ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 146

“ลุงสี่” ตาแก่เฉินลองทำเป็นพูดดี

“เจ้าจะเลิกหรือไม่เลิก?” ลุงสี่เผด็จการอย่างมาก พร้อมพูดขึ้นว่า “ผู้หญิงดีเป็นศักดิ์ศรีไปชั่วสามอายุคน หลี่ซื่อคนนี้ ไม่นานก็จะทำบ้านเฉินเราพังทลายลงแล้ว”

ลุงสี่พูดอยู่อย่างโศกเศร้า ลู่ม่านมองอย่างเย็นชาอยู่ด้านข้าง รู้สึกว่าลุงสี่คนนี้ ยังไงขิงก็เผ็ดกว่าพริก

เขาไม่พูดเรื่องไม่ให้เฉินจื่ออานออกจากตระกูล และก็ไม่พูดหว่านล้อม แต่วิธีการนี้ของเขา ขอเพียงเฉินหลี่ซื่อร้องขอเฉินจื่ออาน งั้นเฉินจื่ออานก็ไม่สามารถมองดูแม่ของตนที่อายุห้าหกสิบถูกบอกเลิกกลับบ้านอยู่แล้ว

“คือ.....” ตาแก่เฉินลำบากใจ ทางนี้ก็เป็นภรรยาที่อยู่ด้วยกันมานานหลายปี ทางนั้นก็เป็นผู้อาวุโสที่เคารพนับถือ

“จื่ออาน เรื่องนี้เจ้าเห็นว่าอย่างไร?” ผู้ใหญ่บ้านพูดทำลายความสงบ เฉินจื่ออานมองดูแม่ที่ร้องห่มร้องไห้อย่างขาดใจ ในใจก็ยังคงตัดใจไม่ลง

“ท่านปู่สี่ แม่อายุมากแล้ว ไม่ควรที่จะถูกเลิกมั้ง?”

“จื่ออาน” ลุงสี่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักใจว่า “เรื่องที่เกิดขึ้นในเมืองหย่งอาน ข้าก็พอได้ยินมาบ้าง แม่ของเจ้าอยู่ในหมู่บ้าน แล้วปฏิบัติตัวไม่ดีก็ไม่ใช่ครั้งสองครั้งแล้ว ก่อนหน้านี้พวกเจ้าทั้งบ้านร่วมมือร่วมใจกัน กระทำเรื่องที่ดีมากมายขนาดนั้น ดังนั้นตระกูลจึงไม่ลงมือทำอะไร แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน จื่อคังสอบไม่ติด เจ้าก็จะออกจากตระกูล แม้แต่จื่อฉาย ข้าเห็นเขาหลายวันนี้ก็โศกเศร้า เรื่องพวกนี้ ยังไงก็หนีไม่พ้นฝีมือแม่ของเจ้า......”

“ไม่เกี่ยวกับแม่ข้า” เสียงของเฉินจื่อคังดังมาจากด้านนอก เขารีบก้าวเท้าเดินเข้ามา ด้านหลังมีเฉินจื่อฉายตามมาด้วย

“จื่อคัง” ไม่ง่ายกว่าเฉินหลี่ซื่อจะสงบสติอารมณ์ได้ แล้วก็พูดขึ้นอย่างเสียใจว่า “ลูกชายของข้า ในที่สุดเจ้าก็กลับมา หากไม่กลับมา ข้าก็จะถูกเลิกไปแล้ว”

“แม่ ไม่เป็นไร” เฉินจื่อคังพูดขึ้นอย่างอ่อนโยน แล้วก็หันไปโค้งคำนับให้กับผู้อาวุโสกลับผู้ใหญ่บ้าน เหมือนอย่างที่ผ่านมา พร้อมพูดขึ้นว่า “บุญคุณของแม่ที่เลี้ยงดูมา ในฐานะที่เป็นลูกจะไม่มีวันลืมจนชั่วชีวิต ท่านปู่ท่านลุง ก็จะต้องเข้าใจแน่ ไม่ว่าจะตอนไหนเวลาไหน ก็ไม่ควรทำให้แม่เสียใจ”

ตอนนี้ลู่ม่านรู้แล้ว ทำไมเฉินหลี่ซื่อถึงได้ชอบเฉินจื่อคังขนาดนั้น ทั้งๆ ที่ปกติเฉินจื่อคังดูแลเฉินหลี่ซื่อยังไม่มากเท่าเฉินจื่ออานด้วยซ้ำ และก็ยังเป็นคนที่ใช้จ่ายเงินมากที่สุดด้วย

แต่เขาพูดจาเก่งไง คำพูดประโยคนี้ อวยเฉินหลี่ซื่อแทบจะกลายเป็นแม่พระแล้ว

เฉินหลี่ซื่อกอดเฉินจื่อคังแล้วร้องไห้ ฉินจื่อคังหันไปมองเฉินจื่อฉาย พร้อมพูดขึ้นว่า “พี่ใหญ่ เจ้าพูดบ้างสิ ช่วงเวลาที่กลับมานี้ เป็นเพราะแม่ เจ้าถึงได้เปลี่ยนใจใช่ไหม?”

