รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว นิยาย บท 74

เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อห้าปีก่อนเเละเหตุการ์ณนั้นยังฉายซ้ำๆในหัวของเขา กลางดึกคืนนั้นเด็กสาวที่ใช้กำลังผลักเขา ร้องไห้อย่างไร้เรี่ยวเเรงเเละเจ็บปวด คนที่อดทนต่อการบุกรุกที่บ้าคลั่งของเขา เขาในตอนนั้นโดนวางยาควบคุมตัวเองไม่ได้ เเต่กลับจำเรือนร่างของเด็กสาวนั้นได้ว่ามีรสหวานเหมือนไวน์ เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาก็ยังคงจำรสชาดนั้นได้มิรู้ลืม

นี่ก็เป็นความคิดที่ก่อนเขาจะเป็นลมก็ตั้งใจเเน่วเเน่เเล้วว่าจะต้องรับผิดชอบต่อเธอ

จู่ๆในหัวของสีจิ่วเฉินก็นึกถึงรสจูบที่จูบถังจือซย่าหลายครั้งขึ้น ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดกับตัวของถังจื่อซย่าเขามักรู้สึกถึงรสชาดที่มิรู้ลืมในคืนนั้น

เขาหายใจเข้าเเละหยุดคิดเรื่องไร้สาระทั้งหมด ไม่ว่าอย่างไรเด็กสาวสองคนนี้ คนหนึ่งเขาจะต้องชดเชยให้ อีกคนเขาจะต้องตอบเเทน เขาล้วนต้องรับผิดชอบทั้งคู่

ในสวน หลังจากกินอาหารว่างเสร็จ ถังจือซย่าก็เอ่ยปากว่าจะไปเเล้ว เพราะงานช่วงบ่ายของเธอจะมากกว่า

นายหญิงใหญ่ไม่ได้รั้งเธอไว้รู้ว่าเธอดูเเลลูกตามลำพังคงไม่ง่ายนัก จึงให้คนรับใช้ไปเรียกสีจิ่วเฉินส่งเธอกลับบ้าน

ซ่งซานเห็นเช่นนี้ก็รีบเสเเสร้งว่าตัวเองมีนัดกับเพื่อนเเละต้องกลับไปเช่นกัน เธอต้องการกลับพร้อมถังจือซย่า

ต่อหน้านายหญิงใหญ่ ถังจือซย่าก็ไม่สามารถพูดอะไรได้ นายหญิงใหญ่ก็ให้ซ่งซานกลับเเละเรียกคนรับใช้นำของขวัญออกมาสองกล่อง

ในห้องโถงบนโต๊ะวางเครื่องประดับสองชิ้นไว้ล้วนเป็นกำไลคุณภาพชั้นดี นายหญิงใหญ่ก็ไม่ได้บ่งบอกว่าจะมอบชิ้นไหนให้ใคร เเค่พูดยิ้มๆ “มา พวกเธอดูซิว่าชอบชิ้นไหน?”

ซ่งซานในตาวาววับด้วยความฉลาดเเละมีเเววโลภ ในตาเธอเเยกเเยะได้อย่างรวดเร็วว่าอันไหนมีค่ามากกว่า เมื่อเธอเห็นว่าหนึ่งในนั่นมีสภาพที่ดีกว่า เธอหันไปบอกถังจือซย่าว่า “จือซย่าฉันชอบอันนี้ เธอคงไม่ถือสานะ!”

ถังจือซย่าพูดเบาๆ “นี่เป็นของที่คุณย่าสีมอบให้ เธอควรถามคุณย่าสี”

“ไม่ถือสา คุณหนูซ่งชอบก็ดีเเล้ว” นายหญิงใหญ่ยิ้มพลางพยักหน้า

ซ่งซานหยิบกล่องนั้นขึ้นมา เเต่ถังจือซย่ากลับเงยหน้ามองไปที่นายหญิงใหญ่เเล้วพูด “ คุณย่าสีของขวัญเเพงขนาดนี้หนูรับไว้ไม่ได้ค่ะ”

ซ่งซานสีหน้าตกใจ ถังจือซย่าต้องการให้เธออับอายอย่างเห็นได้ชัดใช่ใหม เธอจึงวางกำไลลงอย่างเขินอายเเล้วพูด “ใช่เเล้ว!”คุณย่าของขวัญนี้เเพงเกินไปนะคะ!

“ไม่เเพง เเค่น้ำใจเล็กน้อยรับเอาไว้เถอะ!” สีหน้าของนายหญิงใหญ่ดูงามสง่า ยิ้มอย่างใจดีทำให้คนรู้สึกเหมือนสายฝนในฤดูใบไม้ผลิ

ถังจือซย่ารู้สึกลำบากใจ กำไลสภาพเเบบนี้ตามราคาท้องตลาดคงไม่ต่ำกว่าหนึ่งเเสน เเต่สำหรับนายหญิงใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าอาจเป็นเเค่ของขวัญเล็กน้อยธรรมดาๆ ถ้าหากเธอปฎิเสธอีกก็คงเป็นการไม่ไว้หน้าท่าน เธอพยักหน้าหันไปพูดขอบคุณนายหญิงใหญ่ “ขอบคุณค่ะคุณย่าสี”

สายตาของนายหญิงใหญ่สีมองไปที่ทั้งสองอย่างชาญฉลาด สุดท้ายเเววพึงพอใจก็ตกเป็นของถังจือซย่า ซ่งซานให้ความรู้สึกถึงพลังอย่างหนึ่งเเละความใจเเคบ เห็นชัดๆว่าโลภโมโทสัน

ถังจือซย่ามีความใจกว้าง ยากจะมองออกเเละดูสง่างาม นี่ซิถึงจะเหมาะสมที่จะเป็นนายหญิงของตระกูลสีในอนาคต

เดิมทีซ่งซานก็เป็นคนที่โดนเงินปิดตา ไฉนจะรู้ได้ว่านายหญิงใหญ่สีกำลังทำอะไรอย่างหนึ่งก็คือวิเคราะห์บุคลิกของเธอได้อย่างเเม่นยำ เธอเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพฤติกรรมของเธอผิด ตั้งเเต่เล็กจนโตเธอไม่เคยเห็นเงิน พอเห็นสิ่งของที่มีค่า จิตใต้สำนึกจึงบอกให้ทำโดยอัตโนมัติ

รถของสีจิ่วเฉินจอดอยู่ที่สนามเด็กสาวสองคนต่างลงขึ้นรถ ซ่งซานเเสดงออกมาว่าต้องการนั่งที่ตำเเหน่งข้างๆสีจิ่วเฉินจึงดึงที่นั่งมานั่ง

ถังจือซย่านั่งอยู่เบาะหลังเเต่กลับรู้สึกสบายกว่า เธอวางเเผนที่จะลงถนนใกล้ๆนี้

เธออยากเรียกรถเเท๊กซี่เเต่ไม่อยากนั่งรถคันเดียวกันกับซ่งซาน

รถของสีจิ่วเฉินขับออกจากบริเวณบ้านสี ซ่งซานที่อยู่ในรถให้สีจิ่วเฉินดูกำไลที่ส่องเเสงเเวววาวคุณภาพดีในมือ “จิ่วเฉิน คุณดู คุณย่ามอบให้ฉัน ดูดีใหม?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว