ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 226

ลู่ม่านพยักหน้า จากนั้นถึงจะนึกขึ้นมาได้ว่าวันนี้นัดหมายกันไว้แล้ว ถ้านางตกลงที่จะเปิดโรงงานในเมืองหลวง จะไปในพบจวงลี่จ้งในตำบล

ถึงแม้ลู่ม่านจะยังไม่ได้ตัดสินใจ แต่ก็ควรจะไปบอกอีกฝ่ายสักคำ ถ้าเหอเย่วไม่ได้ออกไปซื้อของ จวงลี่จ้งอาจจะยังรอนางอยู่ต่อไปก็ได้

พอคิดได้แบบนี้ ลู่ม่านก็พูดอย่างรู้สึกผิด “ขอโทษด้วย สองสามวันมานี้ข้ามัวแต่ยุ่ง จนลืมเรื่องนี้ไปเลย”

จวงลี่จ้งไม่ถือโทษ แต่ถามกลับมาว่า “เจ้าไปอำเภอเฟิงหนานมาหรือ”

“ใช่แล้ว!” ลู่ม่านพยักหน้ารับ “ข้าเข้าใจความตั้งใจของท่านดี ถึงแม้ว่าข้าจะยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะร่วมงานกับท่านหรือไม่ แต่เราก็ยังอยู่บนเรือลำเดียวกัน”

หลังจากได้ยินแบบนี้ จวงลี่จ้ง ก็ชี้ไปด้่นหลังตนเอง ที่มีตะกร้าใส่ปลาและกุ้งจำนวนมาก เหอเย่วรีบอธิบาย “คุณชายจวงได้ยินว่าเราต้องการ เขาจึงบอกให้ภัตตาคารเฟิ่งหลายเอาของพวกเขามาให้”

อย่างนี้นี่เอง

ลู่ม่านพยักหน้า “ขอบคุณ”

จวงลี่จ้งไม่ได้ตอบอะไร แต่เดินออกไปข้างนอกแล้วหาที่นั่งเอง ลู่ม่านมองไปทางเฉินจื่ออาน “ท่านก็ไปนั่งเถอะ ที่นี่ข้ากับเหอเย่วจัดการเอง”

เฉินจื่ออานพยักหน้าให้ แล้วเดินออกไป

จากนั้นลู่ม่านจึงบอกให้เหอเย่วนำปลาและกุ้งออกมาทำความสะอาด ส่วนตนเองเตรียมจะทำหัวปลานึ่งพริกสับดอง

เมนูนี้เคยทำไปแล้ว หัวปลานึ่งพริกสับดองที่จริงก็แค่ล้างหัวปลาให้สะอาด จากนั้นก็ใส่ต้นหอมกับขิงแล้วเอาไปนึ่ง จากนั้นก็ใส่เกลือ ใส่พริกสับดองลงไป ก่อนจะนำไปนึ่งต่ออีกยี่สิบนาที

สุดท้าย ทำการตั้งกระทะเทน้ำมันลงไป เทซีอิ๊วลงไป รอให้มันเดือด โรยต้นหอมสับลงบนหัวปลา แล้วราดน้ำมันลงไป

แต่การทำหัวปลานึ่งพริกสับดองคราวนี้คือใส่ลงในบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และแน่นอนว่ารสชาติมันแตกต่างจากเดิม

ลู่ม่านทำการตักน้ำซุปหัวปลานึ่งพริกสับดองออกมา จากนั้นก็แยกเนื้อปลาออกมาปริมาณพอประมาณ สุดท้าย ทำการแช่บะหมี่ในน้ำร้อนจนเส้นบะหมี่สุก แล้วเติมน้ำซุปลงไป

บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสหัวปลานึ่งพริกสับดองทำเสร็จเรียบร้อย

จากนั้นก็เริ่มจัดการพวกปลาและกุ้ง ซึ่งพวกปลาและกุ้งเดิมทีก็เป็นวัตถุดิบที่สดใหม่มาก ดังนั้น ลู่ม่านจึงใช้พวกปลาและกุ้งมาทำน้ำซุปโดยใช้วิธีเหมือนกับการต้มน้ำซุปกระดูก

อันดับแรกทำการทอดปลาและกุ้งด้วยน้ำมันจนสุกแห้ง จากนั้นก็เติมน้ำลงไปจนเป็นซุป

สุดท้าย ก็ตักใส่ลงไปในชามที่มีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หลังจากทำเสร็จแล้ว ลู่ม่านก็ยกทั้งสองชามออกมา ให้จวงลี่จ้งกับเฉินจื่ออานลองชิมดู

หัวปลานึ่งพริกสับดอง รสชาติเผ็ดเปรี้ยวกลมกล่อม พอกินเข้าไป ก็ยิ่งเจริญอาหาร และการรวมตัวของอาหารทะเลกับเส้นบะหมี่ก็อร่อยมากด้วย แค่ได้ลิ้มลองก็ยากที่จะลืมเลือนได้

หลังจากลิ้มลองบะหมี่ทั้งสองชามเสร็จ จวงลี่จ้งก็กล่าวออกมา “ท่านคิดจะใช้รสชาติใหม่ทำให้การตลาดกลับมาคงที่อย่างนั้นหรือ”

“อืม!” ในเมื่อเขามองแผนการออกแล้ว ลู่ม่านก็ไม่มีอะไรจะปิดบังอีก

“เป็นวิธีที่ไม่เลว แต่ใช้ได้ไม่นาน” จวงลี่จ้งกล่าว “พวกเขารู้วิธีทำบะหมี่ไปแล้ว เรื่องรสชาติ ก็ไม่ใช่เรื่องยาก ขอแค่หาพ่อครัวมาลองคิดค้น ก็ทำมันออกมาได้ไม่ยาก”

“มันไม่เหมือนกันนะ!” ลู่ม่านกล่าว “ข้ามีเครื่องปรุงบางอย่างที่พวกเขาไม่มี แค่เครื่องปรุงในการทำหัวปลานึ่งพริกสับดอง พวกเขาก็ไม่มีแล้ว”

“พริกสับดองหรือ?” จวงลี่จ้งชะงักไปเล็กน้อย “รสชาติเปรี้ยวเผ็ดของน้ำซุปเมื่อตะกี้คือพริกสับดองอย่างนั้นหรือ?”

ลู่ม่านไม่ได้พูดตอบ แต่จวงลี่จ้งพยักหน้าเข้าใจแล้ว “อืม เช่นนี้ก็ดี จัดการตามนี้ไปก่อนก็แล้วกัน”

“คุณชายจวง!” ลู่ม่านกล่าวขึ้นมาอีกครั้ง “ขอบคุณท่านมาก!”

จวงลี่จ้งหัวเราะออกมาเบา ๆ “ข้าเป็นแค่พ่อค้า ที่ข้าลงมือช่วยเหลือเพราะข้าไม่อยากให้ผลประโยชน์ของข้าถูกทำลาย ดังนั้น ท่านไม่จำเป็นต้องขอบคุณข้า นอกจากนี้ ท่านน่าจะดูออกถึงวัตถุประสงค์ของข้าที่อยากเปิดโรงงานในเมืองหย่งอาน”

หลังจากนิ่งเงียบไปสักพัก เขาก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง “ข้ายังคงยืนยันคำเดิม รสชาติใหม่ที่ท่านทำออกมาอาจทำให้สถานการณ์ดีขึ้นชั่วขณะ แต่ไม่นานก็จะถูกแทนที่ ถ้าอยากขยายตัวเพิ่มขึ้น ต้องรีบตัดสินใจ!”

พอพูดจบ เขาก็เดินไปทางโรงงาน

เฉินจื่ออานรีบถามลู่ม่านทันที “เสี่ยวม่าน ช่วงหลายวันมานี้ที่เจ้าอารมณ์ไม่ดี เพราะเรื่องที่คุณชายจวงเสนอให้เปิดโรงงานในเมืองหลวงหรือ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน