ถึงแม้เฉินหลิ่วเอ๋อจะมั่นใจมากว่าหลี่ยวี่จะมาขอนางแต่งงาน แต่ยังไงตอนนั้นหลี่ยวี่ก็เป็นคนที่ลักพาตัวเฉินหลิ่วเอ๋อไป ดังนั้นพวกเขาไม่อยากให้เฉินจื่ออานกับลู่ม่านรู้เรื่องนี้
อ้ำอึ้งอยู่สักพักใหญ่ ตาแก่เฉินก็พูดว่า “เรื่องนี้ยังตกลงกันไม่เสร็จ เลยยังไม่ได้บอกน่ะ”
“นั่นสิ วันนี้แม่เรียกพวกเจ้ามาเพื่อพูดเรื่องโรงงานกัน” เฉินหลี่ซื่อกลับเข้ามาที่ประเด็นโรงงานอีกครั้ง “ข้าว่าโรงงานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของพวกเจ้า ตอนนี้ดีขึ้นเรื่อยๆ ทำไมไม่ให้ครอบครัวตัวเองร่วมหุ้นด้วยล่ะ?”
ในที่สุดก็พูดเป้าหมายของพวกเขาออกมาสักที ลู่ม่านจ้องมองเฉินหลี่ซื่อเงียบๆ เฉินจื่ออานก็ขมวดคิ้วเป็นปมแน่น
เฉินหลี่ซื่อพูดต่อว่า “ตอนนี้จื่อคังอยู่บ้านก็ไม่มีอะไรทำ พี่ใหญ่ของเจ้าก็ช่วยเจ้าส่งของ พี่รองเจ้าก็ไม่มีอะไรทำ เอาแต่ว่างงานอยู่บ้าน พวกเจ้าเป็นพี่น้องกัน ทำไมไม่ทำด้วยกันล่ะ?”
เฉินหลี่ซื่อพูดแนะนำอย่างจริงใจ ถ้าคนที่ไม่รู้มาได้ยินเข้า คงคิดว่านางเป็นแม่ที่วางแผนอนาคตให้ลูกตัวเอง
“พวกเราเขียนสัญญากับตระกูลจวงแล้ว ถ้าพวกเราทำแบบนี้ จะต้องจ่ายค่าชดเชยด้วย!” เฉินจื่ออานพูด
“เท่าไหร่?” เฉินหลี่ซื่อถาม
ลู่ม่านที่อยู่ข้างๆก็รีบพูดว่า “ทองหนึ่งพันตำลึง!”
ที่จริงนางก็พูดไปงั้นแหละ ถ้าต้องชดเชยจริงๆ ไม่ต้องใช้เงินเยอะขนาดนี้หรอก ตอนที่เขียนสัญญา ไม่คิดว่าโรงงานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจะทำได้ดีขนาดนี้
เฉินจื่ออานก็ไม่รู้ ตอนที่ลงชื่อในสัญญา เขายังอ่านหนังสือไม่ออก ต่อมา ถึงแม้จะอ่านออกแล้ว แต่ตอนนั้นก็ลงชื่ออะไรเสร็จหมดแล้ว เขาก็ไม่เคยเอามาอ่านอีก
ตอนนี้พอได้ยินลู่ม่านพูดแบบนี้ หัวใจของเขาก็สั่นเทาขึ้นมา แต่การทำธุรกิจร่วมกันก็ต้องเป็นแบบนี้ จะต้องมีความซื่อตรง ในเมื่อตกลงกันไว้แล้ว จะทำลายสัญญาก่อนไม่ได้
และเขายังไม่เคยคิดที่จะทำลายสัญญาเลย ร่วมหุ้นเปิดโรงงานกับพี่น้องตัวเอง เขาไม่ค่อยอยากทำแบบนั้นเท่าไหร่
เฉินหลี่ซื่อก็ตกใจจนหัวใจเต้นตึกตักอย่างรวดเร็ว “ตระกูลจวงเป็นตระกูลเศรษฐีไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงใจดำขนาดนี้”
สีหน้าของคนอื่นๆก็แย่ลงตามๆกัน ตาแก่เฉินก็จุดหม้อยาสูบในมือตัวเอง แล้วสูบยาแห้งเข้าไปหลายฟอด
บรรยากาศตึงเครียดมากขึ้น เฉินจื่อฟู่สูดหายใจเข้า “จื่ออาน พวกเจ้าถูกคนหลอกแล้วล่ะ? ชดเชยเงินเยอะขนาดนี้ จะจ่ายหมดเมื่อไหร่ล่ะ?”
เฉินจื่ออานเงียบไม่พูด ลู่ม่านพูดด้วยรอยยิ้มว่า “พี่รองพูดผิดแล้ว พวกเราไม่ได้คิดที่จะยกเลิกสัญญากับคนอื่นเลย คนอื่นจะให้เราชดเชยเงินได้ยังไง?”
“แล้วจะทำยังไงดี?” เฉินจื่อฟู่มองไปยังเฉินจื่อคัง
ลู่ม่านดูออกตั้งนานแล้วว่า แผนการครั้งนี้จะต้องเป็นแผนของเฉินจื่อคังแน่ ถึงแม้เขาจะไม่พูด แต่คนที่ฉลาดที่สุดในบ้านหลังนี้ ก็คงเป็นเขาคนที่เจ้าเล่ห์ที่สุดเท่าที่เคยเจอมา
เฉินจื่อฉายที่เงียบตลอดก็รีบพูดว่า “จื่ออาน ข้าไม่เป็นไรนะ ตอนนี้ข้าส่งของให้เจ้าก็ดีมากแล้ว เจ้าร่วมงานกับตระกูลจวงต่อไปเถอะ!”
คำพูดของเฉินจื่อฉาย ทำเอาเฉินจื่อคังขมวดคิ้วแน่นเป็นปม ไม่นานเขาก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกไป
เฉินจื่อคังออกไป การประชุมนี้ก็ดำเนินต่อไปไม่ได้ ตาแก่เฉินจึงพูดว่า “ไปตามพี่สะใภ้รองเจ้ามาทำอาหาร มื้อเที่ยงนี้พวกเจ้าก็อยู่กินกันที่นี่เถอะ!”
เฉินจื่ออานอยากจะบอกว่าไม่ต้องแล้ว ลู่ม่านกลับชิงพูดตัดหน้าว่า “ดีเลย ไม่ได้กินข้าวที่นี่นานแล้ว” ที่จริง นางอยากจะดูว่า พวกเขาจะทำยังไงกันแน่?
เมื่อกี้เฉินจื่อคังออกไปกะทันหัน หลังจากนั้น เฉินหลิ่วเอ๋อกันเฉินหลี่ซื่อ เฉินจื่อคังพวกเขาก็หาข้ออ้างออกไปกันหมด เห็นได้ชัดว่า พวกเขาออกไปคุยเรื่องแผนการต่อไปกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
เป็นพอ.ที่กลับกรอก เป็นที่พึ่งไม่ได้เลย ยอกจะออกจากครอบครัวเลวๆนี่ไม่จริงอีก ภาระของนางเอก ถ่วงแข้งถ่วงขาจริงๆ...
เด็กไม่ตายเพราะแม่คลอดยากจะตายเพราะคนรับใช้ป้อนโจ๊กข้าวจนอิ่มตื้อ รอดได้คือดวงแข็งเว่อ...
อ่านไป งงไป ตัดสินประหาร หรืออภัยโทษ?...
หม่อมข้า? ใช้ MS Word ไม่ระวังเลย...
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอน 337 แล้ว โดยภาพรวมพระเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เฉียบแหลมเลย...
อะไรจะมีปมขนาดนั้น วุ่นวายตอกย้ำเหลือเกินเกี่ยวกับระบบศักดินา ทั้งที่มันเป็นคนละยุคสมัยกัน...
ตอน285-287 หายทำไงดี...
ตอนหายค่ะ 284แล้วกระโดดไป288เลยค่ะ...
บท 285-287 หายค่ะ 284แล้ว288เลย รบกวนด้วยค่ะ...
281-311 รบกวนด้วยค่ะ...