รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว นิยาย บท 97

ยังดี ที่ตอนแรกซ่งซานได้ปลอมเป็นหนุ่มคาวบอยหนุ่ม ได้ข่มขู่ถังจือซย่าว่าห้ามแจ้งความและปล่อยหลี่ซั่วไป สิบกว่านาทีให้หลัง ก็ได้รับข้อความว่าหลี่ซั่วได้ออกจากโรงแรมอย่างปลอดภัยแล้ว

ดังนั้น ซ่งซานคิดว่าถังจือซย่ากับสีจิ่วเฉินอยู่ด้วยกัน เพราะครั้งที่แล้วเธอโทรไปแต่สีจิ่วเฉินไม่ได้รับ อาจจะเป็นเพราะว่าถังจือซย่าอยู่ใกล้ตัวเขาแน่เลย

แผ่นการที่ถูกวางไว้ในคืนนี้ก็นับว่าผ่านไปอย่างปลอดภัย เสียดายความคิดของเธอจริงๆ ที่ทำให้ถังจือซย่าเสียความบริสุทธิ์ไม่ได้

แต่ถ้าเธอปลอมเป็นคาวบอยหนุ่มเหมือนก่อนหน้านี้ ถังจือซย่าก็จะถูกควบคุมไว้ในกำมือเธอแน่ๆ

ไอ้หย่าเพิ่งรู้ตัวว่า ความสัมพันธ์ของถังจือซย่ากับสีจิ่วเฉินมันไม่ธรรมดา ดูแล้วถังจือซย่าอยู่ในบริษัทต้องเป็นคนที่มีเส้นสายแน่ๆ

ของรางวัลชิ้นใหญ่นี้คงไม่มีวาสนากับเธอแล้ว

แต่ถ้าในอนาคตมีโอกาส เธอก็ยังจะหาโอกาสทำให้ถังจือซย่าถูกไล่ออกจากหอรุ่ยเปาให้ได้ เพราะว่าไอ้หย่าเป็นคนที่มีความโลภสูง เธออยากเป็นนักออกแบบระดับอาวุโส แล้วก้าวขึ้นไปทีละก้าว ขึ้นไปนั่งตำแหน่งของหลี่เหมย แล้วกลายเป็นผู้อำนวยการแผนกดีไซเนอร์

ถังจือซย่ากลายเป็นเชือกขวางทางของเธอ และเป็นคู่แข่งของเธอด้วย

ถังจือซย่ากลับถึงบ้าน คุณพ่อดูแลลูกชายดีมาก นอนอยู่บนเตียงตอนกลางคืน ข้างตัวเป็นเสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอของลูกชาย แต่เธอกลับนอนไม่หลับเลย

พอเธอหลับตาก็มีแต่ภาพที่กอดกับสีจิ่วเฉินอย่างดุเดือดที่โรงแรม ถ้าความจำของเธอไม่ผิด เธอเป็นคนเริ่มก่อนอีกด้วย

‘น่าขายหน้ามากจริงๆ’

‘ด้วยฤทธิ์ของยาในตอนนั้น ทำให้เธอทิ้งความละอายไปหมด เข้าไปกอดจูบเขาไม่หยุด ถ้าสีจิ่วเฉินไม่ได้ปฏิเสธเธอแล้วละก็ เธอน่าจะขึ้นเขาไปอย่างไม่สนใจอะไรแล้ว’

‘โอ้ย!’ ถังจือซย่าอยากจะความจำเสื่อมจริงๆ

‘ยังดี หลังจากผู้ชายคนนี้จบเรื่องนี้ไปไม่ได้พูดอะไรอีกเลย ไม่งั้น เธอควรที่จะหารูและมุดเข้าไปแล้ว’

บ้านตระกูลถัง

ถังจวิ้นกลับมาดึกอีกแล้ว หลี่เจี๋ยนั่งอยู่บนโซฟามองไปที่ร่างของเขา พูดอย่างโกรธๆ ไปว่า “ไปช่วยลูกสาวคนโตดูลูกชายอีกแล้วสินะ! บ้านนี้ไม่ใช่บ้านแล้ว บ้านนั้นถึงจะเป็นบ้านของคุณ คุณกลับมาทำไม”

ถังจวิ้นอธิบายแค่คำเดียว “จือซย่ามีธุระ”

แต่สิ่งที่หลี่เจี๋ยกังวล ไม่ใช่เรื่องที่ไปช่วยดูแลหลาน? เธอกลัวว่าสามีตั้งใจที่จะเห็นถังจือซย่าสำคัญกว่า ในอนาคตบริษัทของเขาก็อาจจะให้มันดูแล ลูกสาวของเธอ เธอรู้อยู่แก่ใจว่าเป็นยังไง

ถังจือซย่าแบกรับเรื่องต่างๆ ได้ดีกว่า แบกรับในหน้าที่ แค่นี้ก็ดูออกแล้ว

เธอก็คือกลัวว่าในอนาคตลูกสาวตัวเองจะสู้ถังจือซย่าไม่ไหว

“อาจวิ้น ฉันไม่มีคำขออะไรเลย ขอแค่ถ้าคุณให้สิ่งใดกับถังจือซย่า คุณก็ควรให้ซิงซิงแบบนั้นด้วย ต้องตักน้ำใส่ถ้วยให้เท่ากัน ไม่งั้น ไม่ช้าก็เร็วบ้านนี้ก็แยกกันไปเลย! ไม่มีความหมายอะไรแล้ว” พูดจบ หลี่เจี๋ยตาแดงแบบบังคับไม่ได้ แล้วร้องไห้ออกมา

“พอแล้วๆ ฉันจะดีกับคุณและซิงซิงเหมือนกัน” ถังจวิ้นก็ยังปลอบใจเธอไป ยังไงก็คือภรรยาและลูกสาวของเขา เขาก็อยากทำให้เท่าเทียมกัน

“ดีที่สุดถ้าคุณพูดแล้วทำตามคำพูด” หลี่เจี๋ยกระโจนเข้าไปในอ้อมกอดเขา ใช้ความอ่อนโยนของผู้หญิงมาหยุดเขา

ถังจวิ้นก็ใจอ่อนไปไม่น้อย “ตกลง! ผมคำไหนคำนั้น”

ตอนเช้า

ถังจือซย่าส่งลูกชายเสร็จ เธอมาที่บริษัทเลย ผลการแข่งขันอัญมณีจะประกาศพรุ่งนี้แล้ว เธอก็มีแรงในการทำงานมากขึ้น

ยิ่งไปกว่านั้นหอรุ่ยเป่าถูกบริษัทสีซื้อกิจการไปก็จะมีโอกาสพัฒนาได้ไกลกว่านี้ เงินเดือนก็จะดีกว่า ทำไม่กี่ปีก็คงได้เลื่อนตำแหน่งแน่!

ในห้องทำงาน

ถังจือซย่านึกถึงเรื่องที่เชิญสีจิ่วเฉินกินข้าวเที่ยง เธอก็เลยต้องโทรไปเลื่อนนัดกินข้าวเที่ยงกับจ้านฉิงเหย่ออกไป

เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย เธอเลือกที่จะโกหกไปก่อน “ฉิงเหย่เที่ยงนี้มีประชุม ฉันทานอะไรง่ายๆ ที่ห้องทำงานไปแล้ว ไว้คราวหน้าค่อยทานมื้อเที่ยงด้วยกันนะ”

“งานยุ่งขนาดนั้นเลยเหรอ? แค่เวลากินข้าวเที่ยงก็ยังไม่มีเลย? งานนี้ไม่มีอนาคต จือซย่ามาทำงานที่บริษัทฉันดีกว่า!”

“อย่าล้อเล่นสิ ฉันรักในงานของฉัน งั้นแค่นี้แหละ ฉันวางก่อนละนะ”

“เฮ้ย...” จ้านฉิงเหย่ที่อยู่ปลายสายอยากจะพูดอะไร ถังจือซย่าก็ไม่ได้ยินและวางสายไปเลย

ในที่ประชุมตอนเช้า

สายตาของไอ้หย่ามองไปที่เธอแบบไม่ชอบ ถังจือซย่าไม่รู้เลยว่าเรื่องของเมื่อคืนไอ้หย่าได้เข้าร่วมด้วย

โชคดีเมื่อคืนเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด ถังจือซย่าก็ไม่ได้รับข้อความจากหนุ่มคาวบอยคนนั้นอีกเลย นี้ก็เป็นสิ่งที่ทำให้เธอโล่งใจ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว