ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 132

สรุปบท บทที่ 132 ช่วยไถ่ถอน: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน

ตอน บทที่ 132 ช่วยไถ่ถอน จาก ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 132 ช่วยไถ่ถอน คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายประวัติศาสตร์ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน ที่เขียนโดย ฝูเชิง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ได้ยินแบบนี้ เฉินจื่ออานยิ่งไม่สบายใจแล้ว

“หากหลิ่วเอ๋อมาที่นี่จริงๆ ......” คำพูดต่อไป เขาไม่กล้าพูดต่อ

กำลังครุ่นคิดอยู่ ภายในประตูมีเสียงกรีดร้องดังขึ้น เป็นเสียงที่คุ้นเคย ลู่ม่านกับเฉินจื่ออานฟังรู้ทันทีว่าเป็นเสียงของเฉินหลิ่วเอ๋อ

สีหน้าทั้งสามคนเปลี่ยนไปทันที เฉินจื่ออานใช้เท้าเตะประตูใหญ่ของจวนเปิดออก

เสียงดังปัง ข้างในมีคนล้อมเข้ามาทันที

“ใครกล้ามาเตะประตูของจวนอ๋องหนิง ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรือ?”

จวงลี่จ้งรีบเดินเข้าไป พร้อมยิ้มพูดขึ้นว่า “ข้าเอง”

บ่าวใช้ข้างในรู้จักจวงลี่จ้ง สีหน้าค่อยดีขึ้นมาบ้าง พร้อมพูดขึ้นว่า “ที่แท้ก็คุณชายจวง วันนี้คุณชายรองไม่ได้เชิญเจ้ามา”

บ่าวใช้วางมาดอย่างมาก ไม่เห็นจวงลี่จ้งอยู่ในสายตาเลย

ลู่ม่านถือโอกาสมองดูเข้าไปข้างใน มองไปที่ห้องประตูใหญ่ ไฟสว่างอยู่ เสียงร้องเมื่อกี้ น่าจะดังออกมาจากที่นั่น

จวงลี่จ้งก็ไม่โกรธ ยังคงพูดอย่างไม่แยแสเหมือนอย่างที่ผ่านมาว่า “วันนี้หากคุณชายรองไม่พบข้า เกรงว่าจะเสียใจภายหลัง”

จากนั้น บ่าวใช้ค่อนข้างลังเลแล้ว

ช่วงที่ผ่านมา ดูเหมือนคุณชายรองกับคุณชายจวงเคยคุยเรื่องธุรกิจกัน แต่ดูเหมือนคุณชายจวงปฏิเสธ ต่อมา คุณชายรองยังด่าทออยู่ที่บ้านหลายครั้ง......

บ่าวไปกลอกสายตาไปมา แล้วก็หันไปมองลู่ม่านกับเฉินจื่ออานที่เตะประตูเมื่อกี้

“สองท่านนี้คือ?”

“เป็นคนที่ข้าจะพามาคุยธุรกิจกับคุณชายรอง”

ยังดีที่วันนี้ทั้งสองคนแต่งตัวตามที่พ่อบ้านจวงลี่จ้งจัดเตรียมไว้ให้ ภายนอกแลดูไม่เลว สามกับคำพูดที่ว่า ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง

ในที่สุดบ่าวใช้ก็ไม่กล้าชักช้า รีบพูดขึ้นว่า “รอเดี๋ยว”

พูดเสร็จ เขาก็หันเดินไปที่หน้าประตู พูดกับคนที่อยู่ข้างในด้วยเสียงเบาว่า “คุณชายรอง ข้าน้อยขอเข้าไป?”

สักพัก ข้างมีเสียงหงุดหงิดดังขึ้นว่า “ไสหัวเข้ามา”

บ่าวใช้คอหด ผลักประตูเข้ามา หลังจากนั้นสักพัก ประตูใหญ่เปิดออก คุณชายที่แต่งกายไม่เรียบร้อยเดินออกมา

เมื่อหันไปมอง หน้าตาถือว่าไม่เลว แต่ใบหน้านั้น แลดูสําส่อนทางเพศเกินไป ขอบตาดำคล้ำ

ในใจเฉินจื่ออานหนักอึ้ง เป็นห่วงเฉินหลิ่วเอ๋อเพิ่มมากขึ้น จวงลี่จ้งกระซิบพูดข้างหูเขาว่า “คุณชายเฉิน อดทนไว้”

เฉินจื่ออานสูดลมหายใจเข้าลึกๆ จ้องมองดูคุณชายรองของจวนอ๋องหนิงคนนั้น

จวงลี่จ้งเดินไปพูดขึ้นว่า “คุณชายรอง ไม่ได้เจอกันนาน”

“คุณชายรองจวงงานยุ่ง มาวันนี้อย่างกะทันหัน เพราะคิดได้แล้วหรือ?” พูดเสร็จ ดวงตาเปียกชื้นคู่นั้นของเขา หันไปมองเฉินจื่ออานกับลู่ม่าน สุดท้ายหยุดมองดูลู่ม่าน

เฉินจื่ออานรีบขยับตัว ดึงลู่ม่านมาไว้ข้างหลัง

คุณชายรองอ๋องหนิงขมวดคิ้ว หันไปมองเฉินจื่ออาน พร้อมพูดขึ้นอย่างไม่พอใจว่า “เจ้าเป็นใคร?”

“ทั้งสองท่านนี้คือสามีภรรยาบ้านเฉินผู้คิดค้นผงเครื่องเทศสิบสามชนิด”

ก่อนหน้านี้ แม่ของอ๋องหนิงสนใจผงเครื่องเทศสิบสามชนิดของลู่ม่าน อยากได้มาครอบครอง แต่เสียดายตอนนั้น ลู่ม่านอ้างว่าได้ทำความร่วมมือกับตระกูลจวงแล้ว จึงรอดตัวไปได้

ในใจลู่ม่านด่าทอเขาไปเป็นร้อยรอบค่อยสงบจิตใจได้

พูดเสร็จ เขาก็ลุกขึ้นเข้าไปในห้อง หลังจากเสียงคุยกันดังขึ้นสักพัก ก็เห็นคุณชายรองอ๋องหนิงที่แต่งกายไม่เรียบร้อย เดินจูงหญิงสาวแต่งตัวธรรมดาคนหนึ่งเดินออกมา

หญิงสาวแลดูหวาดกลัวมาก หน้าขาวหน้าซีดเป็นไก่ต้ม มือข้างหนึ่งดิ้นรนสุดชีวิต แต่ก็จนใจที่ดิ้นรนยังไงก็ไม่หลุด

ไม่ใช่เฉินหลิ่วเอ๋อแล้วจะเป็นใคร? เฉินจื่ออานกำหมัดแน่นขึ้นมาทันที กำลังจะลุกขึ้น จวงลี่จ้งจับมือของเขาอยู่ใต้โต๊ะ พร้อมพูดขึ้นด้วยเสียงเบาว่า “เรามาได้ทันเวลา แม่นางเฉินยัง......เวลานี้ เจ้าอย่าวู่วาม”

แต่เฉินจื่ออานไม่วู่วามได้อย่างไร มองดูน้องสาวตนเองถูกคนลามกอนาจารจับตัวไว้ต่อหน้าต่อตาหรือ? ต่อให้ความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องจะไม่ดี เขาก็อดทนรับไม่ได้

สูดลมหายใจหนึ่งที แล้วเขาก็ลุกขึ้นมา เดินมุ่งหน้าตรงไปทางนั้น

ในใจลู่ม่านบอกว่าแย่แล้ว ฉวยโอกาสตอนที่เฉินจื่ออานวิ่งไป จึงร้องเรียกขึ้นว่า “หลิ่วเอ๋อ เจ้าอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?”

เดิมในใจเฉินหลิ่วเอ๋อหวาดกลัว ดังนั้นจึงไม่สังเกตเห็นว่าในห้องยังมีคนอื่น ตอนนี้ ได้ยินเสียงลู่ม่าน นางจึงร้องไห้ออกมา

“พี่สาม พี่สะใภ้สาม”

คุณชายรองอ๋องหนิงได้ยินเช่นนี้ นิ้วมือชะงัก พร้อมพูดขึ้นว่า “พวกเจ้ารู้จักกัน?”

“นี่เป็นน้องเล็กบ้านเรา” ลู่ม่านเดินออกมา จับไว้เฉินจื่ออานไว้อย่างเงียบๆ พร้อมพูดขึ้นอย่างยิ้มแย้ม

“อ้อ ที่แท้ก็แม่นางเฉินนี่เอง” คุณชายรองอ๋องหนิงหัวเราะ พร้อมพูดขึ้นว่า “แม่นางเฉินน่ารักมาก ข้าชอบ”

สีหน้าเฉินจื่ออานเปลี่ยนไปทันที ลู่ม่านจึงรีบพูดขึ้นว่า “คุณชายรองพูดเล่นแล้ว หลิ่วเอ๋อรูปลักษณ์ธรรมดาแล้วได้รับความชื่นชอบของคุณชายรองถือเป็นบุญของนาง แต่ชาวไร่ชาวนาอย่างเราให้ความสำคัญเรื่องขนบธรรมเนียม หากคุณชายรองชื่นชอบ ก็ไปสู่ขอได้ ไม่อย่างนั้นพ่อแม่พี่ชายที่บ้านจะไม่พอใจ”

ลู่ม่านตั้งใจพูดอย่างแอบแฝงสามอย่าง อย่างแรกคือพูดเสียดสี ชาวไร่ชาวนาล้วนให้ความสำคัญเรื่องขนมธรรมเนียม พวกเขาที่เป็นคนร่ำรวยกลับทำตัวเหมือนสัตว์เดรัจฉาน อีกอย่างคือเป็นการบอกคุณชายรองทางอ้อมว่าให้มาสู่ขอ และนางก็รู้ ด้วยสถานะของเขาในตอนนี้ จวนอ๋องหนิงจะมาสู่ขอให้ได้อย่างไร? ดังนั้น นางต้องการพูดให้คุณชายรองล้มเลิกความคิด

อย่างสุดท้ายคือ นางตั้งใจอ้างถึงพ่อและพี่ชายที่บ้าน เพราะอยากบอกคุณชายรองว่า อ๋องหนิงรู้จักบ้านเฉินของพวกเขา หากดื้อไม่เชื่อฟัง พวกนางจะไปฟ้องอ๋องหนิง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน