ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 16

สรุปบท บทที่16 บีบคั้นจนตาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน

ตอน บทที่16 บีบคั้นจนตาย จาก ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่16 บีบคั้นจนตาย คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายประวัติศาสตร์ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน ที่เขียนโดย ฝูเชิง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

เพราะต้องทำธุรกิจ ปกติลู่ม่านก็จะคอยสังเกตเงินตราในสมัยดีเป็นระยะ

ยุคนี้เรียกว่ายุคก่อนราชวงศ์ถัง ที่จริงมีหลายจุดที่คล้ายกับราชวงศ์ถังอยู่บ้าง เมื่อก่อน ตอนที่นางอยู่ในโลกปัจจุบัน ปกติชอบดูและศึกษาพวกสารคดี สนใจในเรื่องราชวงศ์ถังที่ยิ่งใหญ่

ดังนั้น ก็พอจะเข้าใจแล้วบ้าง

ยุคก่อนราชวงศ์ถังก็เหมือนกับยุคสมัยราชวงศ์ถังไม่ใช้เหรียญที่ทำมาจากเงิน ก็เหมือนกับคนในยุคปัจจุบันที่ใช้เหรียญที่ทำมาจากทองแดง และเหรียญทองแดงยังมีราคาสูงกว่าด้วย

โดยปกติเงินหนึ่งเหวิน สามารถซื้อข้าวสารหนึ่งชั่งได้ และแรงงานที่ไปทำงานในตำบล เดือนหนึ่งก็ได้แค่สองร้อยเหวิน

ตอนนี้ เขากลับบอกว่าจะเอาเงินสิบพวงไปพบปะเข้าสังคม ถึงว่าเฉินหลี่ซื่อถึงได้กรีดร้องออกมาเสียงดังขนาดนั้น

แต่ว่า พบปะอะไรถึงต้องใช้เงินมากมายขนาดนั้น? ลู่ม่านรู้สึกสงสัยขึ้นมาในใจ หรือว่าเขาอยากเข้าประตูหลัง?

นอกจากเรื่องนี้แล้ว นางก็คิดไม่ออกแล้วว่าการพบปะอะไรถึงต้องใช้เงินเยอะขนาดนี้ โดยทั่วไปแล้ว ไปกินอาหารในร้านหรู หนึ่งร้อยเหวินก็พอแล้วนะ

แต่ว่า นี่ก็เป็นเรื่องของเฉินหลี่ซื่อ เงินของเฉินจื่ออานจ่ายไปแล้ว

ดังนั้น หลังจากที่นางล้างจานเสร็จแล้ว ก็กลับไปตากดอกเก๊กฮวยของนางต่อ

ไม่นาน ก็เห็นเฉินจื่ออานเดินออกมาจากห้องหลักด้วยสีหน้ามืดมน ลู่ม่านเห็นแล้วก็วางของในมือลงแล้วเดินไปหาเขา ยื่นมือไปลูบระหว่างคิ้วของเขา

“ทำไมเหรอ?”

เฉินจื่ออานถอนหายใจ “ตรุษจีนเสร็จก็เป็นการสอบช่วงฤดูใบไม้ผลิแล้ว วันนี้จื่อคังจะเข้าสอบ บอกว่า อาจารย์บอกมาว่า ให้พวกเขาไปเข้าสังคมพบปะกับผู้คนหน่อย……”

“ดังนั้น เขาเลยขอเงินสิบพวง?” ลู่ม่านถามเฉินจื่ออานต่อ “ที่บ้านมีเงินสิบพวงเหรอ?”

ถ้ามีล่ะก็ เฉินจื่ออานคงไม่เศร้าสลดขนาดนี้

“เจ้าใหญ่ ยังไม่รีบพาเมียเจ้ากลับห้องอีก?”

ว่าแล้ว เขาก็ยิ้มแล้วพูดกับเพื่อนบ้านว่า “สองสามีภรรยาทะเลาะกัน ไม่มีอะไรน่าดูหรอก”

จ้าวซื่อกลับไม่ยอมปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆ เงินเก้าพวงให้สามพี่น้องช่วยกันจ่าย ก็ต้องช่วยกันคนละสามพวง นางต้องทำงานหนักเป็นเวลาหนึ่งเดือนเพื่อปักผ้าเช็ดหน้า ก็ได้แค่สามสิบเหวิน

เงินสามพวงเท่ากับสามพันเหวิน ต้องสะสมอีกกี่ปีกัน? ยัยแก่นั่นต้องรู้ว่านางพอจะมีเงินเก็บอยู่บ้าง อยากใช้โอกาสนี้ให้พวกเขาควักออกมาให้หมด

ครุ่นคิดได้ดังนี้แล้ว นางก็พูดเสียงดังกว่าเดิม

“ทุกคนในบ้านใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน เงินที่หามาได้ก็จ่ายเป็นค่าส่วนกลางทั้งหมด เฉินจื่อคังอยากไปพบปะผู้คน ยังต้องให้พี่ชายพี่สะใภ้ช่วยเหลืออีก ข้าจะช่วยยังไง? พวกเจ้าฆ่าแล้วจับฆ่ากินทั้งเป็นยังจะดีเสียกว่า!”

จ้าวซื่อตะโกนแบบนี้ เพื่อนบ้านที่มาดูต่างก็มองตาแก่เฉินด้วยสายตาที่จดจ่อ จะว่าไปแล้ว จ้าวซื่อก็พูดถูก เงินที่หามาได้ก็จ่ายเป็นค่าส่วนกลางไปหมดแล้ว มีที่ไหนพอเกิดเรื่องแล้ว ก็จะมาเอาเงินจากพวกเขาอีก?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน