รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว นิยาย บท 52

จ้านฉิงเหย่ทำสีหน้าตะลึง นี่เป็นเรื่องเดียวที่ถังจือซย่าไม่ยอมบอกเขา ไม่ว่าเขาจะถามอ้อมๆ ยังไง เธอก็ไม่ยอมบอกอยู่ดี

“พี่รู้เหรอ” จ้านฉิงเหย่ถามกลับ รู้สึกประหลาดใจที่ลูกพี่ลูกน้องจะสนใจเรื่องของพนักงานด้วย?

“ครั้งก่อนน้องสาวของเธอมาก่อความวุ่นวายที่บริษัท พูดว่เมื่อ 5 ปีก่อนาถังจือซย่าไปเป็นมือที่สามของคนอื่น แถมยังทำงานขายตัวที่คลับเฮ้าส์อีกด้วย”

จ้านฉิงเหย่ถึงกับทำตาโต ไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่ได้ยินมา เขาทักท้วงทันที “เป็นไปไม่ได้ จือซย่าไม่ช่คนแบบนั้น เธอไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้แน่นอน”

“นายรู้จักเธอดีแค่ไหน” สีจิ่วเฉิงมองดูลูกพี่ลูกน้อง หวังว่าเขาจะไม่ยุ่งวุ่นวายต่อไป

จ้านฉิงเหย่กลับไม่อยากคิดมาก เขาพูดอย่างแน่วแน่ “ผมไม่สนว่าเมื่อก่อนเธอจะเป็นยังไง ผมแค่อยากใช้ชีวิตกับเขาในอนาคต ผมเองก็ไม่รู้ว่าพ่อของเด็กคือใคร แต่ผมพร้อมที่จะดูแลไปพร้อมกับเธอ และจะคิดว่าลูกของเธอเป็นลูกแท้ๆ ของผมเอง”

สีจิ่วเฉิงประเมินความตั้งใจในการตามจีบผู้หญิงคนนี้ของลูกพี่ลูกน้องต่ำไปจริงๆ เขากัดฟันพูด “ เธอมีอะไรดี”

จ้านฉิงเหย่ยิ้ม “บนตัวของจือซย่ามีความสวยงามที่เป็นเอกลักษณ์ บางทีเร่าร้อนดั่งไฟ บางทีสง่าดั่งดอกเบญจมาศ ไม่ว่าด้านไหนของเธอ ก็ทำให้ฉันหลุ่มหลงตลอดเวลา”

ในใจของสีจิ่วเฉิง อยากจะประเมินผู้หญิงคนนี้แค่แปดคำคือ ไร้ซึ่งเหตุผล หยาบคายสิ้นดี

“พี่ จะช่วยไหมเนี่ย!” จ้านฉิงเหย่นั่งไปที่โต๊ะของเขา มองเขาด้วยสายตาอ้อนวอน

“ไม่ช่วย” สีจิ่วเฉิงตอบอย่างเยือกเย็น

“ใจไม่ถึงเลยนะ ยังเป็นพี่น้องกันไหมเนี่ย” จ้านฉิงเหย่เบะปากพูด

สีจิ่วเฉิงไม่คิดที่จะสนใจเขาแล้ว จ้านฉิงเหย่จึงจากไปอย่างน่าเบื่อ เขาติดสินใจที่จะไปตื้อถังจือซย่า จนกว่าเธอจะรับของขวัญไว้

จ้านฉิงเหย่กลับไปที่ห้องทำงานของถังจือซย่า ผ่านไปสักพัก ถังจือซย่าก็กลับมา เห็นเขายังอยู่ เธอพูดอย่างไร้หนทาง “ ฉิงเหย่ ฉันรับไว้ไม่ได้จริงๆ นายกลับไปเถอะ”

“เธอไม่รับไว้ ฉันก็ไม่กลับ” จ้านฉิงเหย่ทำตัวขี้งอน

ถังจือซย่าถึงกลับยิ้มออกมา “พอเถอะ นายก็รู้ว่าวิธีนี้ใช้ไม่ได้ผลกับฉัน ยังจะทำอีก”

จ้านฉิงเหย่ทำเป็นหัวตกทันที พูดอย่างเศร้าๆ ว่า “ถังจือซย่า เธอเป็นคนเห็นแก่เงินหน่อยจะได้ไหม แบบนี้ฉันก็เอาเงินซื้อเธอได้แล้ว”

ถังจือซย่าถึงกับหัวเราะออกมา “ฉันก็ชอบเงินมากอยู่หรอก แต่ฉันชอบเงินที่ฉันหามาเองหน่ะ”

ขณะนั้นเอง โทรศัพท์ของจ้านฉิงเหย่ดังขึ้นมา เขาหยิบขึ้นมาดู จากนั้นก็ทำตัวปกติแล้วรับสาย “ฮาโหล! พ่อ”

“ฉิงเหย่ มาที่บริษัทหน่อย มีเรื่องจะมอบหมายให้ทำ”

“ได้ครับ ผมจะไปตอนนี้เลย” ช่วงวันหยุดของจ้านฉิงเหย่จะจบลงแล้ว ตั้งเเต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป เขาก็จะต้องกลับไปทำงานที่บริษัทแล้วหล่ะ

“ฉันกลับไปหาพ่อก่อนนะ มีเรื่องอะไรก็โทรมาหาฉันนะ ถ้าเป็นเรื่องของเธอแล้ว เรียกตอนไหนก็มาตอนนั้นแน่นอน” จ้านฉิงเหย่มองอย่างลึกซึ้ง

ถังจือซย่าแกล้งทำเป็นมองไม่เห็น พูดกับเขาว่า “รีบไปเถอะ! อย่าให้พ่อนายรอนาน”

พอจ้านฉิงเหย่กลับไป ถังจือซย่าก็ถอนหายใจเบาๆ ในตอนนั้นเอง ซูเหม่ยก็โทรมา “พี่จือซย่า พวกเราใกล้จะทำเสร้จเตรียมที่จะเลิกงานแล้วค่ะ”

“อิ้ม โอเค!” ถังจือซย่าตอบ

ซูเหม่ยในตอนนี้กำลังแอบอยู่ในทางเดินที่ไร้ผู้คน เธอโทรไปที่เบอร์ของซ่งซาน ซ่งซานที่อยู่สายอีกฝั่งกำลังมอบหมายให้เธอทำเรื่องบางอย่าง

นั่นก็คือไม่ว่ายังไงจะต้องทำให้ถังจือซย่าลืมโทรศัพท์ไว้ที่บริษัท อย่าให้เธอเอากลับไป

ซูเหม่ยตอบตกลงทันที แม้เธอจะไม่รู้ว่าซ่งซานทำแบบนี้ทำไม แต่แค่เธอทำตามก็พอแล้วหล่ะ

ซูเหม่ยมาที่ห้องทำงานของถังจือซย่า เห็นว่าถังจือซย่ากำลังจัดเก็บเอกสารอยู่ ส่วนกระเป๋าของเธอก็วางอยู่ที่โซฟา เธอจงใจนั่งอยู่ข้างกระเป๋าถังจือซย่า พูดกับถังจือซย่าที่กำลังจัดเก็บเอกสารอยู่ว่า “พี่จือซย่า แบบร่างที่จะต้องส่งสิ้นเดือนนี้พี่ทำเสร็จแล้วเหรอะ ฉันยังมีอีกตั้งหลายอัน! กลุ้มใจจังเลย!”

เธอพูดบ่นไปพลาง จงใจจัดท่านั่งไปพลาง เธอยื่นมือเข้าในหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าเธอในมุมที่เธอมองไม่เห็น แล้วจึงรีบยัดเข้าไปในซอกโซฟา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว