ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 208

“แน่นอนว่าเอามาจากเพื่อนเจ้าน่ะสิ!” ลู่ม่านพูดเสียงเบา “เจ้าทำเพื่อแก้แค้นให้แม่เจ้าใช่ไหม?”

หวังต้าลี่ได้ยินแล้วก็อึ้งอีกครั้ง เขารีบเงยหน้าขึ้นมองลู่ม่าน จากสายตาของเขา ลู่ม่านรู้ว่าตัวเองพูดถูกแล้ว อย่างน้อย เรื่องที่แก้แค้นให้แม่เขา เป็นเรื่องจริง

แต่ว่า ไม่นานเขาก็ส่ายหน้า “ข้าไม่รู้ว่าเจ้าพูดอะไร ถ้าข้าอยากแก้แค้นจริง ข้าก็คงแก้แค้นไปนานแล้ว”

ลู่ม่านไม่ได้พูดอะไรอีก เฉินจื่ออานมองไปด้านหลัง เฉินจูชิงนำตัวคนที่จับได้ออกมา

“พวกเจ้ามีอะไรจะพูดอีกไหม?” ลู่ม่านถาม

หวังต้าลี่ก้มหน้าไม่พูดอะไรครั้ง คนคนนั้นกลับมองหวังตาลี่ด้วยรอยยิ้ม “ใช่แล้ว เขาสั่งให้ข้าไปโน้มน้าวคน ตอนนี้ข้าสารภาพแล้ว พวกเจ้าจะแจ้งความไหม?”

หวังต้าลี่ได้ยินแล้ว ก็เงยหน้ามองคนคนนั้น เขากระชากกระเป๋าจากมือของลู่ม่านมา “ขอบใจ กระเป๋าของเจ้าสวยมาก ข้าชอบมาก”

แววตาของหวังต้าลี่สับสนมากขึ้น สักพักใหญ่ ในที่สุดเขาก็พยักหน้าสารภาพ “ฝีมือข้าเอง”

ลู่ม่านใจสั่น……

เดิมที ตอนที่นางเริ่มสงสัย นางยังคาดหวังอยู่เล็กน้อย หลังจากที่แม่หม้ายหวังตายจากไป พวกเขาก็พยายามลากหวังต้าลี่ให้กลับมาเป็นคนดี

แต่ว่า ตอนนี้ได้ยินเขาสารภาพกับปาก นางก็รู้สึกเสียใจแทนแม่หม้ายหนิวจริงๆ

“แม่เจ้าตายเปล่าจริงๆ!” ลู่ม่านกัดฟันด่าคนไม่เอาถ่านอย่างเขา

ทันใดนั้นหวังต้าลี่ก็ตัวแข็งทื่อ แสยะยิ้มอย่างขมขื่น “แล้วยังไง?”

เฉินจื่ออานที่เห็นแม่หม้ายหนิวตายกับตาก็โกรธมาก “แม่เจ้าเลี้ยงเจ้ามาจนโต เจ้าไม่เคยคิดที่จะตอบแทนนางบ้างเลยหรือไง? คนที่ไม่ให้ความสำคัญกับอนาคตของตัวเองอย่างเจ้า ข้าขอบอกเลยนะ โชคดีที่แม่เจ้าจากไปก่อน ไม่งั้นนางคงได้โมโหเจ้าจนตายแทน!”

หวังต้าลี่เงยหน้าตะคอกไปว่า “พวกเจ้าไม่มีสิทธิ์มาต่อว่าข้า ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเจ้า แม่ข้าไม่มีทางตายหรอกนะ”

ผู้ดูแลที่อยู่ข้างๆได้ยินแล้ว ก็ด่าเสียงเบาว่า “เจ้าพูดเช่นนี้ ไม่มีจิตใต้สำนึกบ้างเลยหรือไง แม่เจ้าเสียใจและถูกโจมตีด้วยเสียงนินทาและเล่าลือในหมู่บ้านก็จริง แต่นางถูกเจ้าดูถูกเลยไม่ฆ่าตัวตายต่างหาก สำหรับแม่ที่เข้มแข็งแล้ว นอกจากลูกชายนางก็ไม่มีใครสามารถทำร้ายนางได้อีก!”

“อ๊าก……” ทันใดนั้นหวังต้าลี่ก็ตะโกนเสียงดัง เขาบ้าไปแล้ว

แม่ของเขา ตายเพราะเขา ถึงแม้เขาจะรู้มาโดยตลอด แต่ก็ไม่กล้าที่จะยอมรับความจริง

ทุกคนไม่ได้เข้าไปปลอบเขา ปล่อยให้เขาร้องไห้อยู่นานมาก สักพักใหญ่ถึงจะเงียบลง จากนั้นเขาก็ก้มหน้าพูดเสียงเบาว่า “พวกเจ้าไปแจ้งความเถอะ!”

เห็นเขาจะไปมอบตัว คนที่ถูกเฉินจูชิงจับมาก็กระโดดหน้าต่างหนีออกไป เฉินจูชิงรีบตามออกไป ตาแก่เฉินห้ามเขาไว้ก่อน

“ช่างเถอะ!”

คนอื่นๆต่างก็อึ้งกันหมด ตาแก่เฉินก็ถึงพูดว่า “เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะข้าเอง ตามหลักแล้วข้าไม่ควรพูดหรอกนะ แต่ว่า จื่ออาน ครั้งนี้พ่อขอร้องให้เจ้าปล่อยเขาไปเถอะนะ!”

“ท่านพ่อ……” เฉินจื่ออานเอ่ยขึ้น

หวังต้าลี่ที่อยู่ข้างๆก็อึ้งมาก “ท่านลุง……”

“เจ้าเรียกข้าว่าลุง ข้าจะแจ้งความจับเจ้าไม่ได้หรอกนะ เจ้าไม่ใช่เด็กไม่ดีอะไร ลุงรู้ เมื่อก่อนแม่ของเจ้าเคยบอกไว้ว่า ไม่หวังให้เจ้าร่ำรวยมีเงินทองมหาศาล ขอแค่เจ้ามีชีวิตที่ปลอดภัยตลอดชีวิตก็พอแล้ว”

ตาแก่เฉินยังพูดไม่ทันจบ หวังต้าลี่ก็น้ำตาไหลอาบแก้มแล้ว เขาไม่เคยมีพ่อเลยตั้งแต่เด็ก มีเพียงแม่ที่ดูแลเขาจนเติบโต ตอนเด็ก เขามักจะถามว่าแม่เหนื่อยไหม ทุกครั้งแม่ก็จะตอบว่าตัวเองไม่เหนื่อย

แต่พอโตขึ้น เขาก็เริ่มฟุ้งเฟ้อ แม่จะเหนื่อยหรือไม่ เขาไม่สนใจขนาดนั้นแล้ว

ตอนนี้เขาสนใจแค่เรื่องหน้าตาของตัวเองเท่านั้น จะมีคนทำให้เขาเสียหน้าหรือเปล่า เขาเสียใจจริงๆ เสียใจที่ตอนนั้นไม่ควรพูดแบบนั้นกับแม่

ถ้าตอนนั้นเขาไม่ทำตัวแบบนั้น พูดจาดีๆกับแม่ หรือไม่พูดอะไรเลย แม่ก็คงไม่เลือกเดินเส้นทางนี้

แต่ตอนนี้ ทุกอย่างไม่มีความหมายแล้ว แม่ของเขาเป็นคนที่รักเขาที่สุดในโลกใบนี้ แต่คนที่รักเขาที่สุดกลับมาตายจากไปแล้ว

“ท่านแม่……” หวังต้าลี่ตะโกนออกมาสุดเสียงจนใจจะขาด

ตาแก่เฉินก็อดไม่ได้น้ำตาไหล “ตอนนี้เจ้ารู้ตัวว่าผิดก็ยังทันนะ ครั้งนี้พวกเราจะไม่แจ้งความ หลังจากเจ้ากลับไปแล้ว ก็ทำตัวดีๆนะ อย่าทำเรื่องโง่ๆอีก!”

ตาแก่เฉินพูดจบแล้วก็หลับหลังหัน ปัดมือแล้วพูดว่า “เจ้าไปเถอะ!”

หวังต้าลี่คุกเข่าคำนับตาแก่เฉินหนึ่งที จากนั้นก็ถึงเช็ดน้ำตาคลานออกไป

รอเขาไปแล้ว ตาแก่เฉินก็มองไปยังเฉินจื่ออาน “จื่ออาน เจ้าไม่โทษพ่อใช่ไหม……”

“ไม่หรอกขอรับ!” เฉินจื่ออานยิ้มอ่อนๆ ลู่ม่านก็พยักหน้า เพราะในวินาทีที่ตาแก่เฉินยอมปล่อยหวังต้าลี่ไป ทันใดนั้นลู่ม่านก็รู้สึกว่า บางทีการให้อภัยสำคัญกว่าการลงโทษ

หลังจากที่หวังต้าลี่รู้ตัวว่าผิดแล้ว อาจจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ก็ได้ แบบนี้คงจะดีกว่าการให้เขาไปอยู่ในคุกนะ?

แน่นอนว่า สำหรับคนที่ดื้อดึงไม่ยอมแก้ไขตัวเอง จะใจอ่อนไม่ได้

เช้าวันที่สอง ตอนฟ้ายังไม่สว่าง เหอซานเดินเข้ามาจากด้านนอก เคาะประตูแล้วพูดว่า “เจ้าเด็กตระกูลหวังมาหาเจ้าน่ะ”

เฉินจื่ออานตอบรับ มองดูลู่ม่านที่กำลังหลับใหลอยู่ เขาก็ลุกขึ้นเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเดินออกไป

หวังต้าลี่ถือกระเป๋าเดินทางเหมือนจะกำลังจะเดินทางไกล เฉินจื่ออานอึ้ง “นี่เจ้าจะ……”

“ข้าอยากออกจากหมู่บ้านไป่ฮัวก่อนสักพักน่ะ” หวังต้าลี่พูด “เมื่อก่อน ตอนที่แม่ข้ายังอยู่ มักจะบอกว่ารอข้าโตแล้ว มีหน้าที่การงานแล้ว ก็จะพานางออกจากหมู่บ้านไป่ฮัวแล้วไปเที่ยวที่ต่างๆ แม่บอกว่า ที่ที่อยากไปที่สุดคือเมืองหย่งอาน ไปดูความเจริญรุ่งเรืองของเมืองหย่งอาน แต่น่าเสียดาย ข้าไม่เคยมีโอกาสนั้นเลย!”

หวังต้าลี่สูดหายใจเข้าลึกๆ “ตอนนี้ ข้าอยากลองน่ะ”

เฉินจื่ออานซึ้งใจกับการกระทำของเขา แล้วเขาก็พยักหน้าอย่างเสียใจ “ในเมื่อคิดดีแล้ว งั้นก็ไปเถอะ ข้าว่า ถ้าท่านป้ารู้เรื่องนี้ จะต้องดีใจมากแน่ๆ”

“อืม!” หวังต้าลี่พยักหน้า ทันใดนั้นเขาก็ขยับเข้าไปกระซิบข้างหูเฉินจื่ออาน “คนเมื่อวาน ที่จริงไม่ใช่คนที่ข้าสั่งให้ไปก่อเรื่องนะ”

เฉินจื่ออานอึ้ง “ว่าไงนะ? แต่เขาบอกว่า……”

หวังต้าลี่แสยะยิ้ม “ข้าโง่เอง ถูกคนหลอก”

หลังจากที่แม่หม้ายหนิวตายแล้ว หวังต้าลี่ก็เงียบไม่พูดไม่จามาตลอด มีวันหนึ่งตอนที่ออกไปจ่ายตลาด ก็เจอกับผู้หญิงนางหนึ่งเข้า นางอ่อนโยนและใจดีมาก นางข้อเท้าแพลงในที่เปล่าเปลี่ยว เดินไม่ไหว

หวังต้าลี่ไม่รู้ว่าจะทำยังไง ต่อมาผู้หญิงคนนั้นก็ขอร้องเขา เขาก็เลยแบกนางไปที่ตำบล จากนั้นผู้หญิงคนนั้นก็พูดว่า นางถูกเขาแตะเนื้อต้องตัวแล้ว เขาต้องรับผิดชอบ

หวังต้าลี่ตอนแรกยังไม่ยอม แต่ผู้หญิงคนนั้นสวยมาก แถมยังอ่อนโยนอีก ไม่นาน หวังต้าลี่ก็เริ่มตกหลุมรักนาง

เพราะการปรากฏตัวของนาง หวังต้าลี่ถึงค่อยๆลืมความเจ็บปวดที่เสียแม่ไป

เฉินจื่ออานเข้าใจแล้ว “ดังนั้น กระเป๋าที่เจ้าเอาติดตัว เป็นกระเป๋าที่ผู้หญิงคนนั้นปักเหรอ?”

หวังต้าลี่พยักหน้า “ใช่แล้ว แต่กระเป๋าของผู้ชายคนนั้น ข้าไม่ได้ให้เขานะ!”

เฉินจื่ออานอึ้ง ทันใดนั้นก็เบิกตาโพลง “เจ้าจะบอกว่า ผู้หญิงคนนั้น ปฏิบัติตัวไม่ดี……”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน