ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 140

หนุ่มน้อยเห็นแล้ว ก็ร้องไห้ขึ้นมาทันที

คงเป็นเพราะเสียงเรียกของหนุ่มน้อย? คนแก่มีความรู้สึกขึ้นมาบ้าง ลู่ม่านยื่นของกินให้เขาอีกครั้ง แล้วเขาก็ค่อยๆ กินลงไปอีกครั้ง

เฉินจื่ออานรีบเอาน้ำให้เขาดื่ม ให้เขาได้มีแรงขึ้นมาหน่อย

ขนมที่เหลือพวกนั้น ลู่ม่านก็ไม่เอาคืน ยื่นให้กับหนุ่มน้อยเมื่อกี้คนนั้น

“พวกเจ้าตกอยู่ในสภาพแบบนี้ได้ยังไง?”

หนุ่มน้อยหัวเราะอย่างขมขื่น พร้อมพูดขึ้นว่า “เราหนีมาจากทางตอนเหนือ ที่นั่นเป็นชายแดน ที่นั่นมักถูกเจ้าหน้าที่และทหารของแคว้นเพื่อนบ้านคุกคาม ครั้งนี้ ทั้งหมู่บ้านถูกเผาหมด ข้ากับปู่หนีออกมา ที่บ้านยังมีคนอื่น ทั้งหมดล้วน.....”

หนุ่มน้อยพูดต่อไม่ไหวแล้ว แต่ลู่ม่านก็เข้าใจแล้ว

“ทำไมราชสำนักไม่ส่งทหารมาหรือ?” เฉินจื่ออานถามขึ้น

หนุ่มน้อยส่ายหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “ราชสำนักเคยส่งทหารมา แต่ที่นั่นหนาวมาก ทหารแคว้นเพื่อนบ้านล้วนผ่านการฝึกฝนมา.....”

ถือเป็นแรงกดดันในการป้องกันของประเทศ ไม่ใช่เรื่องที่ชาวบ้านควรจะถาม เฉินจื่ออานก็ไม่พูดอะไรอีก ลู่ม่านก็พูดขึ้นว่า “งั้นต่อไปพวกเจ้าจะไปไหน?”

ได้ยินแบบนี้ หนุ่มน้อยคนนั้นคุกเข่าลง พร้อมพูดขึ้นว่า

“พี่สาว ข้ากับปู่ไร้ญาติขาดมิตร ในเมื่อวันนี้พี่สาวช่วยเราไว้ เรายินยอมปรนนิบัติรับใช้พี่สาวไปตลอดชีวิต เพียงหวังให้พี่สาวเลี้ยงอาหาร พวกเราก็พอใจแล้ว”

ลู่ม่านเติบโตมาขนาดนี้ ยังไม่เคยมีใครคุกเข่าไหว้ จึงตกใจไม่น้อย

“รีบลุกขึ้นมา ลุกขึ้นมา”

“หากพี่สาวไม่รับปาก ข้าก็คุกเข่าไม่ลุกขึ้นมา”

ลู่ม่าน “......”

หนุ่มน้อยเห็นแล้วก็รีบพูดขึ้นว่า “พี่สาวเป็นห่วงเรื่องสถานะของพวกเราหรือเปล่า?” พูดเสร็จ เขาลวงเอาเอกสารออกมาจากในกระเป๋า พร้อมพูดขึ้นว่า “นี่เป็นทะเบียนบ้านของเรา ข้าชื่อเหอ...ชิง ปู่ของข้า เหอซาน”

เอกสารทะเบียนของทางด้านเฉียนถังนั้นครบถ้วน ลู่ม่านให้เขาเก็บไว้ พร้อมพูดขึ้นว่า “ได้ ในเมื่อพวกเจ้าไม่มีที่ไป งั้นก็ไปที่บ้านข้าเถอะ”

สายตาเหอชิงเป็นประกาย แล้วก็ได้ยินลู่ม่านพูดขึ้นอีกว่า “แต่ข้าไม่ต้องการคนปรนนิบัติ พวกเจ้าไปที่บ้านของข้า ข้าจะจ่ายเงินเดือนให้พวกเจ้า จ่ายตามมาตรฐานในโรงงานของข้า ที่บ้านขาดยาม กับคนงานคนหนึ่ง....”

ตอนที่พูดถึงคนงาน เหอชิงกับเหอซานต่างมองตากัน ไม่พูดไม่จา

หลังจากนั้น ลู่ม่านกับเฉินจื่ออานจึงประคองทั้งสองคนขึ้นรถ

เหอชิงคล่องแคล่วมาก จะต้องให้เขาไปขับรถ ลู่ม่านดูท่าทีเขาไม่เลว จึงตอบตกลง

มาถึงหน้าประตูบ้าน เหอชิงมองเห็นบ้านราวกับภาพวาดนั่น สายตาเป็นประกาย พร้อมพูดขึ้นว่า “พี่สาว ที่แท้บ้านของเจ้าเป็นแบบนี้หรือ?”

ลู่ม่านขำอยู่ในใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “งั้นเริ่มแรกเจ้าคิดว่าบ้านข้าเป็นอย่างไร?”

เหอชิงไม่กล้าพูด ที่จริงเริ่มแรกเขาคิดว่าลู่ม่านเป็นเพียงชาวสวนธรรมดา เดิมลู่ม่านบอกว่าจะให้เงินเดือนเขา เขายังเป็นห่วงว่าจะสร้างความเดือดร้อนให้กับพวกนาง

“ไม่มีอะไร พี่สาว บ้านของท่านสวยมาก” เหอชิงพูดชม

ลู่ม่านก็พูดขึ้นอย่างไม่ถ่อมตนว่า “เจ้าก็คิดแบบนี้ใช่ไหม”

เมื่อก่อนตอนที่สร้างบ้าน ภายในมีห้องส่วนตัวสองห้อง ภายในห้องสองห้อง ตกแต่งภายในตามมาตรฐานทั่วไป สะดวกสบายกว่าบ้านสวนทั่วไปอย่างมาก

ส่งทั้งสองคนเข้าไปแล้ว เหอชิงกับเหอซานก็คุกเข่าลง ลู่ม่านรีบประคองพวกเขาไว้ พร้อมพูดขึ้นว่า “ต่อไปก็จะอยู่ทำงานในบ้านเดียวกันแล้ว คุกเข่าให้กันไปมาแบบนี้ไม่ดี พอดีที่บ้านมีเสื้อผ้าที่อาจารย์โจวทำไว้ก่อนหน้านี้ และมีเสื้อผ้าเก่าที่จื่ออานใส่จนเล็กแล้ว ข้าไปเอามาให้เจ้าใส่ วันนี้พวกเจ้าอาบน้ำ กินให้อิ่ม แล้วพักผ่อนให้เต็มอิ่ม”

เหอชิงรีบพูดขอบคุณ ลู่ม่านเตรียมของให้พวกเขาเสร็จแล้วก็กลับมา

พริกของนางก็ลงปลูกไปหลายวันแล้ว เช้าวันนี้นางลืมไปดูแล้วว่างอกหรือยัง

ภายในสวนดอกไม้ ลู่ม่านยังไม่ได้เดินไป ก็มองเห็นกล้าไม้เขียวงอกขึ้นมาจากดินแล้ว ดวงตาที่มีความสุขของนางหรี่ลง เฉินจื่ออานกลับมาจากข้างนอกพอดี ลู่ม่านไม่สนใจว่าอยู่นอกบ้าน โผล่เข้าไปกอดคอเฉินจื่ออานไว้ พร้อมพูดขึ้นว่า

“จื่ออาน พริกของข้างอกแล้ว”

เฉินจื่ออานเคยประสบกับความล้มเหลวกับนาง ได้ยินว่าในที่สุดก็งอกแล้ว ก็ดีใจอย่างมาก

เซวียนเหนียงได้ยินเสียงเอะอะจึงออกมาดู แล้วก็เห็นสองสามีภรรยากอดกันอย่างรักใคร่ ลู่ม่านปล่อยเฉินจื่ออานแล้วหันมาทักทายว่า “แม่นาง”

เซวียนเหนียงหัวเราะ พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าแค่จะมาบอกพวกเจ้าว่า ข้าจะไปแล้ว”

ลู่ม่านอึ้ง พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าไม่รออาจารย์โจวแล้วหรือ?”

ถึงแม้เซวียนเหนียงไม่พูดมาตลอด ว่านางอยู่ที่นี่เพื่ออะไร แต่ทุกคนต่างก็รู้ว่านางรออาจารย์โจว

“ไม่รอแล้ว” เซวียนเหนียงส่ายหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “เขาไม่อยากเจอข้า ข้าอีกยังไงก็เปล่าประโยชน์”

ลู่ม่านอยากพูดปลอบ แต่สุดท้ายแล้วก็เงียบ คำพูดปลอบที่ตรงเกินไป ไม่พูดยังจะดีกว่า

“งั้นเจ้าจะไปไหน? เราไปส่งเจ้า” ลู่ม่านพูดขึ้น

“ไม่ต้อง รอสักพักจะมีคนมารับข้า” เซวียนเหนียงพูดพร้อมกับเอาป้ายหยกอันหนึ่งมายื่นให้ลู่ม่าน พร้อมพูดขึ้นว่า “ว่ากันว่าหยกช่วยในการบำรุง ข้ามีติดตัวไว้มานานมากแล้ว ตอนนี้ยกให้เจ้า ห้ามปฏิเสธ นี่เป็นน้ำใจของข้า”

ลู่ม่านรับมา พร้อมพูดขอบคุณ

ในขณะที่กำลังพูดอยู่ เหอชิงเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว กำลังเดินออกมาจากข้างในพอดี

“พี่สาว มีรถม้ามาบอกว่ามารับแม่นางเซวียนเหนียง”

“รถม้าข้ามาแล้ว” เซวียนเหนียงหัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าจะไปแล้ว”

ลู่ม่านรีบตามเฉินจื่ออานไป ส่งเซวียนเหนียงขึ้นรถม้า เซวียนเหนียงเป็นคนง่าย ๆ ไม่มีพิธีรีตอง ที่จริงลู่ม่านชื่นชมนางอย่างมาก

ที่จริงหากเริ่มแรกลู่ม่านข้ามภพมาแล้วไม่ได้เจอกับเฉินจื่ออาน คงจะเลือกที่จะมีชีวิตอยู่กับเซวียนเหนียงมั้ง? สง่างามมากจริงๆ

เฉินจื่ออานที่อยู่ด้านข้าง ราวกับมองรู้ความในใจของลู่ม่าน คว้าจับมือลู่ม่านไว้ พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่ได้”

ลู่ม่านหัวเราะ

เมื่อหันมาค่อยเห็นเหอชิงที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว เขาไม่ได้ใส่เสื้อผ้าที่เฉินจื่ออานเคยใส่ แต่สวมชุดที่เขาน่าจะเอามาเอง เป็นเสื้อผ้าผู้ชายที่ค่อนข้างหยาบ

ตัวใหญ่ไปหน่อย ทำให้เขาแลดูตัวเล็กลง

โดยเฉพาะใบหน้า เมื่อกี้ที่เปรอะเปื้อนจนเห็นแต่ดวงตาเป็นประกาย ตอนนี้ เมื่อล้างสะอาดแล้วค่อยพบว่า รูปร่างหน้าตาของเขาค่อนข้างงดงาม

มองเห็นลู่ม่านมองพิจารณา เขารีบก้มหน้าก้มตาลง

ลู่ม่านเห็นแล้ว ก็รีบมองไปที่ลูกกระเดือกของเขา

จากนั้น นางขมวดคิ้ว พร้อมพูดขึ้นว่า “เหอชิง เจ้าชื่อเหอชิงจริงๆ หรือ?”

เหอชิงอึ้ง พร้อมกัดริมฝีปาก เฉินจื่ออานก็มองดูลู่ม่านอย่างสงสัย พร้อมพูดขึ้นว่า “เสี่ยวม่าน ทำไมหรือ?”

ท่าทีของลู่ม่านแลดูเคร่งขรึมอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน นางมองดูชายหนุ่มตรงหน้าด้วยสายตาเย็นชา ไม่ ตอนนี้ต้องพูดว่าหญิงสาวถึงจะถูก

“ข้าให้โอกาสเจ้าอีกครั้ง หากเจ้ายังไม่ยอมพูดออกมา งั้นเจ้าก็ไปจากบ้านนี้พร้อมปู่ของเจ้า” ลู่ม่านพูดขึ้นอย่างจริงจัง

เหอชิงรีบคุกเข่าลงอีกครั้ง พร้อมพูดขึ้นว่า “พี่สาว ข้าไม่ใช่ผู้ชายจริงๆ ข้าเป็นผู้หญิง”

เฉินจื่ออานไม่คาดคิด เพิ่งเข้าใจว่าทำไมลู่ม่านถึงโกรธ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน