ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 139

โลกในอนาคต แม่พิมพ์เหล่านี้ล้วนทำจากพลาสติก ซึ่งสะดวกมาก แต่อยู่ในยุคหลายพันปีก่อน รูกลมเหล่านี้สามารถเจาะได้ทีละหนึ่งรูโดยช่างฝีมือเท่านั้น

เฉินจื่ออานคล่องแคล่วและชาญฉลาด มองดูแปบหนึ่ง แล้วก็ลงมือทำเองเลย

ลู่ม่านมองดูการกระทำที่คล่องแคล่วของเขา แล้วก็รู้สึกว่าหากเฉินจื่ออานอยู่ในยุคปัจจุบัน น่าจะเรียกได้ว่าเป็นผู้ชายล้ำค่าไหม? ยิ่งอยู่ด้วยนาน ก็จะยิ่งเห็นถึงความล้ำค่าจุดเด่นมากมายที่ซ่อนอยู่ในตัวเขา

ทั้งสองคนร่วมมือช่วยกันทำ จึงเร็วขึ้นอย่างมาก ถึงบ่ายวันที่สอง แม่พิมพ์ทั้งหมดของพวกเขาก็ทำเสร็จ

มีหลายคนเอาแม่พิมพ์อันใหม่ไปทุ่งนาแล้ว แน่นอนว่าทำจากไม้แบบนี้สู้แม่พิมพ์ในยุคปัจจุบันแบบนั้นไม่ได้ ดังนั้นเวลาถือจึงค่อนข้างหนัก

แต่เพื่อเก็บแรงไว้ใช้ตอนหว่านกล้า ลู่ม่านคิดว่ายังไงก็คุ้ม

แน่นอนว่าผ่านวันนี้ไป บ้านอื่นๆ ในหมู่บ้านต่างก็เพาะต้นกล้าเสร็จแล้ว ตอนที่พวกเขาไป ก็เป็นเวลาที่คนอื่นกลับมาพอดี

เห็นพวกนางลำบากขนาดนั้น มีคนหัวเราะเย้ย พร้อมพูดขึ้นว่า “พวกเจ้าสองบ้านทำอะไรกันหรือ? ไม่สามารถช่วยประหยัดเวลาเสียหน่อย เล่นกันหรือ?”

หวังเอ้อร์หนิวเป็นคนซื่อมาตลอด จึงพูดอธิบายขึ้น แต่ที่ไหนได้ มีคนพูดขึ้นมาอย่างไม่ไว้หน้าว่า “หากเมล็ดพันธุ์ที่เพาะรากไม่งอก จะไม่เป็นการเสียเวลาหรือ?”

ได้ยินแบบนี้ ทั้งสี่คนต่างไม่พูดไม่จา ยังไงคนอื่นก็ไม่เชื่อ ตนเองดีใจก็พอแล้ว

ทั้งสองครอบครัวทำด้วยกัน ใช้เวลาไม่ค่อยนาน รอเมื่อถึงตอนค่ำ ต้นกล้าทั้งหมดก็ลงปลูกหมดแล้ว

ปลูกต้นกล้าเสร็จแล้ว ถือว่าสบายใจไปแล้วเรื่องหนึ่ง

ตอนกลางคืน ตอนที่เฉินจื่ออานกับลู่ม่านนอนอยู่บนเตียง ในที่สุดเฉินจื่ออานก็อดไม่ได้ที่จะเป็นห่วงขึ้นมา พร้อมพูดขึ้นว่า “เรามีทุ่งนาขนาดกลางหนึ่งไร่ ตอนนี้ที่ปลูกข้าวแล้วก็จะเพียงพอสำหรับเลี้ยงเราในปีหน้า แต่ที่ดินที่ด้อยกว่าอีกหลายไร่เหล่านั้นล่ะ? ในพื้นที่ไม่กี่ไร่เหล่านั้นคงไม่สามารถปลูกอะไรได้ เสี่ยวม่าน ตอนนั้นข้าวู่วามไปแล้ว”

ลู่ม่านกลอกตามองบนมองดูเขา พร้อมพูดขึ้นว่า “ตอนนี้เจ้ารู้ตัวว่าตอนนั้นตนเองวู่วาม ก็ไม่ถือว่าเลวร้าย โชคดีที่มีข้าเอาทุ่งพวกนี้ หากเป็นอย่างที่เจ้าคิด ตอนนั้นไม่เอาอะไรเลย ตอนนี้จะต้องมืดแปดด้านแน่”

เฉินจื่ออานหัวเราะอย่างเก้อเขิน พร้อมพูดขึ้นว่า “ใช่ เสี่ยวม่านเก่งที่สุด”

“ปากดี” ลู่ม่านพูดพร้อมซบแนบอกเฉินจื่ออาน และยิ้มหัวเราะพูดขึ้นว่า “แต่เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง ทุ่งที่ด้อยพวกนั้นข้าคิดไว้แต่แรกแล้วว่าจะปลูกอะไร”

นางรอมาตั้งหลายเดือนแล้ว ในที่สุดก็รอจนถึงเวลาแล้ว

เฉินจื่ออานอึ้ง พร้อมพูดขึ้นว่า “ปลูกอะไรได้หรือ?”

“ถั่วเหลือง” ลู่ม่านพูดขึ้นว่า “ถั่วเหลืองเหมาะสำหรับปลูกบนดินแบบนั้นที่สุด และรากของถั่วเหลืองมีคุณค่าทางโภชนาการสูง หลังจากที่เราปลูกถั่วที่นั่นแล้ว ถือเป็นการรักษาดินไปด้วย”

หลักการเป็นแบบนี้ เฉินจื่ออานเห็นด้วยกับการตัดสินใจของนาง จึงพูดขึ้นว่า “ได้ งั้นก็ปลูกถั่วเหลือง ขายไม่ค่อยดี แต่ก็เป็นอาหาร”

“ขายอะไร? ไม่ปลูกเพื่อขาย ถั่วเหลืองที่ข้าปลูก เพราะต้องการทำอย่างอื่น”

“ทำอะไร?” เฉินจื่ออานตื่นเต้นอยากรู้ขึ้นมาทันที ภรรยาคนนี้ของเขามักมีความคิดต่างๆ มากมาย ทำให้เขามีวันที่ดีทุกวัน

“เก็บเป็นความลับก่อน” ลู่ม่านกะพริบตา แล้วก็มุดเข้าไปในผ้าห่ม

เฉินจื่ออานไม่ยอม กว่าถั่วเหลืองจะสามารถเก็บเกี่ยวได้อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาหลายเดือน ตอนนี้บอกว่าต้องเก็บเป็นความลับ ไม่เป็นการทำให้ร้อนใจแย่หรือ?

ในขณะที่ลู่ม่านกำลังนอนลง เฉินจื่ออานรีบคว้านางมาจั๊กจี้ ลู่ม่านเป็นคนที่จั๊กจี้กลัวที่สุด หัวเราะจนน้ำตาร่วงไหลออกมาทันที

รีบพูดร้องขอทันที แล้วก็เล่าถึงความคิดที่ตนเตรียมจะทำซีอิ๊ว

ถึงแม้เฉินจื่ออานจะคิดไม่ออก ใช้ถั่วเหลืองทำเป็นเฉินจื่ออานนั้นเป็นยังไง แต่ยังไงเขาก็เชื่อมั่นในการตัดสินใจของลู่ม่าน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน