ได้ยินแบบนี้ เฉินจื่ออานยิ่งไม่สบายใจแล้ว
“หากหลิ่วเอ๋อมาที่นี่จริงๆ ......” คำพูดต่อไป เขาไม่กล้าพูดต่อ
กำลังครุ่นคิดอยู่ ภายในประตูมีเสียงกรีดร้องดังขึ้น เป็นเสียงที่คุ้นเคย ลู่ม่านกับเฉินจื่ออานฟังรู้ทันทีว่าเป็นเสียงของเฉินหลิ่วเอ๋อ
สีหน้าทั้งสามคนเปลี่ยนไปทันที เฉินจื่ออานใช้เท้าเตะประตูใหญ่ของจวนเปิดออก
เสียงดังปัง ข้างในมีคนล้อมเข้ามาทันที
“ใครกล้ามาเตะประตูของจวนอ๋องหนิง ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรือ?”
จวงลี่จ้งรีบเดินเข้าไป พร้อมยิ้มพูดขึ้นว่า “ข้าเอง”
บ่าวใช้ข้างในรู้จักจวงลี่จ้ง สีหน้าค่อยดีขึ้นมาบ้าง พร้อมพูดขึ้นว่า “ที่แท้ก็คุณชายจวง วันนี้คุณชายรองไม่ได้เชิญเจ้ามา”
บ่าวใช้วางมาดอย่างมาก ไม่เห็นจวงลี่จ้งอยู่ในสายตาเลย
ลู่ม่านถือโอกาสมองดูเข้าไปข้างใน มองไปที่ห้องประตูใหญ่ ไฟสว่างอยู่ เสียงร้องเมื่อกี้ น่าจะดังออกมาจากที่นั่น
จวงลี่จ้งก็ไม่โกรธ ยังคงพูดอย่างไม่แยแสเหมือนอย่างที่ผ่านมาว่า “วันนี้หากคุณชายรองไม่พบข้า เกรงว่าจะเสียใจภายหลัง”
จากนั้น บ่าวใช้ค่อนข้างลังเลแล้ว
ช่วงที่ผ่านมา ดูเหมือนคุณชายรองกับคุณชายจวงเคยคุยเรื่องธุรกิจกัน แต่ดูเหมือนคุณชายจวงปฏิเสธ ต่อมา คุณชายรองยังด่าทออยู่ที่บ้านหลายครั้ง......
บ่าวไปกลอกสายตาไปมา แล้วก็หันไปมองลู่ม่านกับเฉินจื่ออานที่เตะประตูเมื่อกี้
“สองท่านนี้คือ?”
“เป็นคนที่ข้าจะพามาคุยธุรกิจกับคุณชายรอง”
ยังดีที่วันนี้ทั้งสองคนแต่งตัวตามที่พ่อบ้านจวงลี่จ้งจัดเตรียมไว้ให้ ภายนอกแลดูไม่เลว สามกับคำพูดที่ว่า ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง
ในที่สุดบ่าวใช้ก็ไม่กล้าชักช้า รีบพูดขึ้นว่า “รอเดี๋ยว”
พูดเสร็จ เขาก็หันเดินไปที่หน้าประตู พูดกับคนที่อยู่ข้างในด้วยเสียงเบาว่า “คุณชายรอง ข้าน้อยขอเข้าไป?”
สักพัก ข้างมีเสียงหงุดหงิดดังขึ้นว่า “ไสหัวเข้ามา”
บ่าวใช้คอหด ผลักประตูเข้ามา หลังจากนั้นสักพัก ประตูใหญ่เปิดออก คุณชายที่แต่งกายไม่เรียบร้อยเดินออกมา
เมื่อหันไปมอง หน้าตาถือว่าไม่เลว แต่ใบหน้านั้น แลดูสําส่อนทางเพศเกินไป ขอบตาดำคล้ำ
ในใจเฉินจื่ออานหนักอึ้ง เป็นห่วงเฉินหลิ่วเอ๋อเพิ่มมากขึ้น จวงลี่จ้งกระซิบพูดข้างหูเขาว่า “คุณชายเฉิน อดทนไว้”
เฉินจื่ออานสูดลมหายใจเข้าลึกๆ จ้องมองดูคุณชายรองของจวนอ๋องหนิงคนนั้น
จวงลี่จ้งเดินไปพูดขึ้นว่า “คุณชายรอง ไม่ได้เจอกันนาน”
“คุณชายรองจวงงานยุ่ง มาวันนี้อย่างกะทันหัน เพราะคิดได้แล้วหรือ?” พูดเสร็จ ดวงตาเปียกชื้นคู่นั้นของเขา หันไปมองเฉินจื่ออานกับลู่ม่าน สุดท้ายหยุดมองดูลู่ม่าน
เฉินจื่ออานรีบขยับตัว ดึงลู่ม่านมาไว้ข้างหลัง
คุณชายรองอ๋องหนิงขมวดคิ้ว หันไปมองเฉินจื่ออาน พร้อมพูดขึ้นอย่างไม่พอใจว่า “เจ้าเป็นใคร?”
“ทั้งสองท่านนี้คือสามีภรรยาบ้านเฉินผู้คิดค้นผงเครื่องเทศสิบสามชนิด”
ก่อนหน้านี้ แม่ของอ๋องหนิงสนใจผงเครื่องเทศสิบสามชนิดของลู่ม่าน อยากได้มาครอบครอง แต่เสียดายตอนนั้น ลู่ม่านอ้างว่าได้ทำความร่วมมือกับตระกูลจวงแล้ว จึงรอดตัวไปได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
เป็นพอ.ที่กลับกรอก เป็นที่พึ่งไม่ได้เลย ยอกจะออกจากครอบครัวเลวๆนี่ไม่จริงอีก ภาระของนางเอก ถ่วงแข้งถ่วงขาจริงๆ...
เด็กไม่ตายเพราะแม่คลอดยากจะตายเพราะคนรับใช้ป้อนโจ๊กข้าวจนอิ่มตื้อ รอดได้คือดวงแข็งเว่อ...
อ่านไป งงไป ตัดสินประหาร หรืออภัยโทษ?...
หม่อมข้า? ใช้ MS Word ไม่ระวังเลย...
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอน 337 แล้ว โดยภาพรวมพระเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เฉียบแหลมเลย...
อะไรจะมีปมขนาดนั้น วุ่นวายตอกย้ำเหลือเกินเกี่ยวกับระบบศักดินา ทั้งที่มันเป็นคนละยุคสมัยกัน...
ตอน285-287 หายทำไงดี...
ตอนหายค่ะ 284แล้วกระโดดไป288เลยค่ะ...
บท 285-287 หายค่ะ 284แล้ว288เลย รบกวนด้วยค่ะ...
281-311 รบกวนด้วยค่ะ...