รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว นิยาย บท 172

ฉู่เฮ่าเคยเรียนการแสดงออกทางสีหน้ามาก่อน แต่ในตอนนี้เขาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “ประธานสี ทุเรียนมูซังคิงหนึ่งคันรถที่ท่านสั่งมาตอนเช้า ถูกคุณถังเอาไปแบ่งให้กับพนักงานทั้งบริษัทแล้วครับ ปัญหาคือ คุณถังยกความดีความชอบให้ท่านหมดเลย”

สีหน้าของสีจิ่วเฉินอึ้งเล็กน้อย “จริงเหรอ”

“ใช่ครับ! ทุกคนรู้สึกขอบคุณท่านมาก…” พูดจบ ฉู่เฮ่าหัวเราะออกมา จึงรีบเอามือมาป้องปากกลั้นเอาไว้

“อยากหัวเราะก็หัวเราะ” สีจิ่วเฉินมองเขา เขาแค่ไม่คิดว่าผู้หญิงคนนี้จะใจกว้างขนาดนี้ แบ่งให้หมดเลย

ก็เหมือนกับดอกไม้ของเขา แต่วันนี้เขาอารมณ์ดีมาก

สีจิ่วเฉินนึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมา เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรไปหาคุณย่าเอง

“ฮัลโหล จิ่วเฉิน มีเรื่องอะไรเหรอ” เสียงของนายหญิงใหญ่สีดังขึ้น

“คุณย่า ตอนเที่ยงผมอยากจะทานข้าวกับท่านครับ ไม่ได้เจอมาหลายวันแล้ว”

“ตอนเย็นแล้วกัน! ตอนเที่ยงย่ามีนัดกินข้าวแล้ว”

“นัดกินข้าวอะไร สะดวกให้ผมไปร่วมด้วยไหมครับ”

“ไม่ค่อยสะดวกน่ะหลาน” นายหญิงใหญ่สีพูดออกมาตรงๆ

“ผมก็แค่กินข้าวเอง”

“งั้นก็ได้ ย่าจะบอกความจริงกับหลานนะ! ตอนเที่ยงย่านัดกินข้าวกับจ้านฉิงเหย่และจือซย่า ก็เพื่อพูดคุยเรื่องที่พวกเขาขอแต่งงานกันครั้งที่แล้วนั่นแหละ ย่าตัดสินใจว่าจะเลือกวันดีๆ ให้พวกเขาสักหน่อย”

“งั้นนับผมด้วยคนสิ! ผมก็จะไปกินข้าวด้วย” สีจิ่วเฉินพูดยิ้มๆ

“ก็ได้! หลานจะมาก็ได้ แต่อย่าทำเสียเรื่องเชียวนะ”

“วางใจเถอะ! ผมไม่ทำเสียเรื่องหรอก” สีจิ่วเฉินยิ้มมุมปาก ต่อให้เขาไม่ทำให้เสีย ยังไงเรื่องนี้ก็ไม่มีทางสำเร็จ

ถึงเวลาสิบเอ็ดโมงยี่สิบนาทีในพริบตาเดียว ถังจือซย่าดูโทรศัพท์อยู่เรื่อยๆ รอการแจ้งเตือนมื้อเที่ยงจากนายหญิงใหญ่สี

ในขณะนั้นเอง โทรศัพท์ของเธอดังขึ้น เธอรีบหยิบขึ้นมาดู นี่มันเบอร์ของนายหญิงใหญ่สีไม่ใช่เหรอ เธอสูบลมหายใจเข้าแล้วรับสาย “ฮาโหล คุณย่าสี”

“จือซย่า รถของย่าใกล้จะถึงหน้าประตูบริษัทแล้วนะ ลงมาเถอะ!” นายหญิงใหญ่สีมารับเธอด้วยตนเอง

ถังจือซย่ารู้สึกได้รับความโปรดปรานอย่างไม่คาดฝัน เธอยิ้มแล้วพูดว่า “ได้ค่ะ หนูจะลงไปเดี๋ยวนี้ค่ะ”

ถังจือซย่าลงมาที่หน้าประตู เห็นที่หน้าประตูมีรถสีดำจอดอยู่ สัญลักษณ์รูปทองที่ดุดันก็ไม่อาจไปบดบังความดุดันของรถคันนี้ได้

คนขับรถลงจากรถมาเปิดประตูให้เธอด้วยตนเอง ถังจือซย่าพูดอย่างซาบซึ้ง “ขอบคุณค่ะ”

“คุณถังไม่ต้องเกรงใจครับ” คนขับรถตอบ

เมื่อถังจือซย่านั่งเข้าไปที่เบาะหลัง ก็เห็นนายหญิงใหญ่สีใส่ชุดกี่เพ้าสีม่วงเข้มที่หรูหราสง่า เย็บด้วยด้ายสีทอง กระดุมถักคู่กับเพชรทับทิม ดูก็รู้ว่าเป็นรูปแบบงานฝีมือที่สั่งตัดโดยเฉพาะ

“คุณย่าสี” ถังจือซย่าทักทาย

“ไม่ได้เจอกันหลายวันอีกแล้ว มือเธอเป็นอะไร” นายหญิงใหญ่มองแวบเดียวก็เห็นผ้าพันแผลที่มือของเธอ

“ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ระวังเลยบาดเจ็บค่ะ”

“รุนแรงมากไหม”

“ไม่รุนแรง แผลนิดเดียวค่ะ” ถังจือซย่ายิ้ม นายหญิงใหญ่สีพยักหน้า “ครั้งหน้าก็ระวังหน่อยนะ” พูดจบ ก็มองไปที่ตึกผ่านกระจกรถ “นี่คือตึกที่เธอทำงานเหรอ”

“อื้ม!”

“ไม่เลวนะ บริษัทของพวกเธอถูกจิ่วเฉินรับซื้อไป ก็ถือว่าเป็นกิจการตระกูลสีของพวกเราแล้ว ต่อไปหลายๆ เรื่องก็จะช่วยเหลือเธอได้สะดวกแล้ว”

ถังจือซย่ารู้สึกขมขื่นในใจ เพียงเพื่อช่วยเหลือพนักงานเล็กๆ อย่างเธอ ที่สีจิ่วเฉินรับซื้อไม่ได้มีเพียงแค่หอรุ่ยเป่า แต่ยังรวมถึงบริษัทแม่ที่อยู่เบื้องหลังหอรุ่ยเป่าอย่าง QR อินเตอร์กรุ๊ปที่เป็นบริษัทระดับโลกอีกด้วย

“คุณย่าสี หนูสบายดีค่ะ ท่านไม่ต้องหนักใจมาช่วยเหลือหนูหรอกนะคะ” ถังจือซย่าพูดอย่างขอบคุณ

“ไม่ต้องรู้สึกลำบากใจหรอกลูก นี่เป็นสิ่งที่พวกเราต้องทำ การช่วยเหลือเธอก็ถือว่าเป็นการชดใช้ ใจของฉันก็จะรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย” ตาของนายหญิงใหญ่สีเริ่มแดง “บุญคุณที่ฉันติดแม่ของเธอ ต่อให้ถึงวันที่ฉันตายไป ก็คงคืนไม่หมดหรอก”

“คุณย่าสี ทำไมท่านถึงพูดแบบนี้คะ” ถังจือซย่าถามอย่างแปลกใจ

“เธอคงไม่รู้ ปีก่อนพ่อแม่ของจิ่วเฉินเสียไปพร้อมกัน ฉันในตอนนั้นต้องแบกรับสีเอ็มไพร์กรุ๊ปไว้คนเดียว ในอ้อมอกก็ยังมีจิ่วเฉินที่อายุยังน้อย ความหวังทั้งหมดของฉันในตอนนั้นฝากไว้กับจิ่วเฉินคนเดียว ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเขา แรงค้ำจุนสุดท้ายของท้ายของฉันก็คงจะหมดไป สีเอ็มไพร์กรุ๊ปของพวกเขามีอย่างทุกวันนี้ได้ ก็เพราะแลกมาด้วยชีวิตของแม่เธอ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว