ลู่ม่านเห็นแบบนี้ ก็ลุกขึ้นมา
“ทุกคนรู้มาจากไหนว่าจื่ออานไม่เอาพ่อแม่”
คนที่พูดตำหนิคนนั้นเห็นแบบนี้ ก็พูดขึ้นทันทีว่า “เพราะจื่ออานทำแบบนี้แน่ ถึงมีข่าวออกมาแบบนี้ คงไม่ร่ำลือกันไปเรื่อยมั้ง?”
ลู่ม่านมองดูคนนั้นด้วยสายตาเย็นชา คนคนนั้นลู่ม่านยังพอจำได้ เป็นคนเสเพลที่มีชื่อเสียงในหมู่บ้าน และก็เป็นน้องชายของสามีเฉินเหมยเซียงที่หายสาบสูญคนนั้น
ครั้งก่อนตอนที่ในหมู่บ้านรับซื้อส้ม เขาก็ขัดคออยู่ตรงนั้น ครั้งนี้ก็เป็นเขาอีก
สายตาลู่ม่านเยือกเย็นลง พร้อมพูดขึ้นว่า “งั้นเรื่องที่เจ้าทอดทิ้งพ่อแม่ คนในหมู่บ้านต่างก็รู้ หรือว่า นี่ก็เป็นความจริง?”
“เจ้าพูดไปเรื่อย” คนคนนั้นสีหน้ามืดดำทันที ยังไงคนในหมู่บ้านต่างก็ไม่ชอบเขาอยู่แล้ว จึงล้วนหัวเราะออกมา
เมื่อทุกคนหัวเราะ คนคนนั้นยิ่งไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
เขาชี้หน้าลู่ม่าน พร้อมกัดฟันพูดขึ้นว่า “นังบ้า เชื่อไหมว่าข้าจะตบเจ้า”
ยังพูดไม่จบ ก็ถูกเฉินจื่ออานคว้าจับข้อมือไว้ ได้ยินเพียงเสียงกระดูกหัก พร้อมเสียงกรีดร้องของเขา
“ระวังปากหน่อย เจ้าเป็นคนยังไง คนในหมู่บ้านต่างก็รู้ดี”
คนคนนั้นไม่อยากยอมรับ แต่เฉินจื่ออานออกแรงไม่เบา เขาเจ็บปวดจนทนไม่ไหว จนต้องร้องขอว่า “จื่ออาน ข้าพูดผิดไปแล้ว เจ้ารีบปล่อยมือ”
เฉินจื่ออานโยนมือของเขาออกไป คนคนนั้นก็ไม่สนใจที่จะอยู่ดูต่อไปแล้ว วิ่งหนีออกไปทันที
สถานการณ์สงบลง เฉินจื่ออานค่อยพูดขึ้นว่า “ข้าเฉินจื่ออานเติบโตอยู่ในหมู่บ้าน ข้าเป็นคนยังไงกันแน่ ข้าคิดว่าในใจทุกคนในหมู่บ้านต่างรู้ดี คำพูดเมื่อกี้พวกนั้น ข้าจะถือว่าไม่ได้ยิน ส่วนเรื่องที่ข้าจะออกจากตระกูล เป็นเรื่องส่วนตัวของบ้านเฉิน ข้าเห็นว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องอธิบายให้ใครฟัง”
“ใช่ จื่ออานพูดถูก” หวังเอ้อร์หนิวยืนออกมาพูดเป็นคนแรกว่า “ทุกคนลืมไปแล้วหรือว่า จื่ออานนำความเจริญมาสู่หมู่บ้าน? เมื่อก่อน เราทำงานในตำบล เดือนหนึ่งมีรายได้มากสุดก็แค่สองร้อยตำลึง แต่ตอนนี้ จื่ออานให้อย่างน้อยก็สามร้อยเหวิน ไม่เพียงเท่านี้ จื่ออานยังเอากระดิ่งไม้ไผ่พวกนั้นแบ่งให้คนในหมู่บ้านทำ ไม่ใช่เพื่อให้ทุกคนมีกินมีใช้ขึ้นมาหรือ? พวกเจ้าเคยคิดไหม หากจื่ออานไปแล้ว หมู่บ้านของเราจะกลายเป็นยังไง?”
หวังเอ้อร์หนิวพูดให้ทุกคนมีสติขึ้นมา เริ่มแรกพวกเขาต่างตั้งใจมาดูเพื่อความสนุก คราวนี้ จู่ๆ ก็ได้สติขึ้นมา เฉินจื่ออานจะออกจากตระกูล งั้นก็จะไม่ใช่คนหมู่บ้านไป่ฮัวแล้ว ด้วยความสามารถของเขา สามารถไปอยู่ที่อื่นได้ และก็จะต้องมีคนมากมายที่อยากได้เขาไป งั้นถ้าเขาไปแล้ว คนในหมู่บ้านจะทำยังไง?
ครอบครัวคนที่มีคนทำงานในโรงงานเฉินจื่ออาน ต่างหันมามองเฉินจื่ออานอย่างร้อนใจ
เฉินจื่ออานไม่มีอารมณ์อธิบายเรื่องพวกนี้ให้พวกเขาฟัง เพราะพวกผู้อาวุโสกับผู้ใหญ่บ้านมากันแล้ว โดยเฉพาะผู้ใหญ่บ้าน สีหน้าย่ำแย่มาก
เข้าประตูมาก็หันไปถามเฉินจื่ออานว่า “เฉินจื่ออาน เกิดอะไรขึ้นกันแน่หรือ? ต้องถึงกับออกจากตระกูลเลยหรือ?”
เฉินจื่ออานเม้นริมฝีปาก พร้อมพูดขึ้นว่า “ท่านลุงผู้ใหญ่บ้าน เข้าไปคุยกันข้างในดีกว่า”
ผู้ใหญ่บ้านพยักหัว แล้วก็หันมองไปที่ฝูงชนที่อยู่ข้างหลังเขาที่กำลังเฝ้าดูด้วยความตื่นเต้น โบกมืออย่างจนใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “กลับไปกันเถอะ งานในทุ่งกำลังยุ่งไม่ใช่หรือ? ที่บ้านว่างงานหรือ?”
คำพูดของผู้ใหญ่บ้าน ยังคงมีอำนาจในหมู่บ้าน คนส่วนใหญ่ต่างก็เตรียมจะกลับไปแล้ว มีคนแก่คนหนึ่งคว้าจับข้อมือผู้ใหญ่บ้านไว้ พร้อมพูดขึ้นว่า “จื่ออานจากไปไม่ได้นะ”
ผู้ใหญ่บ้านพยักหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้ารู้ เรื่องนี้ข้าจะจัดการเอง”
พูดเสร็จเขาค่อยเชิญพวกผู้อาวุโสเดินเข้าไปในบ้านเฉิน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
เป็นพอ.ที่กลับกรอก เป็นที่พึ่งไม่ได้เลย ยอกจะออกจากครอบครัวเลวๆนี่ไม่จริงอีก ภาระของนางเอก ถ่วงแข้งถ่วงขาจริงๆ...
เด็กไม่ตายเพราะแม่คลอดยากจะตายเพราะคนรับใช้ป้อนโจ๊กข้าวจนอิ่มตื้อ รอดได้คือดวงแข็งเว่อ...
อ่านไป งงไป ตัดสินประหาร หรืออภัยโทษ?...
หม่อมข้า? ใช้ MS Word ไม่ระวังเลย...
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอน 337 แล้ว โดยภาพรวมพระเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เฉียบแหลมเลย...
อะไรจะมีปมขนาดนั้น วุ่นวายตอกย้ำเหลือเกินเกี่ยวกับระบบศักดินา ทั้งที่มันเป็นคนละยุคสมัยกัน...
ตอน285-287 หายทำไงดี...
ตอนหายค่ะ 284แล้วกระโดดไป288เลยค่ะ...
บท 285-287 หายค่ะ 284แล้ว288เลย รบกวนด้วยค่ะ...
281-311 รบกวนด้วยค่ะ...