เฉินจื่อฉายมองดูเฉินหลี่ซื่อ คิดถึงภาพที่จ้าวซื่อพาเถาฮัวไปกับผู้ชายคนอื่น สายตาจึงเยือกเย็นลง

เขาสามารถยอมรับการเลิกราจากเมียได้ และก็ยอมรับการตายของภรรยาได้ แต่ในฐานะที่เป็นผู้ชายคนหนึ่ง ไม่สามารถยอมรับได้ว่าภรรยาของตนหนีตามผู้ชายไป และเรื่องนี้ก็ยังเป็นเพราะแม่ของตนเอง

แต่เขาเป็นคนที่มีความกตัญญูที่สุดมาตลอด และก็รู้ว่า หากครั้งนี้เขาพูดออกมา เฉินหลี่ซื่อจะถูกบอกเลิกแน่ ดังนั้นเขาจึงพยักหัว พร้อมพูดว่าอืม

“ใช่ ไม่เกี่ยวอะไรกับแม่”

เฉินหลี่ซื่อยิ่งร้องห่มร้องไห้ใหญ่เลย ราวกับตนเองเป็นฝ่ายถูกกระทำ ถูกใส่ร้าย

พวกผู้อาวุโสกับผู้ใหญ่บ้านต่างขมวดคิ้ว แทบอยากที่จะเอาสำลีอุดหูตนเอง ในขณะเดียวกัน พวกเขาต่างก็มองดูตาแก่เฉินอย่างนับถือ

ในเรื่องนี้ พวกเขาล้วนเห็นว่าตาแก่เฉินแข็งแกร่งมาก สามารถทนรับผู้หญิงแบบนี้มาได้ตั้งสามสิบปี

เฉินจื่อคังพอใจกับการแสดงออกของเฉินจื่อฉายมาก แล้วเขาก็หันไปมองเฉินจื่ออาน

“พี่สาม ทำไมเจ้าไม่พูดอะไรบ้าง? คนข้างนอกต่างพูดว่าเจ้าจะไปจากพวกเรา แต่ข้าไม่เชื่อ พี่สาม เจ้าเป็นคนมีความกตัญญูมาตลอด ทำไมถึงได้กลายเป็นเช่นนี้?”

เพ้ย ทำมาเป็นยัดเยียดความผูกพัน หน้าไม่อายอย่างมากรู้ไหม?

เฉินจื่อฟู่ฉลาดมาก เมื่อเฉินจื่อคังพูดออกมาแบบนี้ เขาก็เข้าใจทันที รีบพูดขึ้นทันทีว่า “ใช่ จื่ออาน เมื่อกี้ตอนที่เจ้ายังไม่มา แม่ยังพูดว่า จะเข้าครัวด้วยตนเองแล้วทำกับข้าวที่เจ้าชอบที่สุด”

เฉินหลี่ซื่อรู้ว่าตอนนี้เฉินจื่ออานสำคัญที่สุด ก็เดินโซเซมาหาตรงหน้าเฉินจื่ออาน พร้อมพูดขึ้นว่า “จื่ออาน แต่ยังจำได้ว่า ตอนที่เจ้ายังเป็นเด็กเจ้าชอบทานหูปิ่งที่แม่ทำให้ที่สุด ทุกครั้ง เจ้าจะสามารถทานได้สามอัน มีครั้งหนึ่งเจ้าไม่สบาย เดินไม่ได้ พ่อของเจ้าแม่อยู่บ้าน ล้วนเป็นแม่ที่แบกเจ้าทุกวัน.....”

ที่เฉินหลี่ซื่อพูด เฉินจื่ออานล้วนจำไม่ได้เลย เขาก็ไม่รู้ว่า เรื่องแบบนี้เคยเกิดขึ้นหรือเปล่า แต่ว่าในใจของเขา ยอมที่จะคิดว่านั่นคือความจริง

อย่างน้อยแบบนี้ เขาก็สามารถรู้สึกว่าตนเองไม่ได้น่าสงสารขนาดนั้น เขาก็ยังเคยได้รับความรักจากแม่

เดิมเป็นสถานการณ์ที่จะเลิกกับภรรยา จู่ๆ สถานการณ์ก็เปลี่ยนไป กลายเป็นเรื่องเศร้าขึ้นมา ลู่ม่านรู้ว่า ครั้งนี้พวกเขาแพ้ให้กับคนแก่เจ้าเล่ห์พวกนี้แล้ว คนแก่เจ้าเล่ห์มาถึงก็จะให้หย่ากับแม่เฉินจื่ออาน ในฐานะที่เป็นลูก ยังเป็นคนในยุคสมัยโบราณ ต่อให้ผิดหวังแม่ตัวเองแค่ไหน ก็ทนเห็นแม่ถูกเลิกร้างไม่ได้

แต่ต่อให้แพ้ ก็ต้องทำให้พวกคนแก่เจ้าเล่ห์พวกนี้รู้สึกตื่นเต้น

แต่ว่าควรที่จะทำอย่างไรดีล่ะ? ในขณะที่ลู่ม่านกำลังคิดอยู่ จู่ๆ ด้านนอกก็มีเสียงคนพูดขึ้น ลู่ม่านมองออกไปทางด้านหน้าต่าง แล้วก็เห็นชายคนหนึ่งที่แต่งตัวเหมือนผู้ใหญ่บ้านยืนอยู่ตรงด้านนอกประตู

สายตาลู่ม่านเป็นประกาย หันไปส่งสัญญาณมือให้กับเหยาซื่อ

ทันใดนั้น เหยาซื่อถามขึ้นด้วยเสียงดังว่า “ท่านมาหาใคร?”

“ข้าอยากถามว่า บ้านเฉินจื่ออานอยู่ที่นี่หรือเปล่า?” คนคนนั้นพูดขึ้น เฮ้ย มาหาเฉินจื่ออานจริงๆ ด้วย เห็นทีเมื่อกี้ที่เฉินจื่อฟู่ไปปล่อยข่าว ถือเป็นการช่วยพวกเขา

“เจ้าตามหาเขาเพื่อ?” เหยาซื่อถามขึ้น

“อ้อ ไม่มีอะไร ก็แค่มีเรื่องอยากคุยด้วย” คนคนนั้นพูดขึ้นอย่างลับๆ ล่อๆ

เหยาซื่อก็ฉลาดมาก ได้ยินแล้วก็รีบเดินมาหา เคาะประตูแล้วก็พูดขึ้นว่า “จื่ออาน ด้านนอกมีคนมาหาเจ้า บอกว่ามีธุระสำคัญ”

พอดีที่เฉินจื่ออานถูกพวกเขาบีบบังคับจนปวดหัว จึงถือโอกาสออกมา สูดอากาศหายใจเสียหน่อย

เพิ่งมาถึงหน้าประตู ชายคนนั้นก็ขวางอยู่ตรงหน้าเฉินจื่ออาน พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าเฉินจื่ออานของหมู่บ้านไป่ฮัวใช่ไหม? ข้าได้ยินมาว่า เจ้าจะออกจากตระกูล? ข้าตั้งใจผ่านมาทางนี้พอดี ข้าคือผู้ใหญ่บ้านของหมู่บ้านหลิ่วซู่ หากเจ้าออกจากตระกูลแล้วจริงๆ หมู่บ้านหลิ่วซู่ของเรายินดีต้อนรับ”

นี่เป็นการมาชักชวนคนนี่ ลู่ม่านอดไม่ได้ที่จะมองดูชายคนนั้นแวบหนึ่ง ต้องยอมรับว่า เขามีสายตาที่ดีจริงๆ หากไม่ใช่เพราะลู่ม่านมีบ้านอยู่ที่นี่ ก็อยากที่จากไปแล้วจริงๆ

คำพูดของผู้ใหญ่บ้าน ทำให้คนที่อยู่ข้างในต่างนิ่งเฉยไม่ได้แล้ว ผู้ใหญ่บ้านเฉินรีบตามออกมา พร้อมพูดขึ้นว่า “ผู้ใหญ่บ้านเฉียน? นี่หมายความว่าอย่างไร? มาชักชวนคนถึงในหมู่บ้านเราเลยหรือ?”

ชายคนนั้นคงคิดไม่ถึงว่าพวกผู้ใหญ่บ้านเฉินล้วนอยู่ข้างใน รู้สึกเก้อเขินขึ้นมาทันที แต่ไม่นานเขาก็กลับกลายเป็นปกติ

“ปีนี้หมู่บ้านไป่ฮัวถึงแม้จะพัฒนาขึ้นแล้ว แต่ยังไงก็สู้เศรษฐกิจของหมู่บ้านหลิ่วซู่เราไม่ได้ หากพี่น้องบ้านเฉินไปยังหมู่บ้านของพวกเรา แหล่งทรัพยากรทุกอย่างล้วนจะดียิ่งกว่า และหมู่บ้านของเรา ก็จะไม่ให้คนอื่นออกจากตระกูลอย่างไม่มีเหตุผล”

ผู้ใหญ่บ้านเฉินพูดขึ้นอย่างโกรธจัดว่า “เจ้าฟังใครพูดว่าพวกเราให้คนอื่นออกจากตระกูลยังไม่มีเหตุผล?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน