“อ๋อ เป็นคุณชายจวงที่มา” ลู่ม่านกล่าว
ความประทับใจที่เฉินจื่ออานมีต่อคุณชายจวงนั้นถือว่าดีมาก ถึงแม้เขาจะมักไม่ค่อยชอบยิ้ม ท่าทางดูเย็นชา แต่หลายครั้งเขาก็ปรากฏตัวขึ้นมา และช่วยเหลือพวกเขาได้ทันเวลา
เฉินจื่ออานเป็นคนที่รู้จักตอบแทนบุญคุณคน และถือว่าคุณชายจวงเป็นเพื่อนมานานแล้ว
“คุณชายจวงอยู่ที่ไหนล่ะ เดี๋ยวข้าจะไปต้อนรับเขาเอง”
“อยู่ที่สวน” ลู่ม่านพูดเสียงเรียบ
เฉินจื่ออานรีบมองไปทางลู่ม่าน “เสี่ยวม่าน เจ้าไม่มีพอใจหรือเปล่า”
ลู่ม่านอ้าปาก เดิมทีนางอยากจะบอกข้อเสนอของจวงลี่จ้งให้เขาฟัง แต่พอเห็นว่าเฉินจื่ออานดูท่าทางดีใจมาก พอคิดดูแล้วยังไม่บอกเขาดีกว่า ยังไงซะ นางก็ยังไม่ได้ตอบตกลงไม่ใช่หรือ?
“ไม่มีอะไร!” ลู่ม่านยกยิ้มมุมปาก
เฉินจื่ออานเพิ่งเดินออกไป ลู่ม่านก็เห็นทั้งสองคำนับทักทายกันจากทางหน้าต่าง หลังจากนิ่งคิดดูแล้ว นางจึงให้เหอเย่วนำขนมถั่วเขียวกับชาเก๊กฮวยที่เก็บไว้ของปีที่แล้วออกไปต้อนรับ
ชาเก๊กฮวยต้มไว้แล้ว และขนมถั่วเขียวเหอเย่วเป็นคนทำ แต่วิธีการทำลู่ม่านเป็นคนสอน
นอกจากนี้บนขนมยังมีลวดลายจากแม่พิมพ์ที่แกะสลักจากไม้ ดูไปแล้วเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว จวงลี่จ้งดูท่าจะชอบมาก จึงกินไปหลายชิ้น
พอเห็นว่าเขาชอบ เฉินจื่ออานก็กล่าวว่า “ถ้าคุณชายจวงชอบ จากนี้ท่านสามารถมาที่บ้านได้บ่อยๆ”
พอได้ยินแบบนี้ จวงลี่จ้งก็เหลือบมองไปทางลู่ม่าน ลู่ม่านไม่ได้มองมา แต่สั่งอะไรบางอย่างกับเหอเย่ว
เขาส่ายหน้า “ข้าเกรงว่าในอนาคตข้าอาจจะงานยุ่งมากกว่านี้ และคงไม่มีเวลามาที่นี่บ่อยๆ”
เฉินจื่ออานพยักหน้า หลังจากนั้นทั้งสองก็เริ่มคุยกันเรื่องอื่นต่อ เฉินจื่ออานยังคงมีท่าทางต้อนรับแขกเหมือนเดิม เขาหาเรื่องชวนคุยเยอะมาก จวงลี่จ้งก็พูดตอบบ้างเป็นครั้งคราว ถือว่าคุยกันได้ดี
ไม่นาน ผู้ติดตามของจวงลี่จ้งก็กลับมาจากการซื้อของ
วัตถุดิบที่ลู่ม่านต้องการได้ซื้อมาจนครบแล้ว พูดจริงแล้วลู่ม่านต้องยอมให้ผู้ชายคนนี้จริงๆ ปกตินางอยากจะซื้อเห็ดเข็มทองยังไม่รู้ว่าจะไปซื้อได้จากที่ไหนเลย
หลังจากถามคำถามไปหลายคำถาม ผู้ติดตามก็มีท่าทางเขินอาย บอกว่าของส่วนใหญ่ก็ล้วนมาจากที่ร้านที่ร้านมีอยู่แล้ว ทำให้ลู่ม่านรู้สึกสมดุลทางใจมากขึ้น
นายทุนที่มีทุนเดิมไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ยังไม่ขาด ต่อให้จะมาเปิดโรงงานที่นี่ ก็ต้องซื้อที่นามาปลูกพืชผัก
หลังจากขนวัตถุดิบเข้าห้องครัวไปแล้ว ลู่ม่านกับเหอเย่วก็จัดการทำอาหารด้วยกัน
ถึงแม้จะมีพืชผักหลายประเภท แต่ก็เป็นผักที่ค่อนข้างสุกง่าย ดังนั้นจึงปรุงได้เร็วมากเช่นกัน ไม่นาน ก็เริ่มกินได้
เฉินจื่ออานเชิญจวงลี่จ้งนั่งเก้าอี้หลัก แต่จวงลี่จ้งกลับปฏิเสธ และเชิญอาจารย์โจวนั่งแทน
ลู่ม่านนึกถึงเฉินจื่อคังขึ้นมา ก่อนจะสอบติดชิ่วไฉ ตอนที่เห็นอาจารย์โจว เขามีท่าทางเย่อหยิ่งมาก
แต่จวงลี่จ้ง ถึงแม้เขาเองจะเป็นชิ่วไฉอยู่แล้ว แต่การให้เกียรติผู้อาวุโสยังคงเป็นเช่นเดิม การอบรมสั่งสอนของครอบครัวช่างแตกต่างกันจริงๆ
ที่จริงแล้วคนคนนี้ นอกจากหน้าที่ดำคล้ำไปบ้าง เจ้าเลห์ไปบ้าง ดูเหมือนจะไม่มีข้อบกพร่องอื่นแล้ว
อาหารมื้อนี้ ทุกคนกินกันอย่างมีความสุข โดยเฉพาะอาจารย์โจว เขากล่าวสีหน้ายิ้มแย้ม “อยู่ที่บ้านนี้หนึ่งเดือน ข้าอ้วนขึ้นเยอะเลย”
ลู่ม่านแสร้งทำเป็นโกรธขี้นมาทันที ก่อนจะพูดว่า “นี่ท่านอาจารย์กำลังโทษข้าอยู่ใช่ไหม งั้นข้าจะไม่ทำอาหารอีกแล้ว!”
“ไม่ได้นะ ถ้าแม่นางลู่ไม่ทำอาหาร ไม่ผิดต่อวัตถุดิบอาหารหรือ!”
เฉินจื่ออานกลับรู้สึกสงสารลู่ม่าน พอเห็นแบบนี้จึงพูดขึ้นมา “จากนี้ไปเสี่ยวม่านสอนข้าทำอาหาร ข้าจะทำอาหารให้อาจารย์เอง”
อาจารย์โจวเริ่มพูดเป็นเหตุเป็นผลอีกครั้ง “สุภาพบุรุษที่ดีควรอยู่ให้ห่างจากครัว…”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
เด็กไม่ตายเพราะแม่คลอดยากจะตายเพราะคนรับใช้ป้อนโจ๊กข้าวจนอิ่มตื้อ รอดได้คือดวงแข็งเว่อ...
อ่านไป งงไป ตัดสินประหาร หรืออภัยโทษ?...
หม่อมข้า? ใช้ MS Word ไม่ระวังเลย...
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอน 337 แล้ว โดยภาพรวมพระเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เฉียบแหลมเลย...
อะไรจะมีปมขนาดนั้น วุ่นวายตอกย้ำเหลือเกินเกี่ยวกับระบบศักดินา ทั้งที่มันเป็นคนละยุคสมัยกัน...
ตอน285-287 หายทำไงดี...
ตอนหายค่ะ 284แล้วกระโดดไป288เลยค่ะ...
บท 285-287 หายค่ะ 284แล้ว288เลย รบกวนด้วยค่ะ...
281-311 รบกวนด้วยค่ะ...
บทที่241-311 หายค่ะ...