รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว นิยาย บท 171

“คือว่า…คืนสินค้าได้ไหมคะ”

“ผลไม้ไม่รับคืนนะครับ! คุณหนูวางใจได้ มูซังคิงของเราเป็นเกรดพรีเมียม รับประกันคุณภาพครับ”

“ฉันรู้ค่ะ…ฉันเชื่อว่าคุณภาพของพวกคุณดีมาก แต่ฉันไม่ต้องการเยอะขนาดนี้”

“คุณหนู อันนี้คืนสินค้าไม่ได้จริงๆ ผลไม้ที่ขายออกไปแล้ว ไม่มีการคืนสินค้านะครับ!” เจ้าของที่อยู่ปลายสายแสดงถึงความอยากขายอย่างเต็มที่

ถังจือซย่ารู้สึกมึนหัว “งั้นก็ได้ค่ะ เดี๋ยวฉันจะติดต่อคุณไปนะคะ”

พอวางโทรศัพท์ลง ถังจือซย่ารีบต่อสายภายในไปที่ห้องทำงานของชายหนุ่ม

“ฮัลโหล” ผู้ชายรับสายด้วยเสียงโทนต่ำ

“นายสั่งทุเรียนมูซังคิงมาให้ฉันหนึ่งคันรถ?” ถังจือซย่ารีบถามตรงๆ

“อื้ม! เธอบอกเองไม่ใช่เหรอว่าอยากกินทุเรียนได้อย่างอิสระ? วันนี้ฉันทำให้เป็นจริงแล้ว เธอกินตามสบายได้เลย” สีจิ่วเฉินแสดงให้เห็นว่า ทุเรียนที่เธอจะกินวันนี้เขาได้เหมาไว้ให้หมดแล้ว

ถังจือซย่า “…”

ผู้ชายคนนี้ไม่รู้หรือว่าทุเรียนกินเยอะไม่ได้? ปกติกินอันหนึ่งก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าในวันหนึ่งกินมากเกินไป มันก็มีผลข้างเคียงนะ!

เบาหน่อยก็ร้อนใน ถ้าหนักก็ท้องผูกได้เลยนะ!

“คือว่า คืนสินค้าเถอะ! ฉันไม่กินเยอะขนาดนี้ เมื่อคืนฉันเพิ่งกินไปอันหนึ่ง กินเยอะไม่ได้”

“ทำไม” ผู้ชายอีกฝ่ายไม่มีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับทุเรียนจริงด้วย ถึงแม้ว่าเขาจะรอบรู้ดาราศาสตร์และภูมิศาสตร์ แต่เขาก็ได้เจอกับจุดบอดแล้วเช่นกัน

“เพราะทุเรียนมันจะร้อนใน กินเยอะมากไม่ได้” ถังจือซย่าอธิบายได้แค่นี้ แต่ประโยคข้างหลังมันไม่งาม จึงไม่ได้พูด

“เวลาฉันซื้อของ ไม่เคยมีการคืนสินค้ามาก่อน เธออยากจะจัดการยังไง ตัดสินใจเองเถอะ!”

“ฮัลโหล…นาย…”

“ฉันจะประชุมแล้ว” พอชายหนุ่มพูดจบก็วางสายไป

เจ้าของร้านผลไม้ยังรอคำตอบจากถังจือซย่าอยู่ ส่วนผู้ชายที่รับผิดชอบเรื่องการซื้อขายก็ไม่อยากจะสนใจเธอ ถังจือซย่าที่อยู่ตรงกลางไม่รู้จะต้องทำอย่างไร เธอคิดในใจ วันนี้คงจะต้องเลี้ยงทุเรียนทุกคนแล้วหล่ะ

เธอยื่นมือกดโทรไปหาหลี่เหมย บอกเรื่องราวความเป็นมากับเธอ หลี่เหมยที่อยู่ปลายสายพูดอย่างดีใจว่า “เรื่องนี้จัดการยากตรงไหน ให้พนักงานที่อยู่ในห้องทำงานไปรับมาคนละอันก็ได้แล้ว”

“งั้นคุณก็จัดการหน่อยแล้วกัน! อย่าบอกว่าฉันเป็นคนเลี้ยงเด็ดขาด คุณบอกว่าประธานสีเป็นคนเลี้ยงก็แล้วกัน”

หลี่เหมยที่อยู่ปลายสายหัวเราะออกมา “เธอแน่ใจว่าจะให้บอกว่าประธานสีเป็นคนเลี้ยง?”

“ใช่ บอกว่าเขาเป็นคนเลี้ยง น้ำใจนี้ฉันรับมาไม่ได้หรอก” ถังจือซย่าพูดอย่างแน่วแน่

“ได้ งั้นก็ทำตามนี้แล้วกัน!”

หลังจากสิบนาที เจ้าของร้านผลไม้ดีใจ เขาแจกทุเรียนที่หน้าประตูบริษัท ขอแค่เป็นพนักงานของบริษัทนี้ ใครที่เห็นก็จะได้รับ จนกว่าจะแจกหมด

หลี่เสี่ยวซินถือขึ้นมาสองอันอย่างดีใจ บอกว่ารับมาเผื่อถังจือซย่า ถังจือซย่าพูดขอบคุณ หลี่เสี่ยวซินพูดอย่างตื่นเต้น “พี่จือซย่ารู้ไหมว่าใครเลี้ยงทุเรียนพวกเรา? คือประธานสี แถมยังเป็นมูซังคิง ทุกคนดีใจมากเลย”

ถังจือซย่ากลั้นยิ้มแล้วพูดว่า “ดีแล้ว ฉันก็ดีใจมาก”

หลังจากที่หลี่เสี่ยวซินจากไป ถังจือซย่ากุมท้องแล้วฟุบลงกับโต๊ะ แทบจะหัวเราะจนเป็นลม ถ้าสีจิ่วเฉินรู้เรื่องนี้เข้า ไม่รู้จะทำสีหน้ายังไง!

สีเอ็มไพร์กรุ๊ป ณ ห้องประชุม

บรรยากาศเคร่งเครียดและสงบ สีจิ่วเฉินนั่งอยู่ที่หัวโต๊ะ แผ่ออร่าความเป็นเจ้าคนนายคนออกมา ภายใต้แสงฉายจากโปรเจคเตอร์ ยิ่งเผยท่าทีของผู้แข็งแกร่งออกมา

ผู้ที่ร่วมประชุมล้วนเป็นผู้จัดการระดับสูงของสีเอ็มไพรร์กรุ๊ป ในมือของพวกเขาแต่ละคนต่างดูแลโครงการใหญ่ๆ จากแต่ละสายงานทั่วโลก และพวกเขาจะต้องรายงานความคืบหน้ากับสีจิ่วเฉินทุกวัน จะปิดบังหรือขาดตกบกพร่องไม่ได้แม้แต่น้อย

โครงการที่สีเอ็มไพร์กรุ๊ปเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องคือโครงการด้านการเงินของทั่วโลก ไม่เพียงแค่เป็นผู้นำสายงานภายในประเทศเท่านั้น หลังจากที่สีจิ่วเฉินขึ้นรับตำแหน่ง ก็ได้ควบคุมการพัฒนาของบริษัทได้อย่างมั่นคง ทำให้สีเอ็มไพร์กรุ๊ปในตอนนี้ ก้าวไปสู่ความรุ่งเรืองมากกว่านี้

แม้ว่าจะผ่านวิกฤตทางการเงินมาหลายครั้ง แต่สีเอ็มไพร์กรุ๊ปที่เป็นดั่งเรือลำใหญ่ยังคงยืนหยัดได้อย่างมั่นคง ยังคงแล่นไปข้างหน้าในทะเลแห่งการค้าขายนี้อย่างปลอดภัย

การประชุมจบลงตอนประมาณสิบเอ็ดโมงครึ่ง สีจิ่วเฉินกลับไปที่ห้องทำงานของเขา ฉู่เฮ่าที่ยืนอยู่ข้างๆ เม้มปาก เหมือนมีเรื่องอะไรจะรายงาน

“เกิดอะไรขึ้นเหรอ” สีจิ่วเฉินมองเขา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว