ถังชิงชิงเอ่ยถามอย่างตะกุกตะกัก
“มีเรื่องบางเรื่องที่ฉันไม่ได้บอกเธอมาโดยตลอด ฉันกับตระกูลสีมีวาสนาต่อกัน ฉันได้ช่วยคนในตระกูลสีเอาไว้ ตอนนี้พวกเขากำลังตอบแทนบุญคุณและช่วยเหลือดูแลฉันอยู่ สรุปแล้วก็คือครั้งนี้ฉันเองก็ได้รับเชิญไปงานเลี้ยงวันเกิดเช่นกัน”
“รีบบอกฉันเร็วเข้า ว่าทำไมเธอถึงได้ตีสนิทกับตระกูลสีได้? เธอไปทำเรื่องอะไรไว้ถึงทำให้ตระกูลสีซาบซึ้ง?” ถังชิงชิงถามด้วยความอยากรู้อยากเห็นจนอกจะแตกตาย
ซ่งซานโชคดีมาจากไหนถึงได้ไปเกี่ยวข้องกับตระกูลสีได้?
“เรื่องนี้ฉันไม่สะดวกที่จะบอกเธอ เอาเป็นว่า ครั้งนี้พวกเราไปงานเลี้ยงด้วยกันเถอะ แล้วก็ร่วมมือทำเรื่องบางอย่างด้วยกัน นั้นก็คือทำให้ถังจือซย่าโดนคนตระกูลสีรังเกียจ แยกความสัมพันธ์ระหว่างหล่อนกับสีจิ่วเฉินออกจากกัน ทำให้ต่อจากนี้ไปหล่อนไม่สามารถเงยหน้ามองดูใครได้อีก” ซ่งซานเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเฉย
ถังชิงชิงเห็นด้วยขึ้นมาทันที เอ่ยพูดด้วยความแค้นที่คับแน่นอยู่ในจิตใจ “ใช่ เธอพูดถูก พวกเราร่วมมือกันทำลายความสัมพันธ์ระหว่างถังจือซย่ากับสีจิ่วเฉิน ไม่ให้หล่อนได้แต่งเข้าตระกูลสีอย่างเด็ดขาด”
“ฉันจะคิดแผนขึ้นมาหนึ่งแผน ถึงเวลานั้นเธอก็แค่ร่วมมือกับฉัน” ซ่งซานเป็นคนที่ตัดสินใจเด็ดขาดด้วยตัวเอง เป็นคนชอบวางแผนเจ้าเล่ห์เพทุบาย
ถังชิงชิงรู้ว่าซ่งซานเป็นคนเจ้าเล่ห์เพทุบายมาโดยตลอด เธอจึงผงกหัวตอบรับ “ฉันจะให้ความร่วมมือกับเธอแน่นอน ต้องโค่นล้มถังจือซย่าให้ได้ ทำให้เธอไม่สามารถเงยหน้าขึ้นมามองใครในงานเลี้ยงได้”
ถังชิงชิงถึงแม้จะคิดยังไงก็คิดไม่ออกว่าทำไมซ่งซานถึงได้มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับตระกูลสี แต่ว่าก่อนที่พวกเธอจะจากกัน ซ่งซานได้ให้ของขวัญเธอมาหนึ่งชิ้น เป็นสร้อยไข่มุกเส้นหนึ่งที่ราคาตั้งห้าแสนเลยล่ะ! ถังชิงชิงชอบใจจนไม่อาจละออกจากมือได้ เธอจึงถูกดึงตัวไปเป็นพวกเรียบร้อยแล้ว
และไม่ไปวิเคราะห์สืบหาถึงความสัมพันธ์ระหว่างซ่งซานกับตระกูลสีอีกแล้ว อีกทั้งในใจของเธอยังคิดต่อว่า ต่อไปในภายภาคหน้าต้องตีสนิทกับซ่งซานเอาไว้ อย่าได้ไปดูถูกเธออีก
หลังยามบ่ายอันแสนขี้เกียจของปลายฤดูใบไม้ร่วง ถังจือซย่ากำลังนั่งสเก็ตช์ภาพอยู่ในห้องทำงานด้วยจิตใจที่เบิกบานและอารมณ์สุนทรีย์ ไอเดียบรรเจิดราวกับสายน้ำไหล สักพักเธอก็ทำการแก้ไขสร้อยเส้นนั้นของสีจิ่วเฉินอีกครั้ง ให้มองดูแล้วองอาจและมีราศีมากกว่าเดิม ให้เต็มไปด้วยออร่าที่มีอำนาจเหนือสิ่งอื่นใด
ถังจือซย่าสเก็ตช์ภาพไปมา อยู่ๆ ก็เกิดความคิดบางอย่างขึ้นมาฉับพลัน เธอเริ่มใช้ทักษะการวาดภาพอันเก่งกาจเริ่มสเก็ตช์ภาพชายหนุ่มคนหนึ่งขึ้นมา
ถึงแม้ว่าชายหนุ่มคนนี้ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็หาไม่เจอจุดด้อย จะวาดเขาทำสีหน้าท่าทางแบบไหนก็ล้วนแต่ออกมาหล่อเหลา แต่ที่ถังจือซย่านึกถึงก็คือครั้งก่อนตอนที่ดื่มเหล้าชนแก้วร่วมกัน ในตอนนั้นชายหนุ่มเพียงหรี่ตามองลงเล็กน้อย สายตาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนแบบนั้น เธอรู้สึกอยากจะวาดออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว
ค่าต่อการอ่านหน้าต่อไปแพงจังค่ะ...
มาแล้ว พึ่งเข้ามาดู...
รอๆๆคะ...
สรุปเรื่องไม่ไปต่อแล้วเหรอค่ะ ติดตามมาตลอดหายไปอีกรอบ เสียดายจังค่ะ กำลังสนุกเลย ด้วยเพราะเหตุผลอะไร ยังไงก็ขอขอบคุณค่ะที่ทำให้การอ่านมีความสุขกับตัวละครที่สร้างจินตนาการให้นะ่ค่ะ...
เรืองหยุดชะงักอีกรอบแล้ว ผู้แต่งไม่สบายหรือเปล่าค่ะ หรือติดอะไรยังก็ขอเป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ รอการกลับมาของนิยายเรื่องนี้อยู่ตลอดค่ะ...
หายไป 3 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน.....
หายไป 2 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน...
สนุกมากค่ะ อยากให้ลงสักวันล่ะ 20 ตอนเลยค่ะ สนุกมากๆๆและมีลุ้นด้วยว่าจะยังไงต่อ ต่อไปจะเป็นคู่ของท่านรองปะค่ะ รองประธาน น่ะจะมีนะ555...
น่าสงสารนางเอกจัง และสงสารพระเอกที่จะบอกคนที่ตนเองรักยังไง ว่าคู่หมั้นตัวเองเป้นญาติกัน...
ติดตามต่อค่ะ สนุกมากๆๆๆ...