แต่เธอจะไปคิดได้ยังไงว่าดอกไม้พวกนั้นเขาเป็นคนเลือกทีละดอกทีละดอกเอง?

เฮ้อ!

ถังจือซย่ากุมศีรษะ กลุ้มใจอย่างมาก

ตอนบ่าย หลี่เหมยก็มาแจ้งข่าวดี ฝ่ายทรัพยากรบุคคลได้ติดต่อกับทางเบเบตาร์แล้ว รอเซ็นสัญญาแล้วก็จะเข้ามาประจำได้เลย ต่อไปของว่างในช่วงบ่าย ก็จะสามารถลิ้มรสของหวานและเค้กที่อร่อย รวมถึงกาแฟสดที่กลมกล่อมและกลิ่นหอมที่บริษัทได้แล้ว

ส่วนทั้งหมดนี้ ตอนนี้ทั้งบริษัทก็ได้รู้หมดแล้วว่า นี่เป็นผลงานของถังจือซย่า

และนี่ก็ทำให้ภาพลักษณ์ของถังจือซย่าในบริษัท ได้มีการพลิกผันไป พนักงานที่เคยดูถูกเธออย่างลับๆ ตอนนี้ก็ได้ขอบคุณเธออย่างเปิดเผย เพราะสวัสดิการแบบนี้มันยอดเยี่ยมมาก

เรื่องนี้คนที่เสียใจที่สุดก็คือไอ้หย่าแล้ว เธอหวังให้คนในบริษัททุกคนเกลียดถังจือซย่า แต่คิดไม่ถึงเลยว่าแค่เรื่องนี้ถังจือซย่าก็โน้มน้าวจิตใจคนให้มาเป็นพวกได้แล้ว

ในตอนนี้ซูเหม่ยเองก็แอบอยู่นอกบริษัทแล้วรีบโทรหาซ่งซาน บอกเรื่องนี้ให้ซ่งซานรู้

ซ่งซานเพิ่งจะแสดงละครให้ถังจือซย่าดู คิดไม่ถึงว่าถังจือซย่าจะโต้กลับภายในพริบตาเดียว เธอคิดว่าถังจือซย่ากำลังแสดงละครให้เธอดูอยู่ ให้เธอได้รู้ว่า ในใจของสีจิ่วเฉินเธอนั้นสำคัญอย่างไร

ซ่งซานกัดปาก รู้สึกแทบจะเป็นบ้าไปแล้ว เธอเหมือนเป็นคนที่อยู่ในโลกที่มืดมน ในใจของเธอไม่มีแสงสว่างมานานมากแล้ว เธอถูกความเกลียดชัง ริษยา และอารมณ์ด้านลบครอบงำไว้

การที่ได้เจอกับสีจิ่วเฉิน สำหรับเธอแล้ว มันไม่ใช่ความโชคดี แต่เป็นเคราะห์ร้ายต่างหาก

เจอกับคนที่สมบูรณ์แบบมากเกินไป ส่วนตัวเธอนั้นดีไม่มากพอ ดังนั้น นอกจากจิตใจเธอจะผิดปกติแล้ว ความสุขของเธอก็ได้หายไปเช่นกัน

เธอเกลียดถังจือซย่า เกลียดเข้าไส้เลย ในสายตาของซ่งซาน ถังจือซย่าเป็นคนทำลายชีวิตของเธอ

ตอนบ่าย ถังจือซย่าเอาแบบร่างอันแรกให้หลี่เหมยดู หลี่เหมยรู้สึกว่ามันดีมาก ให้เธอเก็บรายละเอียดอีกหน่อย พรุ่งนี้ก็เอาให้ลูกค้าผู้หญิงคนนั้นดูได้เลย ถ้าหากไม่มีปัญหาอะไร ก็ทำเป็นภาพสำเร็จแล้วเอาไปให้ที่โรงงานเริ่มทำการผลิตได้เลย

ประมาณสี่โมงเย็น ถังจือซย่ากำลังเก็บรายละเอียดงานบนหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างตั้งใจ อยู่ๆ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เธอยื่นมือไปรับ “ฮัลโหล”

“ลานจอดรถชั้นใต้ดิน ให้เวลาสองนาที” เสียงโทนต่ำของผู้ชายลอยมา

ถังจือซย่ารีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา เธอสูดลมหายใจเข้า พอยุ่งขึ้นมา เกือบลืมไปว่าจะต้องไปรับลูก

“ได้ จะไปเดี๋ยวนี้แหละ” ถังจือซย่าตอบ แล้วรีบเก็บของ ปิดคอมพิวเตอร์แล้ววิ่งออกไป

ที่ลานจอดรถชั้นใต้ดิน

ถังจือซย่าเห็นรถที่สตาร์ทเครื่องอยู่ เธอดึงประตูข้างที่นั่งคนขับออกแล้วนั่งเข้าไป คาดเข็มขัดไปพลาง รีบพูดไปพลาง “รีบไปเถอะ! จะสายแล้ว”

ผู้ชายหมดคำจะพูด ถ้าเขาไม่เตือนเธอ เธอก็ลืมไปแล้วว่าจะต้องไปรับลูก

แต่ถึงอย่างนั้น ผู้ชายก็เหยียบคันเร่งแล้วขับออกไป

ถังจือซย่ามองดูรถที่วิ่งขวักไขว่อยู่ข้างนอก เธอหายใจออก รู้สึกอารมณ์ดีอย่างมาก เพราะงานราบรื่น คนในครอบครัวก็ปลอดภัยดี ส่วนเธอเองก็รู้สึกผ่อนคลายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ในขณะนั้นเอง โทรศัพท์ถังจือซย่าดังขึ้น เธอหยิบออกมาดู เหม่อไปหลายวิ หันหัวไปมองผู้ชายข้างๆ “คุณย่านายโทรหาฉัน”

สีจิ่วเฉินมอง พูดเสียงต่ำว่า “เปิดลำโพง!”

ถังจือซย่าหายใจเข้าลึกๆ ยื่นมือไปเปิดเสียงลำโพง เสียงทั้งใสและมีมารยาท “ฮัลโหล สวัสดีค่ะคุณย่าสี”

เสียงที่ใจดีและอ่อนโยนของคุณนายใหญ่ลอยมา “จือซย่า! ช่วงนี้งานยุ่งไหม!”

“เอ่อ ไม่ค่อยยุ่งค่ะ คุณย่ามีอะไรหรือเปล่าคะ?” ถังจือซย่ายิ้มถาม

“คืออย่างนี้นะ พรุ่งนี้เที่ยงฉันจะเลี้ยงข้าวเธอ งานเลี้ยงครั้งก่อนรีบร้อนมากเกินไป ฉันไม่ได้คุยอะไรกับเธอเลย เพราะงั้น พรุ่งนี้เที่ยงว่างไหม”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว