ถังจือซย่ารีบขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้นแปดเธอยืนอยู่หน้าห้องทำงานของท่านประธานและเคาะประตู เธอผลักประตูเข้าไปโดยไม่รอคำตอบจากข้างคนข้างใน
มองไปที่ลูกชายที่อยู่บนโซฟาของสีจิ่วเฉิน เธอถอนหายใจด้วยความโล่งอกและร้องออกมาอย่างโกรธเคือง "ถังอวี่เฉิน ลูกอยากให้หม่ามี๊ตกใจตายใช่ไหม เที่ยวไปไหนไปทั่ว"
ถังอวี่เฉิน ไม่คิดมาก่อนว่า เขาจะทำให้หม่ามี๊ตกใจจนหน้าซีด เขารีบวิ่งเข้าไปกอดขาเธอ “หม่ามี๊ ผมขอโทษ ผมผิดไปแล้ว”
ถังจือซย่าก็รู้ว่าน้ำเสียงของตนนั้นดุเกินไป เธอกอดถังอวี่เฉินไว้และถอนหายใจ “อย่าเที่ยวไปไหนไปทั่วสิ”
“เธอไปทำงานได้อย่างสบายใจเลย ส่งเขาให้ผม ผมจะดูแลลูกชายของคุณให้” เสียงผู้ชายต่ำทุ้มดังมาจากด้านหลัง
ถังจือซย่าตกตะลึง ไม่สิ ผู้ชายคนนี้มาที่นี่เพื่อตอบแทนบุญคุณของเธอ เธอไม่ต้องการรับความช่วยเหลืออะไรจากเขานอกจากเรื่องงาน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการดูแลลูกชายของเธอ เธอยิ่งไม่อยากรบกวนเขา
“ไม่ล่ะ ขอบคุณ” ถังจือซย่ากล่าวอย่างไม่พอใจ
“หม่ามี๊ ผมชอบอยู่กับคุณลุงสุดหล่อ หม่ามี๊ให้ผมอยู่กับเขาที่นี่รอหม่ามี๊เลิกงานนะฮะ” เจ้าเด็กน้อยถามอย่างร่าเริงและตั้งหน้าตั้งตารอ
ถังจือซย่าหมดคำจะพูดกับลูกชายของเธอ ติดใครไม่ติด ทำไมต้องติดสีจิ่วเฉินด้วยนะ
“ไม่ได้ หม่ามี้ยังต้องกลับไปประชุมที่ออฟฟิศของหม่ามี๊ แล้วก็จะพาลูกไปกินของอร่อยๆตอนเที่ยงด้วย”
“ไม่เอา ไม่เอา! ผมจะอยู่เล่นกับคุณลุงสุดหล่อที่นี่” เด็กน้อยแสดงท่าทีดื้อดึงที่เห็นได้น้อยหนัก
ถังจือซย่าคิดถึงการประชุมที่ยังคงดำเนินอยู่ มันเกี่ยวข้องกับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ เธอกัดฟัน เงยหน้าขึ้นและพูดกับชายผู้มีอำนาจที่อยู่ข้างหน้าเธอว่า "งั้นรบกวนนายช่วยดูแลแทนฉันด้วย"
“อืม!” สีจิ่วเฉินพยักหน้า
“เฉินเฉิน อย่าก่อเรื่องนะเข้าใจไหม หม่ามี๊ไปประชุมก่อน”
“ผมไม่ดื้อแน่นอนฮะ” เด็กน้อยรับปาก
ถังจือซย่าหันหลังกลับและออกไปประชุม เด็กน้อยกลับนั่งที่โซฟาอย่างมีความสุขและเล่นรูบิคที่หยิบมาจากกระเป๋าเป้ของเขา
สีจิ่วเฉินนั่งตรงข้ามเขา มองดูเจ้าตัวเล็กหมุนรูบิคอย่างชำนาญ เขาหมุนรูบิคทั้งหกด้านเสร็จภายในเวลาไม่ถึงสองนาที แสดงให้เห็นว่าสติปัญญาของเขาดีมาก
“ใครเป็นคนสอนเธอเหรอ”
“ผมเรียนเองฮะ ลุงสุดหล่อ ลุงใช้เวลาเท่าไหร่ถึงจะทำเสร็จเหรอฮะ” เด็กน้อยถามด้วยรอยยิ้ม
สีจิ่วเฉินรับรูบิคไป หลังจากหมุนรูบิคที่สลับสีกัน เขาใช้เวลาไม่ถึงสิบวินาทีก็หมุนเสร็จ แล้วโยนให้เจ้าตัวเล็ก เด็กน้อยอ้าปากแล้วมองเขาด้วยความชื่นชม "คุณลุงเก่งมาก!"
เห็นได้ชัดว่ามันเป็นคำชมจากเด็กน้อย แต่มันก็ทำให้สีจิ่วเฉินรู้สึกสบายใจและมีความสุข เขายกริมฝีปากยิ้ม “เธอก็ยอดเยี่ยมเช่นกัน”
ถ้ามีบุคคลที่สามอยู่ด้วยจะทึ่งมาก รอยยิ้มของเขากับเด็กน้อย ช่างเหมือนกัน
ถังจือซย่ากลับมาที่ห้องประชุม โชคดีที่หลี่เหมยไม่ได้พูดอะไร หลังจากการประชุม ก็ได้เวลารับประทานอาหารกลางวัน
ถังจือซย่ากำลังคิดว่าจะพาลูกชายไปทานอาหารเที่ยงที่ไหนดี ทันใดนั้น โทรศัพท์ตั้งโต๊ะของเธอก็ดังขึ้น เธอเอื้อมมือไปรับ "ฮัลโหล"
“ผมจะพาเฉินเฉินไปทานอาหารกลางวัน เธอก็มาที่นี่เถอะ! ร้านอาหารฝรั่งฝั่งตรงข้าม” เสียงทุ้มลึกของชายผู้นั้นยากที่จะปฏิเสธ
ถังจือซย่าเวียนหัวอย่างสงสัย สีจิ่วเฉินพาลูกชายไปทานอาหารกลางวันจริงๆเหรอ ได้ขออนุญาตเธอแล้วหรือยัง
น่ารังเกียจ ผู้ชายคนนี้พาลูกชายของเธอไปไม่บอกไม่กล่าวเลย เขาไม่ให้เกียรติเธอเลย
ถังจือซย่าหยิบโทรศัพท์มือถือและกระเป๋าแล้วออกไปอย่างรวดเร็ว ร้านอาหารฝรั่งระดับไฮเอนด์อยู่ตรงข้ามบริษัท ถังจือซย่าเดินเข้าไปที่โถง และก็เห็นลูกชายของเธอและสีจิ่วเฉินนั่งอยู่ที่ที่นั่งริมหน้าต่าง
ถังจือซย่าสูดหายใจเข้าลึก ๆ และเดินเข้าไป เธอนั่งข้างๆ ลูกชายของเธอ "มื้อนี้ฉันเลี้ยง ถือซะว่าเป็นการขอบคุณประธานสีที่ดูแลลูกชายของฉัน"
เมื่อพูดอย่างนี้ ถังจือซย่าก็รู้สึกสบายใจ
สีจิ่วเฉินจ้องเธออย่างเงียบๆ ความคิดของเขาซับซ้อน ผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะไม่เต็มใจที่จะยอมรับของความช่วยเหลือจากเขา
“แม่ครับ ลุงสุดหล่อใช้เวลาแค่สิบวินาทีก็หมุนรูบิคเสร็จ” เด็กน้อยพูด เขาต้องการบอกให้แม่รู้ว่าความยอดเยี่ยมของลุงสุดหล่อ
ถังจือซย่ายิ้มแบบขอไปที “จริงเหรอ”
พวกเขาสั่งอาหารกัน ในของว่างก่อนอาหารจานหลักมีไอศกรีมลูกหนึ่ง เด็กน้อยนำมันมากินอย่างมีความสุขทันที ถังจือซย่ารู้ว่าลูกชายของเขาท้องไส้ไม่ดีตั้งแต่เด็ก กินน้ำแข็งมากๆไม่ได้ เธอบอกว่า "หม่ามี๊ก็อยากชิมสักหน่อย"
“หม่ามี๊ กินสิ” ” เด็กน้อยตักให้เธอหนึ่งช้อน เธอรีบกิน คราวนี้เด็กน้อยตักอีกช้อนแล้วถามชายที่นั่งตรงข้ามว่า “คุณลุงเอาด้วยไหมฮะ”
ถังจือซย่าหัวแทบระเบิด เธอรีบห้าม “เฉินเฉิน ช้อนนี้หม่ามี๊ใช้แล้วก็เป็นช้อนของหม่ามี๊แล้ว จะให้คนอื่นใช้ด้วยมันไม่สุภาพนะ”
แต่ชายตรงข้ามหรี่ตาลง คิดในใจ เคยจูบกันแล้ว ยังแคร์เรื่องนี้อีกเหรอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว