รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว นิยาย บท 67

มองดูเด็กน้อยในอ้อมแขนถูกเธอวางลงบนเตียงเบาๆ ท่าทางของเธอทำให้เขาไม่อาจละสายตาออกจากเธอได้

เด็กน้อยง่วงมากแล้ว เมื่อวางลงบนเตียง เขาหาตำแหน่งที่สบายๆของตัวเองแล้วก็นอนหลับไป ถังจือซย่าทำสัญญาณมือไปทางผู้ชาย เพื่อบอกให้เขาเดินออกจากห้องนอน

ผู้ชายก้าวขายาวออกไปอย่างคล่องตัว ถังจือซย่าเดินตามออกไปติดๆ เธอปิดประตูห้องลง ผ่อนลมหายใจออกมาและมองไปที่คนบางคนพร้อมเอ่ย “คืนนี้ขอบคุณมากนะ”

“จะขอบคุณอย่างไร?” จู่ ๆผู้ชายตอบกลับด้วยโทนเสียงต่ำน่าดึงดูด

ดวงตาสวยๆของถังจือซย่าเบิกกว้างขึ้น ก็พูดขอบคุณไปแล้วความหมายตามที่พูด! ไม่งั้นเขาอยากให้ขอบคุณแบบไหนกัน?

“เอ๋...หรือจะให้ฉันเลี้ยงข้าวคุณดี?” ถังจือซย่าแสดงท่าทีอื่น

“งั้นไม่ต้องหรอก” ผู้ชายปฏิเสธ

ถังจือซย่าถอนหายใจเล็กน้อย ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ดี เพราะยังไงเธอก็ไม่มีเวลาไปเลี้ยงข้าว

ในเวลานั้นเอง มือถือถังจือซย่าสั่นขึ้นมา สายตาของผู้ชายกับสายตาของเธอหันไปมองมือถือบนโต๊ะบริเวณโซฟาพร้อมกัน หากจากตรงนี้ค่อนข้างไกล แต่สายตาแหลมคมของผู้ชายกลับมองเห็นชื่อที่ปรากฏ เป็นจ้านฉิงเหย่โทรเข้ามา

ถังจือซย่าหยิบมือถือขึ้นมา เนื่องจากคอนโดห้องค่อนข้างเล็กเลยไม่มีที่ให้หลบ เธอทำได้เพียงกลับไปที่ห้องนอนของเธอเพื่อรับสาย แต่ไม่ได้ปิดประตูลง

“ฮัลโหล ฉิงเหย่ ทำไมเหรอ?”

“จือซย่า ให้ฉันไปอยู่เป็นเพื่อนเธอเถอะ!” จ้านฉิงเหย่ยังคงพูดต่อ

“นายจะมาอยู่เป็นเพื่อนฉันทำไมล่ะ! ฝนตกหนักขนาดนี้ จะตากฝนทำให้ตัวเองเปียกไปทั้งตัวทำไมกัน”

“แต่ฉันเป็นห่วงเธอกับเฉินเฉินมาก พวกเธอกลัววันที่ฝนตกฟ้าร้องมากเลยนี้น่า”

ถังจือซย่าหัวใจบีบแน่นทันที เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าในบ้านยังมีเทพองค์หนึ่งที่ยังไม่ได้อัญเชิญกลับไป! เธอพูดอย่างรีบร้อน “ไม่ต้องๆ ฉันกับเฉินเฉินจะเข้านอนกันแล้ว นายไม่ต้องมา อืม แค่นี้ก่อนนะ บาย”

พูดจบ ถังจือซย่ากดวางสายไป เธอหันตัวกลับไปแต่ทันใดนั้นก็ตกใจเล็กน้อย ลูกพี่ใหญ่ท่านนี้อยู่ ๆก็เดินเข้ามาในห้องนอนของเธอ มายืนอยู่ข้างหลัง จ้องมองเธอด้วยสีหน้าเดาไม่ถูก

“ประธานสี...คุณ...”ถังจือซย่าจ้องมองเขา ช่างเป็นเจ้านายที่ทำให้ตกใจหัวใจเกือบวาย

“เธอกับจ้านฉิงเหย่นอนด้วยกันแล้วหรือยัง?” สีจิ่วเฉินเอ่ยถามออกไป

ถังจือซย่า “...” ผู้ชายคนนนี้ไม่รู้สึกว่าเป็นคำถามที่ไร้มารยาทไปหน่อยไหม?

นี่เป็นคำถามที่เป็นเรื่องส่วนตัวของเธอ แต่เธอก็ยังคงตอบความจริงออกไป “ไม่มี ทำไมหรือ?”

“เธอกับเขาเคยทำเรื่องอะไรที่ใกล้ชิดกันที่สุดกับเขา?” ผู้ชายยังคงถามต่อ ราวกับต้องการรู้ให้กระจ่างชัด

ถังจือซย่านึกถึงสิ่งที่เขาช่วยเธอทำในวันนี้ เธอเลยอดทนตอบกลับไป “ก็กอดกันแบบเพื่อน”

“เคยจูบกันไหม?” ผู้ชายยังคงถามเรื่องนี้ต่ออย่างละเอียด

ถังจือซย่ากะพริบตาปริบๆ ทำไมเธอต้องเชื่อฟังตอบคำถามพวกนี้กลับเขาด้วย! อีกอย่าง เธอรู้สึกแปลกๆผู้ชายคนนี้นับวันยิ่งอันตรายขึ้นไปทุกที ไม่ควรให้เขาอยู่ต่อที่บ้านแล้ว เธอหัวเราะเล็กน้อย “ประธานสี ดึกมากแล้ว คุณควรกลับไปได้แล้ว”

สายตาของผู้ชายจับจ้องไปที่เธอ ผู้หญิงที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ ก็เหมือนกับดอกไม้ที่สะอาดบริสุทธิ์ แฝงไปด้วยกลิ่นอ่อนๆลอยออกมา สะกดจิตทำให้หลงใหล

จู่ ๆผู้ชายก็หรี่สายตาลง ร่างกายของเขาถูกปลุกสัญชาตญาณนักล่า เหมือนกับสัตว์ร้ายที่กำลังจดจ้องเหยื่อของตัวเองอยู่

ถังจือซย่ากำลังเดินผ่านตัวเขา ผู้ชายก็รั้งเอวของเธอไว้ทันที ถังจือซย่าตกใจจนก้าวถอย สะดุดเข้ากับขาผู้ชาย ทั้งสองล้มทับกันลงไปบนเตียง

ฝ่ายชายคร่อมตัวอยู่บนฝ่ายหญิง

ทันใดนั้นลมหายใจของถังจือซย่าปกคลุมด้วยเสน่ห์ที่น่าหลงใหลของผู้ชาย เธอกำลังคิดอยากจะพูดอะไรออกมา ผู้ชายประคองหน้าเธอขึ้น ริมฝีปากบางอันร้อนแรงประกบลงมาหยุดเสียงของเธอไว้

“อืม...” ถังจือซย่าสมองขาวโพลน

เหมือนกระแสไฟฟ้าที่ไม่เกิดขึ้นมานานแล้ววิ่งผ่านร่างกาย นึกไม่ถึงว่าเธอจะตอบสนองต่อการกระตุ้นนี้

จูบของสีจิ่วเฉิน ราวกับหายนะที่หนีไม่พ้น ทำตามอำเภอใจและบ้าอำนาจ ลิ้มรสความงามของเธออย่างละเมียดละไม

ร่างกายเขาเหมือนขุนเขาลูกหนึ่งที่กดทับร่างของถังจือซย่าจนหายใจไม่ออก ได้เพียงปล่อยให้เขาทำตามอำเภอใจ จนกระทั่งเธอรู้สึกถึงอันตรายจากเขา ทันใดนั้นถังจือซย่าดึงสติกลับมา เธอเบิกตากว้างตักเตือนเขา พร้อมผลักเขาออกไป

ในที่สุดสีจิ่วเฉินก็ปล่อยเธอ ปลายจมูกของทั้งสองชนกัน สายตาประสานเข้าหากัน ลมหายใจที่ของเขาทั้งสองต่างหายใจใส่กันไปมาอย่างหอบๆ

“ปล่อยฉัน สีจิ่วเฉิน ฉันขอเตือนนาย...” เธอที่กำลังจะด่า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว