รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว นิยาย บท 61

อารมณ์ของซ่งซานจากที่ดีๆเปลี่ยนเป็นอารมณ์เสียในพริบตา ถังจือซย่าหน้าด้านขึ้นทุกวัน ใช้ช่วงเวลาทำงานทำทุกวิถีทางเพื่อเข้าหาสีจิ่วเฉิน

ซ่งซานกัดปากตัวเองเล็กน้อย ถึงเวลาที่เธอต้องลงมือเสียแล้ว

เธอหยุดเดินเล่นทันที รีบวิ่งกลับไปที่รถ เริ่มสตาร์ทรถ มองเห็นกำแพงด้านข้างที่จอดรถ เธอไม่พูดพร่ำทำเพลงเหยียบคันเร่งสุดแรง ขับพุ่งชน แรงกระแทกทำให้เด้งกลับมากระแทกเข้าที่หัวของเธออย่างจัง

เธอเจ็บจนหายใจหอบ ตอนนี้เธอก็มีเหตุผลให้ร้องไห้แล้ว หลังจากรถชนเสร็จ ซ่งซานหายใจเข้าลึกๆ หยิบมือถือขึ้นมาโทรหาสีจิ่วเฉิน

ตอนนี้เองมือถือของสีจิ่วเฉินกำลังเชื่อมต่ออยู่กับตัวรถ ภายในรถที่เงียบสงบเสียงมือถือก็ดังขึ้น

บนหน้าจอปรากฏชื่อซ่งซานขึ้นมา ความรู้สึกของถังจือซย่าตอนนี้กำลังยุ่งเหยิง อยู่ดีๆก็เห็นชื่อนั้นอีกยิ่งรู้สึกอารมณ์ไม่ดีเข้าไปอีก

เธอหันหน้าหนี ไม่อยากเห็น สีจิ่วเฉินลังเลเล็กน้อยก่อนกดปุ่มรับสาย “ฮัลโหล ซานซาน มีอะไรหรือเปล่า?”

“จิ่วเฉิน รถฉันชน ฮือ ๆ ฉันกลัวจังเลย! คุณรีบมาช่วยฉันหน่อยได้ไหม” เสียงร้องไห้ขอความช่วยเหลือของซ่งซานดังเข้ามา

สีจิ่วเฉินผ่อนคันเร่งลงเล็กน้อย ถามด้วยความห่วงใยทันที “เธอบาดเจ็บหรือเปล่า?”

“ฉันเจ็บหัวมาก รู้สึกมึน จิ่วเฉิน รีบมาเถอะ เจ็บจัง”น้ำเสียงของซ่งซานฟังแล้วเหมือนจะเจ็บหนัก

“ส่งที่อยู่มาให้ผม ผมจะรีบไปทันที” สีจิ่วเฉินท้ายที่สุดแล้วก็รีบไปช่วยเธอ

ถังจือซย่าที่นั่งอยู่บนรถด้วยได้ยินเสียงซ่งซาน ก็ยิ้มเยือกเย็นทันที ห้าปีไม่ได้เจอกัน หล่อนยังคงแสดงท่าทางอ่อนแอได้ดีเหมือนเดิม

สีจิ่วเฉินวางสายโทรศัพท์ไป มองที่อยู่ที่ซ่งซานส่งมาเล็กน้อย พูดเสียงต่ำ ๆกับถังจือซย่าที่นั่งอยู่ข้างๆ “เดี๋ยวไปกับฉันก่อน”

ถังจือซย่าผงกหัวเล็กน้อย เธอกำลังอยากไปดูเรื่องสนุกๆอยู่พอดี

ซ่งจิ่วเฉินกลับรถมุ่งหน้าไปศูนย์การค้าขนาดใหญ่ใจกลางเมือง ณ ที่จอดรถใต้ดินชั้น 3 รถสปอร์ตปอร์เช่ของซ่งซานยังอยู่ในสภาพที่พุ่งชนกำแพง ซ่งซานนั่งยองอยู่ข้างรถ ทำท่าท่างปวดหัวเหมือนหัวจะแตกออกจากกัน ซ่งซานเงยหน้าขึ้นไปเห็นสีจิ่วเฉินก้าวลงมาจากรถ และแน่นอนเธอไม่แปลกใจเลยที่ได้เห็นถังจือซย่า

เธอพุ่งตัวเข้าไปในอ้อมอกของจิ่วเฉินเหมือนนกตัวน้อยที่กำลังตกใจกลัว “จิ่วเฉิน ในที่สุดคุณก็มาแล้ว”

ถังจือซย่าคิดว่าหล่อนรถชนจนหัวแตกเลือดไหล คิดไม่ถึงมีเพียงแต่รถที่ชนเข้ากับกำแพงเท่านั้น แต่ตัวของซ่งซานก็ยังสามารถวิ่งกระโดดโลดเต้นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ดีใจเก้อเลย

“จือซย่า เธอมาได้ยังไง?” ซ่งซานกอดเอวของสีจิ่วเฉินไว้แน่น ทำท่าทีตกใจเมื่อเห็นถังจือซย่า

ถังจือซย่าหรี่ตามองพร้อมพูดถากถาง “ซ่งซาน เธอนี่ช่างทำให้ผู้หญิงที่ขับรถอย่างพวกเราขายหน้าจริงๆ ใบขับขี่ของเธอซื้อมาใช่ไหม?”

ซ่งซานกัดริมปาก ดวงตาแดงก่ำพูดตอบ “จือซย่า เธอไม่จำเป็นต้องพูดอะไรที่ไม่น่าฟังแบบนี้ก็ได้นะ!”

“ไม่ชอบฟัง? ฉันนึกว่าเธอชนจนมือขาดขาขาดเสียแล้วอีก ฉันอุตส่าห์เตรียมมาจุดประทัดฉลองสักยก!” ถืงจือซย่าพูดถากถาง

สีจิ่วเฉินคิ้วขมวดเข้าหากันแน่นพร้อมหันหน้าไปมองเธอเล็กน้อย เพื่อเตือนให้รู้ว่าเธอพูดไม่น่าฟังเกินไปแล้ว

“จือซย่า เธอ...”ซ่งซานดวงตาแดงก่ำทันที แสดงท่าทีอ่อนแอไม่มีแรง เอาหน้าผากซุกลงไปที่อ้อมอกของสีจิ่วเฉิน

สีจิ่วเฉินรีบประคองร่างของเธอไว้ทันที “ซานซานเธอเป็นอะไร?”

“แสดงละสิ! ไม่เห็นเธอเป็นอะไรเลย”ถังจือซย่ามองแวบเดียวก็รู้ว่าซ่งซานแกล้งแสดง

สีจิ่วเฉินอดไม่ได้ที่จะออกคำสั่งเสียงต่ำ “เธอช่วยหยุดพูดก่อนจะได้ไหม?”

ถังจือซย่าเบะปากมองบนเล็กน้อย ขี้เกียจดูพวกเขาโอบกอดกันไปมา “ถ้างั้นฉันขอตัวไปก่อนละกัน”

“อย่าเพิ่งไป” สีจิ่วเฉินเรียกเธอไว้

ถิงจือดซย่าหันตัวไปมองเขา หรือว่าเขายังมีเวลาพาเธอกลับบ้านไปพบคุณย่าของเขากัน?

สีจิ่วเฉินก้มหัวไปพูดกับซ่งซาน “ซานซาน ตอนี้ฉู่เฮ่าอยู่ระหว่างทางมา อีกสักพักฉันจะให้เขาพาเธอไปส่งที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกายทั้งหมด หากไม่เป็นอะไร ก็กลับบ้านพักผ่อนเถอะนะ!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว