ตั้งแต่ตอนที่อู๋เจียนเริ่มต่อสู้ถึงตอนที่เขาค่อยๆ ถูกสวนกลับจนต้องถอยออกมา ภายใต้การโจมตีขาที่แข็งแกร่งหลายครั้งของเนี่ยเหยียนเฟิงนั้นทำให้อู๋เจียนถึงกลับต้องส่งเสียงเหนื่อยหอบออกมาทางจมูก ทำให้เห็นว่าเข้าเกือบจะไม่ไหวแล้ว
“พี่เจียนระวัง” อันฉีตะโกนออกไปอย่างตกใจ
เดิมทีเนี่ยเหยียนเฟิงจะออกหมัดไปด้านข้างของอู๋เจียน แต่เมื่อได้ยินเสียงตะโกนนั้นทำให้เขาหยุดชะงักทันทีและเก็บหมัดกลับไป แต่ทว่าอู๋เจียนก็กำลังเตรียมปล่อยหมัดอยู่เหมือนกัน เมื่อได้โอกาสเขาจึงพุ่งหมัดเข้าไปยังหน้าด้านข้างของเนี่ยเหยียนเฟิง ร่างสูงถึงกลับถอยไปด้านหลังสองสามก้าวจึงจะทรงตัวได้
อันฉีตกใจจนหน้าซีด เธอลุกออกจากที่นั่งวิ่งไปหาเนี่ยเหยียนเฟิง
มุมปากของเนี่ยเหยียนเฟิงมีเลือดซิบออกมาเล็กน้อย
“ลูกพี่ ผมขอโทษ” อู๋เจียนกล่าวขอโทษ
เนี่ยเหยียนเฟิงเช็ดเลือดที่มุมปากออก และตอบเขาไปว่า “ไม่เป็นไร”
“คุณเลือดออกแล้ว” อันฉีมองเขาด้วยความปวดใจ
เนี่ยเหยียนเฟิงพูดกับอาซง “ นายขึ้นไป”
อาซงเดินไปอย่างสบายๆ พร้อมกับส่งยิ้มไปให้อู๋เจียน “พี่เจียน ผมมาแล้ว”
เนี่ยเหยียนเฟิงคว้าตัวอันฉีเอาไว้ และให้เธอออกไปอยู่ในที่ปลอดภัย อันฉีลากเขามานั่งที่เก้าอี้ด้านข้างเพื่อสำรวจบาดแผลของเขาอย่างละเอียด
ในขณะนั้นเอง เสี่ยวซื่อและหลี่หลงซินก็กำลังกระซิบกระซาบกันเบาๆ
“ดูสิ ที่ลูกพี่พูดไม่มีผิดเลย ผู้หญิงมีผลต่อความเร้วในการออกหมัดของเขาจริงๆ ถ้าหากคุณหนูอันฉีไม่ตะโกนออกไป ลูกพี่ก็ไม่ถูกต่อยหรอก”
“ก็ใช่น่ะสิ ! ดูอย่างลูกพี่พวกเรา พอโดนต่อยปุ๊บก็มีสาวสวยมาคอยเอาดูแลไม่เลวเลยจริงๆ ”
“ลูกพี่นี่น่าจะชอบคุณหนูอันฉีมากเลยสินะ แค่เธอตะโกนออกมาประโยคเดียวก็กระทบไปถึงแผนการต่อสู้ของเขา”
“ก็นั่นมันคนสำคัญยังไงล่ะ !”
“จะว่ายังไงดีล่ะ เรื่องที่อันฉีกลายมาเป็นพี่สะใภ้ของพวกเรา คงจะจริงแล้วใช่ไหม”
เสี่ยวซื่อและหลี่หลงซินมองไปยังเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม เนี่ยเหยียนเฟิงเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้อันฉีได้สำรวจตำแหน่งของแผลได้ชัดเจน หมัดของอู๋เจียนนั้นถึงแม้จะจะไม่ปล่อยออกมาเต็มแรง แต่ก็ถือว่าหนักหน่วงพอสมควร
เนี่ยเหยียนเฟิงอาบน้ำเร็วมากสิบกว่านาทีก็เสร็จแล้ว เขาเปลือยท่อนบนและใส่แค่กางเกงสีดำขายาวออกมา ปลายผมมีหยดน้ำเกาะอยู่ ผิวสีแทนแลดูสุขภาพดี ทำให้เขาดูมีเสน่ห์เหลือล้น
อันฉีเงยหน้ามามองด้วยความชื่นชมหลายวินาที หน้าเห่อร้อนขึ้น ผู้ชายคนนี้รูปร่างดีมากจริงๆ ช่างเพอร์เฟคจริงๆ
แล้วนี่เธอเขินอะไรอยู่ เธอกับเขาเป็นอะไรกันอย่างนั้นเหรอ
เนี่ยเหยียนเฟิงสวมเสื้อผ้าเดินมาทางด้านหลังของอันฉี เขาสวมเสื้อยืดสีเทาหลวมๆ มานั่งบนโซฟา เขาคล้องแขนเธอและพูดว่า “มาที่นี่”
อันฉีหยิบถุงน้ำแข็งมานั่งข้างเขา และประคบลงบนบาดแผลที่ใบหน้าของเขา
“ยังปวดอยู่ไหม” อันฉีถามเบาๆ
“ไม่ปวด” เนี่ยเหยียนเฟิงหรี่ตาลงเล็กน้อยตอบเธอ นัยต์ตาลึกจ้องมองใบหน้าเล็กของเธอเอาไว้
อันฉีที่ตอนแรกให้ความสนใจแค่กับบาดแผลของเขา แต่เมื่อหันมาสบตาดำขลับคู่นี้ที่ราวกลับหลุมดำก็เกิดความรู้สึกอันตรายขึ้นมา เธอคิดว่าถ้าหากมองนานกว่านี้จะไม่ดีแน่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว
ค่าต่อการอ่านหน้าต่อไปแพงจังค่ะ...
มาแล้ว พึ่งเข้ามาดู...
รอๆๆคะ...
สรุปเรื่องไม่ไปต่อแล้วเหรอค่ะ ติดตามมาตลอดหายไปอีกรอบ เสียดายจังค่ะ กำลังสนุกเลย ด้วยเพราะเหตุผลอะไร ยังไงก็ขอขอบคุณค่ะที่ทำให้การอ่านมีความสุขกับตัวละครที่สร้างจินตนาการให้นะ่ค่ะ...
เรืองหยุดชะงักอีกรอบแล้ว ผู้แต่งไม่สบายหรือเปล่าค่ะ หรือติดอะไรยังก็ขอเป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ รอการกลับมาของนิยายเรื่องนี้อยู่ตลอดค่ะ...
หายไป 3 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน.....
หายไป 2 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน...
สนุกมากค่ะ อยากให้ลงสักวันล่ะ 20 ตอนเลยค่ะ สนุกมากๆๆและมีลุ้นด้วยว่าจะยังไงต่อ ต่อไปจะเป็นคู่ของท่านรองปะค่ะ รองประธาน น่ะจะมีนะ555...
น่าสงสารนางเอกจัง และสงสารพระเอกที่จะบอกคนที่ตนเองรักยังไง ว่าคู่หมั้นตัวเองเป้นญาติกัน...
ติดตามต่อค่ะ สนุกมากๆๆๆ...