รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว นิยาย บท 69

ซ่งซานมองดูหญิงชราผมขาวท่านนั้น ร่างกายแผ่รัศมีชนชั้นสูงออกมา แค่เห็นก็รู้ทันทีว่าเป็นนายหญิงใหญ่ของบ้าน

ซ่งซานเดินมาถึงตรงหน้านายหญิงใหญ่ เธอเอ่ยทักทายอย่างมีมารยาท “นายหญิงใหญ่สี สวัสดีค่ะ ฉันชื่อซ่งซาน เป็นแฟนกับสีจิ่วเฉินหลานของคุณ”

นายหญิงใหญ่คิ้วขมวด ตกใจถาม “เธอเป็นแฟนของสีจิ่วเฉินหรือ?”

“ฉันกับสีจิ่วเฉินเพิ่งจะคบหากันไม่นาน เลยยังไม่มีโอกาสได้มาทักทายท่าน ต้องขอโทษด้วยจริงๆ” ซ่งซานสีหน้ารู้สึกผิด

นายหญิงใหญ่สีรู้มาตลอดว่าหลานชายไม่ชอบแผนที่เธอวางให้นัก อาจจะเป็นเพราะหลานชายมีคนที่ชอบอยู่แล้วหรือเปล่า? ถึงได้ไม่อยากแต่งงานกับถังจือซย่า

“ซ่งซาน เธอช่วยบอกฉันทีว่าเธอกับจิ่วเฉินหลานชายฉันรู้จักกันอย่างไง?” นายหญิงใหญ่สีกวาดสายตามองดูซ่งซาน ถึงแม้เธอจะไม่ใช้เด็กที่ดูสะสวยสักเท่าไร ดูแล้วออกจะทางธรรมดาด้วยซ้ำ ก็ไม่รู้ว่าหลานชายคบหากับเธอจริงหรือเปล่า

ซ่งซานหลบสายตา รู้สึกเป็นเรื่องยากที่จะเอ่ยปากจึงเม้มริมฝีปากเล็กน้อย ผ่านไปนานก็ไม่ตอบคำถามเสียที

“ทำไมหรือ? ทำไมถึงไม่พูดละ?” นายหญิงใหญ่สีมองอย่างรู้สึกสงสัยจึงถามออกไป

ซ่งซานกัดริมฝีปากสีแดงของเธอ เงยหน้ามองนายหญิงใหญ่ “ฉันไม่กล้าพูด”

“มีอะไรที่พูดไม่ได้หรือ? รีบพูดมา!” นายหญิงใหญ่สียิ่งสงสัยขึ้นไปอีก

ซ่งซานจึงแกล้งทำเป็นรวบรวมความกล้า เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นคืนนั้นเมื่อห้าปีก่อน เรื่องคืนนั้นที่ถังจือซย่ากับสีจิ่วเฉินมีความสัมพันธ์กันอย่างไร เธอล้วนเดาออกหมด เรื่องที่เล่าออกมาจากปากของเธอตอนนี้ ราวกับเป็นตัวเธอเองที่ผ่านเรื่องพวกนั้นมา

นายหญิงใหญ่สีได้ยินก็ดวงตาเบิกกว้าง เธอนึกไม่ถึงว่าเมื่อห้าปีก่อนหลานชายของเธอจะไปข่มเหงขโมยความบริสุทธิ์ของเด็กสาวไป

“ดังนั้น เพราะนาฬิกาเรือนนั้นจึงทำให้จิ่วเฉินหาฉันเจอ เขาบอกว่าจะรับผิดชอบฉัน”

แววตาของคุณหญิงสีแสดงออกถึงความเห็นอกเห็นใจและความน่าเวทนา ไม่ว่าจะยังไง ซ่งซานเพื่อที่จะช่วยหลานชายของเธอไว้จนต้องเสียความบริสุทธิ์ไป ทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดใจไม่น้อย

“ซานซาน จิ่วเฉินทำผิดต่อเธอ ฉันขอโทษแทนเขาด้วย ฉันต้องให้จิ่วเฉินชดเชยให้เธอแน่นอน” นายหญิงใหญ่สีในฐานะผู้หญิง ยอมเข้าใจความเจ็บปวดของซ่งซาน

เมื่อนึกดูดีๆแล้วถึงตอนนั้นซ่งซานอายุแค่19ปี เป็นวัยดอกไม้แรกแย้ม ต้องมาพบเจอเรื่องแบบนี้ ร่างกายและจิตใจต้องเจ็บปวดเป็นอย่างมาก

“เด็กน้อย กินข้าวเช้ามาหรือยัง?” นายหญิงใหญ่สีถามด้วยความเป็นห่วง

ซ่งซานส่ายหัว “ยังไม่ได้ทานค่ะ”

“รีบไปจัดเตรียมชุดอาหารเช้ามาเร็วเข้า” นายหญิงใหญ่สีออกคำสั่งกับคนใช้

ซ่งซานก้มหัวลง แววตาปรากฏความดีใจชั่วขณะ ท่าทางนายหญิงใหญ่สีที่มีต่อเธอนั้น ทำให้เธอรู้ทันทีว่า เธอได้เป็นคนสำคัญของตระกูลสีแล้ว

หอรุ่ยเป่า แผนกออกแบบ

ถังจือซย่ากำลังเปิดอ่านเอกสารอยู่ในห้องทำงาน โทรศัพท์ตั้งโต๊ะดังขึ้นเธอจึงเอื้อมมือไปรับสาย “ฮัลโหล ใครคะ?”

“ฉันรอเธออยู่ที่หน้าประตูใหญ่ ลงมา”เสียงผู้ชายทุ่มต่ำที่ยั่วยวนให้คนลุ่มหลงเป็นเสียงเอกลักษณ์เฉพาะของสีจิ่วเฉิน

ถังจือซย่าหายใจติดขัดเล็กน้อย ภาพเมื่อคืนที่โดนเขาคนนี้ขโมยจูบ ยังติดตาอยู่เลย ทำให้เธอไม่กล้าสู้หน้าเขาจริงๆ

“วันนี้ฉันยุ่งมาก ไม่ไปบ้านคุณย่าของนายแล้ว” ถังจือซย่าปฏิเสธที่จะลงไป

“เธอจะลงมา หรือให้ฉันขึ้นไปแทน เธอเลือกเอาเอง”เขาพูดอย่างไม่พอใจ

ถังจือซย่ากัดริมฝีปากแน่น เกิดเป็นคนแน่นอนว่าต้องมีความน่าเชื่อถือ เธอทำได้เพียงแต่เก็บของ ถือกระเป๋าเดินออกมา

พอมาถึงข้างล่าง มองเห็นรถเก๋งสีดำทรงพลังคันนั้น เธอเปิดประตูเข้าไปนั่งข้างใน เขาที่สวมชุดสูทสีดำ ดูแล้วยิ่งมีออร่าบ้าอำนาจที่มีมาแต่เดิมออกมา

ถังจือซย่าขึ้นมานั่งบนรถ ก็หันหน้าออกไปนอกหน้าต่างทันที นึกถึงปฏิกิริยาที่น่าตกใจของเขาเมื่อคืนนี้ เธอรู้สึกใบหน้าเริ่มร้อนวูปขึ้นมาเล็กน้อย

สีจิ่วเฉินจ้องมองใบหน้าด้านข้างของเธอเล็กน้อยก่อนสตาร์ทรถออกไปจากบริษัท

ภายในรถมีแต่ความเงียบปกคลุม จนกระทั่งจู่ ๆ ตอนที่เขาขับรถขึ้นทางด่วนอยู่ก็เร่งความเร็วขึ้นมากะทันหัน ถังจือซย่าตกใจจนจับที่เข็มขัดนิรภัยแน่นร้องเสียงดัง “สีจิ่วเฉิน ที่นี่จำกัดความเร็วที่80ไมล์”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว