รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว นิยาย บท 2

โคมไฟในห้องสาดส่องโทนแสงอบอุ่น ชายหนุ่มคนหนึ่งใบหน้าหล่อเหลาไร้ที่ติประหนึ่งเป็นลูกรักของพระเจ้า เสื้อเชิ้ตทำมือคุณภาพสูงช่วยขับให้กล้ามเนื้อหนาแน่นทรงพลังของเขาเด่นชัด ดวงตาของสีจิ่วเฉินเปล่งประกายความเย็นยะเยือกที่ไม่อาจคาดเดา น้ำเสียงที่ยืนยันหนักแน่นของคุณย่าดังขึ้นในสมอง “จิ่วเฉิน หลานต้องแต่งงานกับถังจือซย่า ตระกูลสีของเรานี้ ย่าจะยอมรับเพียงเธอคนนี้เป็นหลานสะใภ้เพียงคนเดียวเท่านั้น”

แต่ทว่าในเวลานี้ ในห้วงความคิดของสีจิ่วเฉินกลับคิดถึงคนอื่น หญิงสาวคนนั้นที่เขาครอบครองอย่างบ้าคลั่งในความมืดมิด คืนนั้นเขาดื่มสิ่งแปลกปลอมเข้าไป สติของเขาเลือนราง จำได้เพียงว่า ภายใต้ร่างกายของเขา เธอร้องไห้สะอึกสะอื้นและร้องขอความเมตตาอย่างสิ้นหวัง

หลังจากนั้นเขาถอดนาฬิกาของเขาออกแล้วสวมที่ข้อมือเธอ จากนั้นก็สลบไป

บัดนี้ ห้าปีผ่านมาแล้ว เขาพยายามตามหาเธอมาโดยตลอด กระทั่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เขาเพิ่งจะได้รู้ว่านาฬิกาของเขาเรือนนั้นถูกขายออกไปยังตลาดมือสอง แต่ทว่า คุณย่าของเขากลับต้องการให้เขาแต่งงานกับผู้หญิงอีกคน

ตอนนี้เองที่โทรศัพท์ของเขาดังขึ้น เขาเอื้อมมือไปรับ “ฮัลโหล”

“คุณชายครับ พบหญิงสาวคนนั้นแล้ว เธอชื่อซ่งซาน เธอเป็นคนที่ขายนาฬิกาครับ”

“เอาที่อยู่ของเธอมา ฉันจะไปหาเธอ” ดวงตาของสีจิ่วเฉินเปล่งประกายแห่งความยินดี ในที่สุด หญิงสาวลึกลับในคืนนั้นก็ปรากฏตัว เขาจะต้องหาเธอให้พบ

เพื่อชดใช้หนี้ที่เขาก่อขึ้นในคืนนั้น

ที่ร้านขายเสื้อผ้าสตรี เมื่อปีที่แล้วซ่งซานเซ้งร้านนี้มาเพื่อดำเนินกิจการต่อ แต่ช่วงหลังมานี้ธุรกิจเริ่มซบเซา เธอจ่ายค่าเช่าไม่ไหวจึงพยายามหาเงินด้วยวิธีต่างๆ สุดท้าย เธอลองขายนาฬิกาที่มีอยู่ออกไป และไม่คิดว่าจะขายได้ถึงห้าแสน เธอดีใจเป็นบ้าเป็นหลัง

นาฬิกาเรือนนี้ไม่ใช่ของเธอหรอก เมื่อห้าปีก่อน ทางคลับเฮาส์ได้ติดต่อหาเธอ แจ้งว่าพบนาฬิกาข้อมือตกอยู่ในห้องวีไอพีที่เธอจองไว้ และบอกให้เธอไปรับกลับคืน ทันทีที่เห็น ซ่งซานรู้ว่าเป็นนาฬิกาข้อมือหรูราคาแพงของผู้ชาย เธอจึงไม่พูดพร่ำทำเพลงเก็บกลับมาทันที

นาฬิกาเรือนนี้ถูกเก็บอยู่ในตู้ของเธอมาเป็นเวลาห้าปี จนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่เธอได้ตัดสินใจนำมันไปขายที่ตลาดมือสอง คิดไม่ถึงว่านาฬิกาเก่าๆ เรือนหนึ่งจะทำเงินให้เธอได้ถึงห้าแสน

เธอมองดูยอดเงินที่ถูกโอนเข้าบัญชีผ่านหน้าจอมือถือ อย่างมีความสุข ซ่งซานคิดอย่างสุขใจ เธอจะได้มีชีวิตที่ฟุ่มเฟือยอีกครั้งแล้ว

ทันใดนั้น

ประตูร้านของเธอเปิดออก เธอรีบลุกขึ้นพร้อมกล่าวทักทาย “ยินดีต้อนร...”

เธอมัวแต่ตะลึงจนลืมคำพูดพยางค์สุดท้าย

เธอมองเห็นชายคนหนึ่งเดินเข้ามาในร้าน รูปร่างสูงโปร่ง ใบหน้าหล่อเหลาไม่ธรรมดา ทุกความเคลื่อนไหวของเขาฉาบไปด้วยรัศมีของความสูงสง่า

ซ่งซานตื่นตกใจจนพูดติดอ่าง “คุณ...คุณมาหาใครคะ?”

เธอเปิดร้านเสื้อผ้าสตรี แต่คนที่เดินเข้ามาในเวลานี้กลับเป็นชายหนุ่มในชุดสูทชั้นเลิศ เป็นไปไม่ได้ที่จะเข้ามาซื้อเสื้อผ้าของเธอ ชายหนุ่มสูงราว 190 เซนติเมตร ออร่าเปล่งปลั่งและมีบุคลิกน่าเกรงขาม

“คุณก็คือซ่งซานใช่ไหม” สีจิ่วเฉินหรี่ตามองไปที่เธอเพื่อสแกนหาเงาร่างที่เลือนรางเมื่อห้าปีก่อน

“ฉัน...ฉันค่ะ! คุณคือ...” ซ่งซานเมื่อถูกสายตาเขามองมา ก็ตื่นเต้นจนพูดตะกุกตะกัก

ชายหนุ่มหยิบนาฬิกาออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นให้เธอ พร้อมกับถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “นาฬิกาเรือนนี้อยู่กับคุณมาตลอดเลยหรือ”

เมื่อเห็นนาฬิกาเรือนนั้น ซ่งซานกดคอลงด้วยความตกใจ เธอกะพริบตาถี่ๆ อย่างร้อนตัว “ใช่ค่ะ นาฬิกาเรือนนี้เป็น...เป็นของฉันเอง”

“เมื่อห้าปีก่อน ที่คลับเฮาส์ห้อง 808 ผู้หญิงในคืนนั้นก็คือคุณหรือ” สีจิ่วเฉินจ้องไปที่หญิงสาวตรงหน้า ในใจยังรู้สึกตะลึงงัน หญิงสาวในคืนนั้นใช่เธอคนนี้จริงๆ หรือ

ซ่งซานนึกย้อนกลับไปทันที ห้องหมายเลข 808 เมื่อห้าปีที่แล้ว ไม่ใช่ห้องที่เธอจองไว้ให้ร้ายถังจือซย่าหรอกหรือ แล้วทำไมหนุ่มตรงหน้าถึงได้ถามถึงเรื่องนี้

ด้วยความไม่คิดมาก ซ่งซานยอมรับอย่างผ่าเผย “เป็นฉันน่ะสิ”

“เก็บนาฬิกาเรือนนี้เอาไว้ให้ดี อย่าขายมันอีก เรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนั้น ผมจะชดเชยให้คุณเอง” สีจิ่วเฉินพูดจบก็เอานาฬิกาใส่ไว้ในมือเธอ “จำชื่อผมไว้ ผมชื่อสีจิ่วเฉิน”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว