รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว นิยาย บท 170

ถังจือซย่ายื่นมือไปลูบหัวของเขา พูดสบายๆ ว่า “หม่ามี้มีลูกก็พอแล้ว ชาตินี้หม่ามี้ไม่คิดที่จะแต่งงานอีกแล้วล่ะ”

เพราะเธอไม่กล้าที่จะไปเสี่ยงกับชีวิตในอนาคต เธอแค่อยากจะตั้งใจดูแลลูก ส่วนสีจิ่วเฉินนั้นเห็นได้ชัดว่าเป็นการตอบแทนบุญคุณ ความสัมพันธ์แบบนี้ อ่อนแอราวกับฟองสบู่ แค่เป่าก็แตกกระจายไป

ถังจือซย่าเองก็ไม่ใช่หญิงสาววัยใสแล้ว เธอจะต้องคิดไตร่ตรองให้แน่ชัด จะไม่ซาบซึ้งจนเอาใจไปแลกเพียงเพราะใครสักคนมาทำดีกับเธอ เธอในตอนนี้เป็นคนที่ใจเย็นมีสติสุดๆ

ยามเช้า

ถังจือซย่าเพิ่งเตรียมกระเป๋าให้ลูกเสร็จเตรียมที่จะออกจากบ้าน กริ่งประตูก็ดังขึ้น เธอมองดูที่ช่องตาแมว ถึงกับอึ้งไปเลย ทำไมถึงเป็นเขา

เธอเปิดประตูออก สีจิ่วเฉินแต่งกายสุภาพเรียบร้อย แสดงภาพลักษณ์ของชนชั้นสูง

“คุณอาสี” เจ้าเด็กน้อยกอดขายาวของเขาด้วยความดีใจ “มาได้ยังไงครับ”

“ฉันมาส่งเธอไปเรียน ส่งหม่ามี้ไปทำงาน”

“คุณอาสีเป็นคนดีจังครับ” เจ้าเด็กน้อยทำตาโต ใกล้ชิดสนิทสนมอย่างมาก

สายตาของสีจิ่วเฉินมองไปที่หญิงสาว หวังว่าเธอจะซาบซึ้งเหมือนกับลูกของเธอ แต่ถังจือซย่ากลับรู้สึกเกรงใจที่ต้องรบกวนเขา

“ต่อไปอย่าทำแบบนี้เลย ฉันไม่อยากคุณต้องเสียเวลาอันมีค่า” ถังจือซย่าพูดโน้มน้าวเขา

“เวลาของฉัน ฉันจะใช้ยังไงก็ได้” ชายหนุ่มยิ้มตอบ เขานั่งยองๆ ลงอุ้มเจ้าเด็กน้อยแล้วเดินไปที่ลิฟต์

ถังจือซย่าไม่รู้จะพูดอะไร ในมือของผู้ชายคนนี้ดำเนินกิจการหลายร้อยล้านต่อนาที ไม่อยากจะทำให้เขาเสียเวลาจริงๆ

หลังจากส่งเจ้าเด็กน้อยเสร็จ ถังจือซย่านึกได้ว่าตอนเที่ยงต้องไปเจอนายหญิงใหญ่สี เธอจึงหันไปมองผู้ชายที่อยู่ข้างๆ “มื้ออาหารตอนเที่ยง นายมาไหม”

“คุณย่าฉันไม่ได้เชิญฉัน” สีจิ่วเฉินเองก็กลุ้มใจ รอมาทั้งคืน ก็ไม่ได้รับสายจากคุณย่าเลย

เห็นได้ชัดว่า มื้ออาหารครั้งนี้จะเลี่ยงเขาไป

ถังจือซย่าเม้มปากพูด “ก็ได้! ฉันจะพยายามอธิบายกับคุณย่านายเอง”

รถของสีจิ่วเฉินวิ่งเข้าไปที่ลานจอดรถชั้นใต้ดิน ถังจือซย่าก็อยากจะรีบไป ไม่อยากจะปรากฏตัวในลิฟต์พร้อมกับเขา

แต่ชายหนุ่มก็ไม่อยากให้เธอสมหวัง เดินก้าวใหญ่ตามเธอไป เขากำลังจะเข้าลิฟต์ ถังจือซย่าก็รีบกดปุ่มปิดประตู พูดกับเขาที่อยู่ข้างนอกว่า “คุณรอรอบต่อไป”

แต่มือใหญ่ของชายหนุ่มยื่นมา ประตูลิฟต์จับสัญญาณได้ จึงทำงานใหม่ทันที เขาเดินเข้ามาอย่างสง่างาม

ถังจือซย่าเอามือกุมหน้าผากแล้วยืนอยู่ตรงมุม แม้จะขึ้นลิฟต์เดียวกับเขา เธอก็อยากจะอยู่ห่างเขาไว้ให้มากที่สุด

ตามที่คาดไว้ ที่ห้องโถงมีผู้คนจำนวนมากรีบจะขึ้นลิฟต์เพื่อไปทำงาน แต่พอประตูลิฟต์เปิดออก ผู้คนด้านนอกที่รีบร้อนนั้น กลับไม่มีใครกล้าก้าวเข้าไปเลย เพราะในลิฟต์นั้นมีเจ้านายใหญ่ของพวกเขายืนอยู่

“ประธานสี ท่านขึ้นก่อนเลย พวกเรารอรอบต่อไป” ทุกคนยิ้มอย่างประจบสอพลอ

ประตูลิฟต์ปิดลงทันที ถังจือซย่ากำลังชื่นชมแผ่นหลังที่น่าหลงใหลของชายหนุ่ม รูปร่างของนายแบบก็ยังดีไม่เท่าเขาเลย!

ไม้แขวนเสื้อที่ได้มาตรฐาน แถมยังเป็นแบบที่พอใส่เสื้อแล้วดูผอมเพรียว ถอดเสื้อก็มีเนื้อมีหนัง เป็นรูปร่างที่สมบูรณ์แบบจริงๆ

แผนกออกแบบถึงแล้ว ถังจือซย่ารีบเดินผ่านตัวเขาเพื่อออกจากประตูไป และในตอนนั้นเอง จู่ๆ มือของชายหนุ่มก็จูงมือของเธอ ถังจือซย่าตกใจตัวสั่น รีบสะบัดมือเขาออกแล้วออกจากลิฟต์มา และเธอยังมองซ้ายมองขวาด้วยความไม่มั่นใจ

แต่หน้าของเธอก็ร้อนระอุขึ้นมา

น่าโมโหจริงๆ

ถังจือซย่ามาถึงห้องทำงาน ก็รีบตั้งใจจดจ่ออยู่กับงานทันที แม้ว่ามือเธอจะบาดเจ็บ แต่ก็ต้องทำงานทั้งที่มีบาดแผล ดีที่ตอนนี้ทำงานบนคอมพิวเตอร์ เธอก็สะดวกขึ้นเยอะเลย

ภาพรายละเอียดของสร้อยคอคู่นี้เธอรู้สึกว่ามันสมบูรณ์แบบมากแล้ว เธอส่งให้หลี่เหมย ให้หลี่เหมยติดต่อกับลูกค้า ยังไงงานนี้ก็เป็นงานที่ใหญ่มาก หลี่เหมยเองก็ตามงานถี่

ประมาณสิบโมง โทรศัพท์ของถังจือซย่าดังขึ้น เธอยื่นมือไปรับ “ฮัลโหล! สวัสดีค่ะ ใครคะ”

“สวัสดีครับ คุณถังจือซย่าหรือเปล่าครับ จากร้านผลไม้นะครับ มีลูกค้าสั่งทุเรียนมูซังคิงหนึ่งคันรถที่ร้านของผม ไม่ทราบว่าให้ขนถ่ายสินค้าลงที่ไหนครับ”

“อะไรนะ หนึ่งคันรถ? ประมาณเท่าไหร่คะ”

“ก็สองร้อยกว่าอันนะครับ!”

ถังจือซย่าจะเป็นลม สีจิ่วเฉินมีเงินถึงได้เอาแต่ใจแบบนี้เหรอ แถมยังส่งมูซังคิงสองร้อยกว่าอันให้เธอแต่เช้าอีก?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว