"ฮัลโหล" ภายในสามวินาที เสียงปลายสายที่ทุ้มและทรงพลังดังลอยออกมา
"ช่วยฉันด้วย...สีจิ่วเฉินช่วยฉัน...ฉันถูกคนปองร้าย ฉันซ่อนตัวอยู่ในห้องน้ำของโรงแรม ด้านนอกประตูมีผู้ชายคนหนึ่งที่อยากจะทำร้ายฉัน...ฉันเวียนหัวมาก ช่วยฉันด้วย..."
ทันทีที่สิ้นเสียงของถังจือซย่า เสียงของผู้ชายจากปลายสายก็รีบถามกลับมาทันที "เธออยู่ที่โรงแรมไหน ห้องเลขที่เท่าไหร่"
"ฉันไม่รู้...ฉันถูกคนพามา...ฉันจะส่งตำแหน่งให้คุณ...สีจิ่วเฉิน...รีบมาช่วยฉันด้วยนะ..."พูดจบ เหมือนสติรับรู้ของถังจือซย่าจะเลือนหายไป เธอสลบลงไปในห้องน้ำอีกครั้ง
ลานจอดรถใต้ดินขนาดใหญ่ของสีกรุ๊ป มีรถยนต์สีดำคันหนึ่งพุ่งออกมาอย่างรวดเร็วดุจวิญญาณ ตรงไปยังโรงแรมที่อยู่ตรงกับตำแหน่ง
ผู้ชายที่ขับรถมา หน้าตาหล่อเหลาดุจน้ำแข็ง มีความหนาวเย็นแผ่ซ่านออกมาจากดวงตาเล็กน้อย ถังจือซย่าถูกคนแบบไหนหลอกได้กันนะ
ใครกล้าวางกับดักเธอ
ในที่สุด ภายในเวลาสิบห้านาที รถของเขาก็พุ่งเข้ามายังลานจอดรถที่อยู่ตรงบริเวณด้านนอกของล็อบบี้โรงแรม เขาก้าวขายาวๆไปยังแผนกต้อนรับ ตอนนี้โทรไปที่มือถือของถังจือซย่าติดแล้ว แต่กลับไม่มีคนรับ เห็นได้ชัดว่าสลบไปแล้ว
"รีบไปเรียกผู้จัดการของพวกคุณมา เพื่อนของผมถูกคนข่มเหงอยู่ในโรงแรมนี้ เกิดเรื่องอะไรขึ้นมา ทางโรงแรมของพวกคุณต้องรับผิดชอบทั้งหมด”
พอผู้จัดการเห็นแขกที่มา เหงื่อก็ออกทันที นี่คือคุณชายใหญ่ของตระกูลสี มิใช่หรอกหรือ
"คุณชายสี ผมจะรีบตรวจดูกล้องวงจรปิดให้คุณครับ” ผู้จัดการรีบไปยังห้องควบคุมกล้องวงจรปิดที่อยู่ด้านหลังอย่างรวดเร็ว ไม่ถึงสองนาทีก็ตรวจพบว่าในลิฟต์มีหญิงสาวคนหนึ่งที่หมดสติ ถูกชายสองคนที่สวมหมวกพยุงขึ้นไปยังห้องเพรสซิเดนสูท
เมื่อเห็นเลขห้องชัดเจน สีจิ่วเฉินก็เดินตรงไปที่ลิฟต์ทันที ผู้จัดการก็พาพนักงานสองคนตามขึ้นไปเช่นกัน
ในขณะที่ลิฟต์พุ่งขึ้นไปอย่างรวดเร็ว ใจของสีจิ่วเฉินก็เหมือนกับลิฟต์ตัวนี้ ขึ้นมาอยู่จุกแน่นในคอของเขา ถังจือซย่าคงจะไม่ได้ถูก...
ไม่ ไม่มีทางโดยเด็ดขาด เธอไม่มีทางให้ใครมาข่มเหงเธอได้อีกแน่
ตอนนี้สีจิ่วเฉินมีใจคิดอยากฆ่าคนขึ้นมาแล้ว เป็นสวะตัวไหนกันแน่ที่กล้าแตะต้องเธอ
ในห้องเพรสซิเดนสูท หลังจากที่หลี่ซั่วมั่นใจว่าถังจือซย่าหมดสติในห้องน้ำแล้ว เขาก็เริ่มทำทุกวิธีเพื่อปลดล็อคกลอนประตู เขาเองก็ไม่กล้าขอให้ทางโรงแรมช่วย เขาในตอนนี้กำลังใช้เครื่องมืองัดแงะ
ทันใดนั้น ประตูห้องก็ถูกคนเตะออกอย่างแรง ร่างที่เดือดดาลร่างหนึ่งพุ่งเข้ามา สูงล่ำหล่อเหลาดั่งราชาแห่งนรกสีจิ่วเฉินมองไปที่ท่อนบนที่เปลือยเปล่าของหลี่ซั่ว เป็นสภาพที่น่าสะอิดสะเอียนสุดๆ เขาจึงเตะตาแก่นี่จนล้มลงไปกลิ้งที่พื้น
พอเตะหลี่ซั่วออกไปแล้ว สีจิ่วเฉินก็รู้ว่าถังจือซย่ายังอยู่ในห้องน้ำ เพียงแต่ยังไม่ได้สติ ผู้จัดการจึงรีบให้พนักงานนำกุญแจมาไขประตู
พนักงานรีบนำกุญแจมาให้ภายในหนึ่งนาที และเปิดประตูห้องน้ำ ก็เห็นหญิงสาวผมเผ้ารึงรังคนหนึ่งนั่งพิงผนังห้องน้ำอยู่ แสงสว่างส่องกระทบใบหน้าที่ซีดเซียวของเธอ แต่ความงามของเธอนั้นยังคงงดงามดึงดูดใจคนได้มิเปลี่ยน
”จือซย่า…” สีจิ่วเฉินตะโกนเรียกเธออย่างร้อนรนใจพลางเอื้อมมือออกไปดึงเธอมาโอบกอดไว้
และในเวลานี้เองที่ หลี่ซั่วจำเขาได้ เขาตกใจมากเสียจนทรุดลงไปที่พื้น ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผู้หญิงที่เขาล่วงเกินไปเป็นผู้หญิงของสีจิ่วเฉิน
ในขณะที่สีจิ่วเฉินอุ้มถังจือซย่าออกไป ผู้จัดการเฉาก็เอ่ยสั่งด้วยน้ำเสียงที่เย็นเยียบ "แจ้งตำรวจให้มาจับเขาไป"
ผู้จัดการสั่งให้พนักงานจับตัวหลี่ซั่วเอาไว้ เขาต้องไปแจ้งความแล้ว
ในขณะที่ถังจือซย่าถูกอุ้มไว้อยู่นั้น กลิ่นของผู้ชายที่คุ้นเคยทำให้เธอรู้สึกปลอดภัย เธอเอื้อมมือไปคล้องคอผู้ชายคนนี้ เพื่อคลายความร้อนรุ่มในกายที่มีมาอย่างยาวนาน
สีจิ่วเฉินก็ไม่ได้อุ้มเธอออกไปไหน เพียงแต่พาไปที่อีกห้องหนึ่ง วางเธอไว้บนเตียงอย่างนุ่มนวล ถังจือซย่ารู้ว่าเป็นเขา แขนเรียวบางของเธอไม่ยอมปล่อยเขา เธอค่อยๆ ลืมตาคู่งามของเธอขึ้นมา ภายใต้แสงไฟสลัวๆ
สีจิ่วเฉินหายใจติดขัด แม้จะรู้ว่าไม่ควรเกิดความใคร่ในตัวเธอในเวลานี้ แต่ความจริงก็คือ สภาพผู้หญิงคนนี้ในเวลานี้ มากพอที่จะเขย่าหัวใจของผู้ชายคนไหนๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว