สีจิ่วเฉินมองดูร่างที่ผอมเพรียวของเธอราวกับว่ามีพลังที่เเข็งเเกร่งซ่อนอยู่ภายในร่างกายที่อ่อนเเอนั้นทำให้คนอดที่จะเอ็นดูไม่ได้ ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาส่องประกายออกมา
ในเวลานี้มีคนรับใช้มาหาเขา “คุณชาย นายหญิงใหญ่รอท่านอยู่ในห้องน้ำชาที่สวนเป่ยฮัว”
สีจิ่วเฉินพยักหน้าเดินไปกับคนรับใช้
เดิมทีซ่งซานต้องการกลับไปที่ห้องโถงเเต่สวนนั้นใหญ่เกินไป ชั่วขณะนั้นเธอจำทางไม่ได้จึงหลงทาง
เธอทำได้เพียงเลือกทางเดินเเบบสุ่ม เดินไปเรื่อยๆเเละรู้สึกว่าสวนเเห่งนี้เงียบสงบเป็นพิเศษ เเละยังเห็นศาลาเก่าหลังหนึ่ง เธออดไม่ได้คิดอยากถามใครสักคน
เเต่เมื่อเธอเข้าใกล้ก็ได้ยินเสียงดังมาจากหลังม่าน เสียงผู้หญิงที่เเก่กว่าถามขึ้น “คุณนายมาจนถึงวันนี้เเล้วท่านยังคิดอยากให้คุณชายเเต่งถังจือซย่ามาเป็นภรรยาเหรอ เเล้วคุณหนูซ่งจะทำยังไง?”
เสียงน่าเกรงขามของหญิงชราดังขึ้นอย่างหนักเเน่น “ความคิดของฉันยังเหมือนเดิมผู้หญิงที่จิ่วเฉินควรเเต่งมีเพียงถังจือซย่า ส่วนซ่งซานฉันจะให้จิ่วเฉินชดเชยสิ่งของให้ ไม่รู้ว่าทำไมฉันไม่ถูกชะตากับซ่งซานเลย มักจะรู้สึกว่าหล่อนไม่ซื่อสัตย์ คงคิดมากเกินไป หลานสะใภ้ในใจของฉันมีเพียงเเค่ถังจือซย่าเท่านั้น”
ซ่งซานตกใจเเละกลั้นหายใจอย่างเร็ว เสียงนี้น่าจะเป็นเสียงของนายหญิงใหญ่สี
ที่เเท้นางก็เเสดงละครมาตั้งนานเเล้ว ในใจของนายหญิงใหญ่นั้น เธอก็ยังไม่เป็นที่พึงพอใจ?
เเละนายหญิงใหญ่ก็ไม่เปลี่ยนใจที่จะให้ถังจือซย่าเป็นหลานสะใภ้
ในใจซ่งซานขุ่นเคืองขึ้น เเละในเวลานี้เสียงฝีเท้าก็เข้ามา เธอรีบซ่อนตัวในพุ่มไม้หลังม่านไม่กล้าหายใจ
“คุณย่าให้ตามผม?” เสียงสีจิ่วเฉินดังขึ้น
นายหญิงใหญ่สีมองดูหลานชายพูดเสียงโมโหเล็กน้อย “จิ่วเฉินเเกทำอะไรลงไปห้าปีก่อน ทำไมเเกถึงไปหลับนอนกับซ่งซาน?ทำให้เกิดเรื่องเหลวไหลเเบบนี้ขึ้น?”
“ขอโทษครับคุณย่า เป็นเพราะผมถูกคนร้ายวางเเผนร้ายเลยทำเรื่องผิดพลาดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ”
“ทำผิดพลาดแล้วเเกกล้ารับผิดชอบ ย่าก็จะไม่โทษเเก เเต่ตอนนี้เเกจะจัดการเรื่องของคุณหนูซ่งยังไง” นายหญิงใหญ่สีถามเสียงเฉียบขาด
“ผมก็ชดเชยให้เธอทุกทางเเล้ว”
“ได้ เรื่องของหลาน ย่าจะไม่ถาม แต่ย่าอยากให้หลานจำให้ดี หลานสะใภ้ที่ย่ามองหามีเพียงเเค่ถังจือซย่า ถ้าเธอเเต่งมาก็จะเป็นนายหญิงน้อยของตระกูลซี เเต่ถ้าเธอไม่เเต่งหลานจะต้องดีกับเธอตลอดชีวิต” นายหญิงใหญ่สีพูดเสียงดัง
ผู้ชายข้างในเเสดงออกยังไงซ่งซ่านไม่เห็น เเต่ในใจของเธอกลับเหมือนโดนเเช่อยู่ในห้องน้ำเเข็ง
ถังจือซย่าเหมือนผีสิงที่มาขวางทางมั่งคั่งเเละร่ำรวยของเธอ เเละเธอจะไม่ให้หล่อนมาขัดขวางความสุขของเธอเเน่
เเละในตอนนี้เธอก็ได้ยินเสียงตอบสั้นๆก็สีจิ่วเฉิน “ครับ”
ในใจของซ่งซานเหมือนโดนมีดกรีด สีจิ่วเฉินก็ไม่ได้ตั้งใจวางเเผนจะเเต่งงานเธอเข้าบ้าน
เธอเเอบหลบไปอย่างเงียบๆ เผอิญเจอคนรับใช้คนหนึ่ง จึงทำเป็นเดินไปห้องโถง
มื้อกลางวันเตรียมสำรับพร้อมเเล้ว
เดิมทีถังจือซย่าไม่คิดจะอยู่กินมื้อกลางวันด้วยเเต่เวลาอึดอัดเเบบนี้ เธอทำได้เพียงกินอาหารมื้อนี้เเล้วค่อยลากลับ
บนโต๊ะอาหาร
“คุณหนูซ่งกินกับข้าว ไม่ต้องเกรงใจคิดซะว่าที่นี่เป็นบ้านตัวเอง” นายหญิงใหญ่สีเรียกซ่งซาน
ซ่งซานยกมุมปากยิ้มอย่างอ่อนหวานเเละพยักหน้า “ได้ค่ะคุณย่า”
เเต่ภายในใจของเธอกลับสาบเเช่งในใจ ถ้ายายเเก่ที่ขวางทางนี่ตายไปคงดีไม่น้อย
“จือเซี่ยเธอก็กินด้วยนะ”เเววตาที่นายหญิงใหญ่สีมองดูถังจือซย่าก็เหมือนกำลังมองหลานสาวของตัวเอง
“อื่อค่ะ” ถังจือซย่ายื่นมือออกไปคีบกับข้าว
กินมื้อกลางวันเสร็จนายหญิงใหญ่สียังเชิญทั้งสองคนไปกินอาหารว่าง ขณะที่สีจิ่วเฉินกลับไปพักผ่อนที่ชั้นสอง
นอนอยู่บนโซฟาความคิดของสีจิ่วเฉินฟุ้งซ่านเล็กน้อย ในสมองเขาเดี๋ยวก็ปรากฎเป็นซ่งซาน เดี๋ยวก็ปรากฎเป็นถังจือซย่า ในใจวิตกกังวล
เขามีรักเเค่คืนเดียวกับซ่งซานเมื่อห้าปีก่อน เเต่เขากลับไม่รู้สึกถึงลมหายใจของซ่งซานคืนนั้นเมื่อห้าปีให้หลัง ซ่งซานในตอนนี้ให้ความรู้สึกเหมือนคนเเปลกหน้ากับเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว