รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว นิยาย บท 49

พอฉู่เฮ่าพูดจบ ก็รีบทำเป็นเอามือป้องปาก เขารู้ว่าเจ้านายไม่ได้อยากได้ยินคำพูดนี้

สีจิ่วเฉินทำเสียงไม่พอใจ ลูกพี่ลูกน้องของเขาคนนี้วันวันไม่ทำอะไร มัวแต่ครุ่นคิดเรื่องการตามจีบผู้หญิง

สีจิ่วเฉินหรี่ตา แล้วโทรไปยังโทรศัพท์สายใน

“ฮาโหล ใครคะ” เสียงหวานใสของถังจือเซี่ยลอยมาจากทางนั้น

“ฉันเตือนเธอแล้วใช่ไหม ว่าอย่าเข้าใกล้ลูกพี่ลูกน้องฉันให้มาก เธอไม่สนใจเลยใช่ไหม” เขาพูดอย่างเยือกเย็น

“สีจิ่วเฉิน บ้านนายอยู่ที่ทะเลหรือไง ถึงได้ยุ่งวุ่นวายกว้างขวางขนาดนี้ อยู่ที่บริษัทนายคือเจ้านาย แต่พอเลิกงาน ในสายตาของฉัน นายไม่ใช่อะไรทั้งนั้น” ถังจือเซี่ยด่าอย่างห้าวหาญ

สีหน้าของผู้ชายบางคนถึงกลับเปลี่ยนไป ผู้หญิงคนนี้ทำให้คนอื่นโกรธเก่งทีเดียว

“ถ้าเธอกล้าเล่นกับความรู้สึกเขาหล่ะก็…”

“ฉันคบหากับเพื่อนปกติ นายยุ่งอะไรด้วย” พอถังจือเซี่ยพูดจบก็วางสายไปเลย

สีหน้าของผู้ชายบางคนอึมครึมถึงสุดขีด ผู้หญิงคนนี้หยาบคายจริงๆ ผู้หญิงแบบนี้ ทำไมคุณย่าถึงจะให้แต่งงานด้วยนะ

หลังเลิกงาน ถังจือเซี่ยวิ่งออกจากห้องทำงานเป็นคนแรก เมื่อมาถึงใต้ตึก รถสปอร์ตอเนกประสงค์ของจ้านฉิงเหย่ก็จอดอยู่หน้าประตู สะดุดตายิ่งนัก

ถังจือเซี่ยเปิดประตูที่นั่งข้างคนขับแล้วขึ้นรถ บอกกับเขาว่า “ไปรับเฉินเฉินกันเถอะ!”

จ้านฉิงเหย่เห็นเธอใส่ชุดเครื่องแบบพนักงาน ในสายตาเกิดมีความลุ่มหลงขึ้นมา “เธอเป็นผู้หญิงที่ใส่ชุดเครื่องแบบที่สวยที่สุดที่ฉันเคยเจอมา”

ถังจือเซี่ยรู้สึกชอบใจ “คำพูดแบบนี้ฉันชอบฟัง”

หลังรับเจ้าเด็กน้อยที่โรงเรียนแล้ว เจ้าเด็กน้อยดีใจอย่างมากตามที่คาดไว้เลย นั่งบนคาร์ซีทที่เตรียมเพื่อเขาโดยเฉพาะอยู่ที่เบาะหลัง แถมยังร้องเพลงที่เขาเพิ่งเรียนมาใหม่อีกด้วย

“พ่อกับแม่ไปทำงาน…ส่วนผมไปโรงเรียน ไม่ร้องไห้ไม่งอแง ทักทายคุณครูว่าสวัสดีตอนเช้า…”

เสียงร้องที่ดังกังวานของเด็ก ร้องได้เพราะเชียว ถังจือเซี่ยตีเคาะจังหวะอย่างตั้งใจ เจ้าเด็กน้อยยิ่งร้องใหญ่เลย ร้องไปตั้งหลายรอบ

แม้กระทั่งจ้านฉิงเหย่ก็ฮัมเพลงขึ้นมา บรรยากาศที่สนุกสนานเต็มไปทั่วคันรถ

ในภัตตาคารหรู จ้านฉิงเหย่สั่งอาหารมามากมาย มองดูใบหน้าที่น่ารักของเจ้าเด็กน้อย มีเสียงดังในใจของจ้านฉิงเหย่ตลอดเวลา เขาอยากจะเป็นพ่อของเด็กคนนี้เหลือเกิน แม้จะไม่ใช่ลูกแท้ๆ แต่เขาก็จะรักเหมือนลูกแท้ๆ ของตนเองอย่างแน่นอน จะคิดว่าเป็นลูกของตนเองไปตลอดชีวิต

สายตาของเขาเปลี่ยนไปมองผู้หญิงที่อยู่ตรงข้าม ขอแค่เธอพยักหน้ายอมรับ เขาก็จะรีบแต่งงานกับเธอทันที จะให้ที่พักพิงที่มั่นคงและปลอดภัยกับแม่ลูกคู่นี้แน่นอน

หลังกินอาหารมื้อเย็นเสร็จ ก็ไปเดินเล่นในห้างรอบหนึ่ง เจ้าเด็กน้อยก็ได้ของขวัญไปหลายชิ้นทีเดียว ถังจือเซี่ยรู้ว่าจ้านฉิงเหย่มีใจที่รักลูก แต่ก็ไม่เห็นด้วย ยังดีที่ลูกชายเธอไม่ได้เป็นคนที่ติดงอแงเพื่อจะเอาของขวัญ

สามทุ่มครึ่ง รถของจ้านฉิงเหย่จอดอยู่ที่หน้าคอนโดของเธอ พอได้ยินว่านี่เป็นคอนโดที่บริษัทเธอเช่าให้ เขาก็รู้สึกสงสารแล้ว

ดูเหมือนว่า ถึงเวลาที่เขาจะต้องแสดงพลังพิเศษแล้วสินะ พรุ่งนี้เขาจะให้บ้านชั้นเดี่ยวที่อยู่ใจกลางเมืองกับเธอ ให้พวกเขาได้อยู่ในหมู่บ้านที่ปลอดภัยมากที่สุด

“มา หอมแก้มอาจ้านแล้วค่อยไป” จ้านฉิงเหย่อุ้มเจ้าเด็กน้อยแล้วพูด

เจ้าเด็กน้อยกอดหัวเขาไว้แล้วหอมไปหนึ่งที จ้านฉิงเหย่มองผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างๆ อยากจะให้เธอหอมด้วย แต่ก็ไม่กล้าพอ เขาในตอนนี้ ไม่กล้าที่จะเปิดเผยความรู้สึกมากนัก เกรงว่าเธอจะกลัวแล้วหนีไป

ถังจือเซี่ยจูงมือลูกโบกมือลา แล้วจึงกลับเข้าอพาร์ตเมนต์ไป

แต่จ้านฉิงเหย่กลับไม่ได้กลับไปทันที

พอเจ้าเด็กน้อยกลับถึงคอนโค ก็ถามคำถามที่อยากจะถามมาตลอดทาง “หม่ามี้ว่าอาฉิงเหย่ดีไหมครับ”

“ดีสิ!”

“แล้วหม่ามี้ชอบเขาไหม”

“ชอบสิ!” ถังจือเซี่ยเก็บของเล่นในห้องอย่างว่องไว พลางตอบคำถามของลูกชายไปด้วย

“แล้วหม่ามี้อยากแต่งงานกับเขาไหมครับ” เจ้าเด็กน้อยถามอีก

มือของถังจือเซี่ยที่กำลังเก็บของเล่นหยุดชะงักไป เธอหันมามองลูกชาย อดไม่ได้ที่จะยิ้ม “เฉินเฉิน หม่ามี้คิดกับเขาแค่เพื่อนเท่านั้น!”

เจ้าเด็กน้อยไม่ค่อยเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างผู้ใหญ่ หรือการชอบใครสักคน ก็อยู่ด้วยกันไม่ได้?

ในใจถังจือเซี่ยก็รู้สึกไร้หนทาง เธอรู้สึกได้ว่า จ้านฉิงเหย่ไม่ได้รู้สึกกับเธอแค่เพื่อน แต่เธอก็รู้สึกว่าตนเองไม่คู่ควรกับจ้านฉิงเหย่ เขาควรจะเจอคนที่ดีกว่านี้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว