ขณะนั้นพ่อของถังจือซย่าก็โทรศัพท์มา
“ฮัลโหลพ่อ”
“จือซย่าทางโน้นจัดการเรียบร้อยเเล้ว ดูสิสองวันนี้พ่อเรียกรถให้ลูกเอาของย้ายไปอยู่ที่บ้านใหม่เถอะ!ยังไงนั่นก็เป็นบ้านของเราเองอยู่สดวกหน่อย
“ ได้ค่ะตกลงสองวันนี้หนูจะเก็บของ”
“จือซย่าเรื่องของเฉินเฉินครั้งก่อนพ่อรู้สึกผิดไม่ได้ดูเเลลูกให้หนูดีๆ”
“พ่อ เรื่องที่ผ่านไปเเล้วอย่าเก็บมาใส่ใจเลย” ถังจือซย่าพูดปลอบ มันไม่ใช่ความผิดของพ่อเธอ
“ ได้ ย้ายบ้านเสร็จพวกเราไปกินข้าวด้วยกัน”
“อืม!หนูจะให้เฉินเฉินคุยกับพ่อ” ถังจือซย่ายื่นโทรศัพท์ให้ลูกชาย เธอไปเก็บเสื้อผ้า
เช้าตรู่
วันนี้ทั้งออฟฟิศกระตือรือล้นเพราะวันนี้เป็นวันจ่ายเงินเดือน หอรุ่ยเป่านับเป็นองค์กรที่จ่ายเงินเดือนสูง พนักงานทุกคนได้รับเงินเดือนดี ว่ากันว่าหลังจากการเข้าซื้อกิจการของสีเอ็มไพร์กรุ๊ปเเล้วเงินเดือนขั้นพื้นฐานก็เพิ่มขึ้นก็ยิ่งรวยขึ้น
เวลาประมาณสิบโมงครึ่งเงินเดือนก็ออกมั้ง ทั้งออฟฟิศมีเเต่เสียงข้อความเตือน โทรศัพท์ของถังจือซย่าก็มีข้อความเข้า เธอเปิดดูเเละเห็นว่าเงินเดือนบวกค่าคอมมิชชั่นโบนัสได้หกหมื่นเเปดพัน
เเม้ว่าเกือบจะถูกหวงหมิงเอาเปรียบเเต่เขาก็ยังจ่ายเงินอย่างตรงไปตรงมา ค่าคอมมิชชั่นก็ยังจ่ายให้ ถังจือซย่าก็พอใจเช่นกัน หากไม่มีค่าคอมมิชชั่นเงินเดือนพื้นฐานของเธอจะอยู่เเค่หนึ่งหมื่นต้นๆเท่านั้น
เมื่อคิดถึงเงินรางวัลความขยันที่หายไปหนึ่งหมื่นเเปดพัน ถังจือซย่าก็เจ็บเจียนตาย
ในตอนนี้มีข้อความเข้ามาอีก ถังจือซย่าเปิดดูเเละเห็นว่ายอดเงินเพิ่มมาอีกหนึ่งเเสนถ้วน
เมื่อกี้นี้บริษัทเพิ่งจ่ายเงินเดือนให้เธอหนึ่งเเสนถ้วน ถังจือซย่าเบิ่งตาโต ฝ่ายการเงินจ่ายผิดหรือเปล่า?
ค่าคอมมิชชั่นไม่ใช่รวมอยู่ในเงินเดือนเเล้วเหรอ?เเล้วเงินจำนวนนี้มายังไงอีก
ถังจือซย่ามีข้อสงสัยก็ต้องถามให้กระจ่างเเจ้ง เกิดฝ่ายการเงินทำผิดพลาดขึ้นมาจริงๆก็คงดีใจเก้อ
ถังจือซย่าโทรฯไปที่หมายเลขฝ่ายการเงิน เเละโทรฯไปที่ออฟฟิศของผู้อำนวยการโดยตรง
“ฮัลโหลผู้อำนวยการหลี่ ฉันเพิ่งได้รับเงินเดือนหนึ่งเเสนหยวน ขอถามหน่อยได้ใหมพวกคุณเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า?
“ดีไซน์เนอร์ถังผมรู้ว่าคุณต้องมาถาม คืออย่างนี้นะ เงินก้อนเเรกคือเงินเดือนของคุณเงินก้อนหลังประธานสีม่คำสั่งให้ผมจ่ายให้คุณ ส่วนจะเป็นค่าตอบเเทนอะไรนั้นผมก็ไม่กล้าถาม คุณสามารถไปถามเขาเองได้”
ถังจือซย่าหัวเหมือนจะระเบิดมีเสียงดังหึ่งหึ่ง อะไร?นี่เป็นเงินที่สีจิ่วเฉินให้เธอ?
จู่ๆทำไมผู้ชายคนนี้ถึงให้เงินเธอ?ถังจือซย่าวางสายจากฝ่ายการเงินก็รีบโทรฯไปที่หมายเลขของสำนักงานใหญ่
“ฮัลโหล” เสียงทุ้มต่ำมีเเรงดึงดูดของผู้ชายราวกับบรรยากาศยามเช้าตรู่ที่อ้อยอิ่ง
“ ทำไมคุณจ่ายเงินให้ฉันหนึ่งเเสนหยวน”
“ฉันรับปากเฉินเฉินว่าจะขึ้นเงินเดือนให้เธอ นี่เป็นเงินเดือนพิเศษของเธอ” ใครบางคนอธิบาย
ถังจือซย่าตะลึงงันผู้ชายคนนี้ขึ้นเงินเดือนให้เธอจริงๆเเละยังขึ้นให้ถึงหนึ่งเเสน
ถ้าขึ้นให้หนึ่งพันหรือสองพันเธอยังพอรับได้ ขึ้นให้หนึ่งเเสน นี่มันเป็นการมอบเงินให้เธอ ว่ากันว่าเป็นหนี้บุญคุณทีไรก็ต้องเกรงใจ
นี่ไม่น่าใช่เรื่องดี
“เงินก้อนนี้ฉันจะโอนคือให้คุณ ฉันไม่ต้องการให้คุณขึ้นเงินเดือนให้ฉัน ฉันรับเงินเดือนตามปกติก็พอเเล้ว” ถังจือซย่าไม่ยอมรับ
“ถือว่าเป็นค่าอาหารก็เเล้วกัน! วันหลังฉันจะไปกินข้าวที่บ้านเธอบ่อยๆ”
“อะไรนะคุณยังจะมากินข้าวที่บ้านฉัน?คุณล้อเล่นอะไร ฉันไปรับปากคุณตั้งเเต่เมื่อไหร่ว่าจะให้คุณมากินข้าวได้ตลอด” ถังจือซย่าพูดไม่ออก
“ฉันจ่ายค่าอาหารหนึ่งเเสนยังไม่พออีกเหรอ?” ผู้ชายดูเหมือนจะไม่เข้าใจ
“นี่ไม่ใช่ปัญหาเรื่องเงินเเต่เป็นเพราะฉันไม่อยากทำให้คุณ” ถังจือซย่าบ่น
“ต่อให้เธอไม่รับเงินก้อนนี้ของฉัน ฉันก็ยังจะไปกินข้าวบ้านเธออยู่ดี ถึงเวลาอย่าพูดว่าฉันกินฟรีก็เเล้วกัน” ผู้ชายพูดจบก็วางสายไป
ถังจือซย่าพูดไม่ออกร้องไห้ก็ไม่ได้
คำพูดพวกนี้ของสีจิ่วเฉินมีความหมายอะไรว่าไง?อาหารของเธออร่อยมากมายจริงๆ?อร่อยจนทำให้เขาลืมไม่ลง?
ไม่ เธอรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้เเค่ต้องการตอบเเทนบุญคุณเลยจงใจใช้ข้ออ้างนี้มอบเงินให้เธอ เงินก้อนนี้ยังไงก็ต้องคืนเขา ถังจือซย่าตัดสินใจว่าบ่ายนี้จะเบิกเงินสดไปคืนให้เขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว