รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว นิยาย บท 65

ผู้หญิงคนนี้ถ่ายรูปไปหลายใบและส่งไปให้ซ่งซานทันที พร้อมเขียนข้อความ “คุณหนูซ่ง เธอต้องระวังผู้หญิงคนนี้ให้ดี หล่อนแอบมายั่วคุณชายสีแหนะ!”

ซ่งซานที่นอนพักอยู่โรงพยาบาลกำลังเลื่อนดูคลิปวิดีโออยู่ เปิดดูข้อความที่ส่งมาทันที ในภาพถ่ายคือสีจิ่วเฉินกับถังจือซย่า ดวงตาเธอเบิกกว้าง รู้สึกโกรธขึ้นมาชั่วขณะ ถังจือซย่าพาลูกไปพบกับสีจิ่วเฉิน

หรือว่าถังจือซย่าอยากให้สีจิ่วเฉินเป็นพ่อของลูกเธอกัน? เธอเป็นผู้หญิงที่มีลูกติด แต่งงานอีกรอบก็คงไม่สามารถหาคนดีๆได้อีก แม่ของเธอเคยช่วยชีวิตสีจิ่วเฉินไว้ ดังนั้นเธอคงคิดว่าสีจิ่วเฉินอยากตอบแทนเธอด้วยการแต่งงานกับเธอ และยอมรับลูกของเธอเป็นลูก!

ซ่งซานคิดว่าตัวเองมองความคิดของถังจือซย่าทะลุปรุโปร่ง และคิดว่าไม่มีทางให้ถังจือซย่าได้สมหวังอย่างที่ตั้งใจไว้หรอก

ดูท่า ต้องหาเวลาตีสนิทกับคนที่บ้านของสีจิ่วเฉิน ให้พวกเขาได้รู้ว่าเธอเสียครั้งแรกของเธอไปเพื่อช่วยสีจิ่วเฉินไว้

ภายในภัตตาคาร สีจิ่วเฉินนั่งชิมไวน์แดงอย่างสง่าใต้แสงไฟ แสงเทียนสลัวที่วูบไหวของเปลวเทียน ปล่อยออร่าของชนชั้นสูงที่มีมาแต่เกิดออกมา

เขาเงยหน้าขึ้นมามองดูเด็กน้อยที่อยู่ตรงหน้า เกิดความรู้สึกแปลกๆอย่างหนึ่ง เหมือนกับว่าเขากับเด็กคนนี้มีวาสนาต่อกันอย่างมาก รู้สึกสนิทเป็นกันเอง

เด็กน้อยก็เป็นเหมือนกัน ถึงแม้ว่าเขากับสีจิ่วเฉินเคยเจอกันไม่กี่ครั้ง แต่เขารู้สึกว่าสีจิ่วเฉินทั้งอ่อนโยนและทำให้รู้สึกปลอดภัย เป็นคนที่เชื่อใจได้

สำหรับเด็กคนหนึ่งนั้นถ้าหากไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ก็เป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะทำให้พวกเขาเกิดความรู้สึกปลอดภัยขึ้นมา

หลังจากกินอาหารเย็นเสร็จแล้ว สีจิ่วเฉินไปส่งพวกเขาที่หน้าประตูคอนโด ถังจือซย่าจูงลูกชายลงจากรถ แล้วพูดกับเขาว่า “คืนนี้ขอบคุณมาก”

พูดจบ เธอก็จูงมือลูกจากไป

จู่ ๆเด็กน้อยก็ส่งเสียงขึ้นมา “หม่ามี้ ลุงสีเลี้ยงข้าวพวกเราหนึ่งมื้อ พวกเราก็ควรจะเชิญเขาไปดื่มชานะ!”

ถังจือซย่านิ่งไป เธอไม่คิดจะชวนผู้ชายคนนี้เข้าบ้าน แต่ลูกชายพูดมาขนาดนี้ เหมือนว่าถ้าเธอไม่ทำตาม ก็เหมือนว่าเธอไม่รู้จักมารยาท

“จะดื่มชาไหม?” ถังจือซย่าหันกลับไปถามผู้ชายที่นั่งอยู่ในรถ

เธอคิดว่าเขาคงจะรีบกลับไป ก็แค่ถามไปตามมารยาท ทำต่อหน้าให้ลูกชายได้เห็นเป็นแบบอย่างก็เท่านั้น

แต่เมื่อถามออกไป ก็เห็นผู้ชายดับเครื่องยนต์ลง จากนั้นประตูรถด้านคนขับก็เปิดออก ร่างสูงเพรียวสง่าของผู้ชายก้มตัวก้าวออกมา

“กำลังคอแห้งพอดี” ผู้ชายร่างสูงก้าวเดินเข้ามา ถังจือซย่ารู้สึกเหมือนมีแรงกดดันบางอย่าง

เฮ้อ! รู้งี้ไม่ถามดีกว่า เธอรู้สึกเสียใจขึ้นมา

“ลุงสี ดีเลยไปดื่มชาที่บ้านกัน” เด็กน้อยดีใจกระโดดโลดเต้นเล็กน้อย

ถังจือซย่าก็เลยต้องพาผู้ชายคนนี้เข้าบ้าน เธอหาแก้วอยู่นาน แต่สุดท้ายก็ทำได้เพียงนำแก้วของลูกชายให้เขาใช้ดื่มน้ำ

“อย่าได้รังเกียจไปเลยนะ นี่คือแก้วน้ำของลูกชายฉันเอง” ถังจือซย่ายื่นแก้วน้ำลายการ์ตูนไปให้เขา

ผู้ชายไม่ได้รู้สึกรังเกียจอะไร รับแก้วมาดื่มไปหนึ่งอึก เด็กน้อยกำลังต่อเลโก้อยู่อีกด้าน ข้างโซฟายังมีกล่องกองอยู่หลายกล่อง เห็นราคาแล้วก็ไม่ใช่ถูกๆ

สีจิ่วเฉินเดาได้ทันที น่าจะเป็นจ้านฉิงเหย่เป็นคนซื้อให้ เห็นเด็กน้อยกำลังตั้งใจต่อเลโก้อยู่ สายตาที่เคยเฉียบคมเลือนหายไป เปลี่ยนเป็นอ่อนโยนขึ้นมาไม่รู้ตัว

ข้างนอกทำท่าเหมือนฝนจะตก ถังจือซย่ากำลังเก็บผ้าที่ตากไว้อยู่ที่ระเบียง ตอนที่เดินเข้ามาข้างใน คิดไม่ถึงมีชิ้นส่วนเล็กๆสีชมพูหล่นออกมาจากกองเสื้อผ้าที่เธอกอดอยู่ เธอไม่ทันได้สังเกต แต่ว่าสายตาแหล่มคมของผู้ชายคนนั้นสังเกตเห็นเข้า

นั้นเป็นกางเกงในผู้หญิงตัวหนึ่ง

สีจิ่วเฉินลุกขึ้นมาทันที ฝ่ามือใหญ่ของเขาหยิบผ้าบางๆชิ้นนั้นขึ้นมาและพูดกับผู้หญิงที่เดินเข้าไปในห้อง “เสื้อผ้าหล่นแล้ว”

ถังจือซย่าหันกลับไปดู ดวงตาสวยอึ้งไปชั่วขณะ สิ่งที่ผู้ชายคนนั้นเกี่ยวอยู่ที่นิ้วนั้น มันคือกางเกงในของเธอ

ถังจือซย่ากระโจนเข้ามาคว้ากางเกงในไว้ พูดเอยอย่างหน้าแดง “ขอบคุณ”

ขณะนั้นเอง หน้าต่างข้างนอกมีประกายสายฟ้าฟาดกลางอากาศ ตามด้วยเสียงคำรามของฟ้าร้อง

“อ๊าก...หม่ามี้!” จู่ ๆเด็กน้อยที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะปิดหูและกรีดร้องขึ้นมา ท่าทางหวาดกลัว

สีจิ่วเฉินรีบกลับไปที่โซฟา อุ้มเด็กน้อยขึ้นมา กอดไว้แนบอกเขา เด็กน้อยหมอบตัวแนบไปยังอกที่แข็งแกร่งของเขา ศีรษะเล็กๆซุกอยู่ในอ้อมกอดเขาเพื่อหลบเสียงฟ้าร้อง

ถังจือซย่าวิ่งออกมาจากห้องอย่างรวดเร็ว เห็นลูกชายถูกผู้ชายคนนั้นอุ้มขึ้นปกป้องไว้

เสียงฟ้าร้องนอกหน้าต่างดังผ่านไป ฝนก็ตกหนักตามมาติดๆ ฝนตกลงมากระทบกับขอบหน้าต่าง

ระหว่างที่ถังจือซย่าจ้องมองฝนที่ตกอยู่ข้างนอกหน้าต่างอยู่นั้น จู่ ๆก็มีสายฟ้าฟาดลงมา ลากเส้นยาวท่ามกลางท้องฟ้าที่มืดมิด เป็นภาพที่น่ากลัวราวกับเป็นภาพลูกตา เสียงฟ้าร้องคำร้องดังสนั่นฟ้า ถังจือซย่ายกมือขึ้นปิดหูด้วยสัญชาตญาณ ก้มมอบศีรษะลงท่าทางราวกับกลัวมากๆเหมือนกัน

และเด็กน้อยที่อยู่ในอ้อมอกของเขาก็กอดเขาแน่น ท่าทางกลัวเหมือนกัน หัวใจของผู้ชายบีบรัด เหมือนว่าสองแม่ลูกจะกลัวฟ้าร้องสืบทอดกันมาทางพันธุกรรม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว