ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 138

สรุปบท บทที่ 138 หว่านต้นกล้า: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน

สรุปเนื้อหา บทที่ 138 หว่านต้นกล้า – ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดย ฝูเชิง

บท บทที่ 138 หว่านต้นกล้า ของ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน ในหมวดนิยายประวัติศาสตร์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ฝูเชิง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ลู่ม่านขำเขาจนหัวเราะออกมา ท่าทีเฉินจื่ออานจริงจัง อย่างที่ผู้ชายมากมายพูดในสังคมยุคใหม่

ที่นั่งด้านข้างของข้า มีไว้สำหรับเจ้าตลอดไป

ตอนนี้คำมั่นสัญญาของผู้ชายเหล่านั้นจะเป็นจริงหรือไม่ ลู่ม่านไม่แน่ใจ แต่คำมั่นสัญญาของเฉินจื่ออาน ลู่ม่านยอมเชื่อ

“เจ้าเข้าใจข้าผิดแล้ว” ลู่ม่านพูดอธิบายอย่างใจเย็นว่า “ตอนนี้งานเรายิ่งอยู่ยิ่งเยอะแล้ว ตัวเจ้าเองก็มีเรื่องที่จะต้องทำ หากเจ้าติดตามไปมาอยู่กับข้าตลอดแบบนี้ จะเป็นการเสียเวลาอย่างมาก หากมีคนช่วยขับรถ เจ้าก็จะได้มีเวลาว่าง"

“คนอื่นพาเจ้าไป ข้าไม่วางใจ” เฉินจื่ออานยังคงแสดงท่าทีจริงจัง มีเสน่ห์อย่างมาก

ลู่ม่านหันไปกลอกตามองบน มองดูเขาอย่างแปลกใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าก็แค่พูดถึง ยังไงตอนนี้ก็ไม่รีบ มองๆ ไว้บ้าง หากเจอคนที่ถูกใจ ก็รับมา”

พูดเสร็จ ทั้งสองคนค่อยมุ่งหน้ากลับไปในหมู่บ้าน

ไม่นาน เดือนสี่ก็มาถึง ฤดูหว่านเมล็ดพันธุ์ของตำบลชางผิงก็มาถึง

ครั้งนี้ลู่ม่านหักห้ามใจตนเองไว้ ไม่เร่งรีบเหมือนที่ผ่านมา นางคอยเฝ้าสังเกตดูอากาศก่อนว่าค่อยๆ อุ่นขึ้นแล้วจริงๆ แล้วค่อยเริ่มขุดดิน

พลิกสวนดอกไม้ที่ปลุกล้มเหลวเมื่อครั้งที่ผ่านมาก่อน จากนั้นก็ปลูกเมล็ดพันธุ์พริกลงไปอย่างตั้งใจ

จากนั้นก็ไปดูเมล็ดพันธุ์ข้าว ที่ตำบลชางผิงสามารถทำนาได้สองฤดู ดังนั้น เดือนสี่ก็เริ่มหว่านข้าวแล้ว

พวกลู่ม่านไม่มีทุ่งนาที่ดี ทุ่งนาระดับกลางก็มีน้อย ลู่ม่านเอาทุ่งนาระดับกลางทั้งหมดมาทำนาข้าว

ก่อนอื่นทำการหว่านต้นกล้าข้าวก่อน จากนั้นค่อยย้ายไปปลูก

พวกลู่ม่านไม่มีแม่ต้นกล้า*

- แม่ต้นกล้า* ก็คือที่มาของต้นกล้า ซึ่งก็คือทุ่งนาที่ใช้เพาะกล้าโดยเฉพาะ-

ด้วยเหตุนี้ เมื่อตอนที่เริ่มซื้อเมล็ดพืช ตาแก่เฉินเคยมาดู พร้อมบอกว่าพวกเขาช่วยเฉินจื่ออานปลูกต้นกล้าแล้ว เมื่อถึงเวลาให้ไปเอามาใช้ก็พอ

เฉินจื่ออานปฏิเสธทันที พร้อมพูดถึงตอนที่อยู่เมืองหย่งอาน เรื่องที่จะออกจากตระกูล

เพราะหลังจากคนบ้านเฉินกลับมา จนถึงตอนนี้ก็ยังอยู่อย่างเงียบๆ เฉินจื่ออานไม่มีโอกาสที่เหมาะสมมาตลอด อีกอย่างเฉินจื่อฉายยังไม่กลับมา

เห็นได้ชัดว่าตาแก่เฉินก็รู้แล้ว พอได้ยินก็ถอดถอนหายใจ

“ที่ผ่านมาไม่ว่าแม่ของเจ้าจะพูดอะไรตอนที่อยู่เมืองหย่งอาน เจ้าก็ถือว่านางเลอะเลือน ยังไงข้าก็ไม่ตกลง เจ้าเป็นลูกบ้านเฉิน และจะเป็นไปตลอด”

เฉินจื่ออานส่ายหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “พ่อ ข้าตัดสินใจแล้ว รอหลังจากเรื่องของจื่อคังเงียบลงแล้ว เราก็ไปจัดการเถอะ”

เป็นครั้งแรกที่ตาแก่เฉินเห็นเฉินจื่ออานมุ่งมั่นขนาดนี้ รู้ว่าไม่มีทางยื้อแล้ว จึงถอดถอนหายใจอย่างโศกเศร้า

“บ้านเฉินของเรา ในที่สุดก็ต้องแยกจากกัน” พูดเสร็จ เขาหันหน้าหลังค่อม เดินไกลออกไป

เฉินจื่ออานมองดูท่าทีของเขา รู้สึกเจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูก แต่ในเมื่อตัดสินใจแล้ว เขาก็ไม่คิดที่จะเปลี่ยนใจ

จากนั้น พวกลู่ม่านกับพวกเหยาซื่อยังคงออกไปเพาะต้นกล้าด้วยกัน

นี่เป็นการทำนาครั้งแรกของลู่ม่านนับตั้งแต่ที่มาอยู่ที่นี่ ดังนั้นนางก็ไปด้วย เมื่อตอนที่เห็นพวกเขาเริ่มหวานเมล็ดพันธุ์ ลู่ม่านยกมือประสาน ขอประทานพรให้ดวงวิญญาณอย่างฉับพลัน

“นี่เรากำลังหว่านกล้า?” ลู่ม่านถามขึ้น

“ใช่” เหยาซื่อมองดูนางอย่างสงสัย พร้อมถามขึ้นว่า “เสี่ยวม่าน เจ้าลืมแล้วหรือ?”

“แบบนี้ไม่ปวดเอวหรือ?” เพียงแค่ลู่ม่านคิดถึงภาพนั้น ก็รู้สึกปวดเอวขึ้นมาทันที

ลู่ม่านมองดูหวังเอ้อร์หนิวที่กำลังตั้งใจฟัง พร้อมพูดขึ้นว่า “ขอเพียงมีพี่หวัง เพียงแค่แม่พิมพ์ ข้าคิดว่าคงไม่ใช่ปัญหาใช่ไหม?”

หวังเอ้อร์หนิวเกาหัวอย่างไม่รู้จะพูดยังไงขึ้นมาในทันใด พร้อมพูดขึ้นว่า “ได้ จะเอาแบบไหน เดี๋ยวข้าลองทำดู”

“งั้นรีบกลับไปกันเถอะ เสียเวลาวันเดียวไม่เป็นไร” ลู่ม่านยิ้มหัวเราะพร้อมพูดขึ้น

ส่วนคนที่เหลือก็ต่างเชื่อมั่นในตัวลู่ม่านอย่างมาก ล้วนกลับมาจากในทุ่งนา ทุ่งกล้าของหมู่บ้านไป่ฮัวล้วนอยู่ในตำแหน่งเดียวกัน ดังนั้นหลังจากพวกเขากลับมาไม่นานก็มองเห็นทุ่งนาของตาแก่เฉินแล้ว

ไม่มีเฉินจื่อฉายกับเฉินจื่ออาน ทั่วทั้งทุ่งมีเพียงตาแก่เฉินกับหลิวซื่อที่ทำงานอยู่ เฉินจื่อฟู่ยืนอยู่ริมทุ่ง นิ่งเฉยดูเหมือนไม่ทำงานอะไรเลย

ส่วนคนอื่นที่เหลือ เฉินจื่อคัง เฉินหลิ่วเอ๋อ เฉินหลี่ซื่อ ไม่เห็นแม้แต่เงา

ตอนนี้ยังดี รอเมื่อตอนที่ย้ายต้นกล้า ทุ่งนาตั้งมากมาย มีแค่คนสองคนนี้ทำงาน ไม่เหนื่อยตายหรือ?

มองดูหลังตาแก่เฉินที่ค้อมต่ำ เฉินจื่ออานพูดขึ้นว่า “พ่อ เสี่ยวม่านบอกว่า พวกเขามีแม่พิมพ์ในการหว่านกล้า พวกเรากำลังเตรียมที่จะไปทำ ต่อไปเมื่อถึงเวลาย้ายกล้า ก็จะสามารถออมแรงได้เยอะแล้ว”

ที่ไหนได้ ตาแก่เฉินดื้อรั้นอย่างมาก ฟังแล้วก็ส่ายหัว

“พืชพันธุ์อาหารที่ฟ้าสวรรค์ประทานให้พวกเรา พวกเราก็ตั้งใจรับไว้ให้ดีเถอะ อย่าคิดแต่เรื่องที่จะทำให้เหนื่อยน้อยลง ยังไงก็สู้การย้ายอย่างยากลำบากแบบนี้ไม่ได้”

เฉินจื่ออานเห็นแบบนี้ ก็ไม่พูดอะไรอีก

ลู่ม่านเม้นริมฝีปาก ทำไมรู้สึกเหมือนตัวเองกลายเป็นพวกอบายมุข?

ยังดีหากพวกเขายังเชื่อนาง ลู่ม่านก็พอใจแล้ว

หลังจากกลับไปแล้ว ตามที่ลู่ม่านพูดอธิบาย ไม่นานหวังเอ้อร์หนิวก็เริ่มลงมือทำ รูปแบบโดยรวมแล้วก็ทำได้ดีมาก แต่รู้วงกลมในแม่แบบกลับทำไม่ง่ายเลย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน