เฉินจื่ออานชะงักงัน “พอได้ยินเจ้าพูดแบบนี้ ดูเหมือนว่าจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ”
หลังจากที่ลู่ม่านได้ยินเถ้าแก่จางบอกว่าหลี่หรงมีคนคอยสนับสนุนอยู่ข้างหลัง และพิจารณาจากที่ได้เจอกับหลี่หรงก่อนหน้านี้ ลู่ม่านจึงได้ข้อสรุปว่าหลี่หรงเป็นคนที่ทำอะไรมุทะลุไม่คิดให้รอบคอบเลย
ผู้ชายที่ทำอะไรไม่คิดเช่นนี้ถึงแม้จะโหด แต่จัดการง่าย
ดังนั้น นางจึงถือโอกาสตอนที่พวกเขายังไม่รู้ตีว แล้วไปร้องเรียนที่ศาล จากนั้น ตามที่นางคาดไว้ พอไม่มีเวลาได้ปรึกษากัน หลี่หรงก็เผยจุดอ่อนออกมาทันที
ส่วนเรื่องที่เฉินจื่ออานพูดว่า หลี่หรงจะจำพวกเขาได้ เรื่องนี้ ไม่ว่าอย่างไรหลี่หรงก็รู้ แค่ว่าจะช้าหรือเร็วเท่านั้นเอง ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
“จื่ออาน!” ลู่ม่านครุ่นคิดก่อนจะพูดขึ้นมา “ในตอนนั้น ถ้าเถ้ากระดูกที่พบในซากปรักหักพังนั้น เจ้าลองคิดดูว่าถ้ามันไม่ใช่เถ้ากระดูกของเฉินจื่อคังล่ะ?”
เฉินจื่ออายเม้มริมฝีปากของเขาแน่น ก่อนที่ดวงตาของเขาจะมีแววตาเศร้าสร้อยขึ้นมา “เสี่ยวม่าน เจ้าหมายถึง คนที่ปล่อยสูตรของเรารั่วไหลออกไปคือ…”
หลังจากคิดว่าเฉินจื่อคังเสียชีวิตไปแล้ว เฉินจื่ออานได้ละทิ้งความคับข้องใจและความคับแค้นทั้งหมดไปจากก้นบึ้งของหัวใจแล้ว เหลือไว้แต่เพียงความทรงจำอันอบอุ่นระหว่างพี่น้องช่วงในอดีตเท่านั้น
ตอนนี้มาได้ยินว่าเฉินจื่อคังอาจจะยังไม่เสียชีวิต และเป็นคนวางแผนการทั้งหมด เฉินจื่ออานก็รู้สึกรับไม่ได้ไปสักพัก
แต่ว่า หลังจากผ่านเหตุการณ์อะไรมามากมาย เขาก็เข้าใจเรื่องหนึ่งเช่นกัน
เรื่อฃบางเรื่อง ไม่ใช่ว่าเขาไม่ยอมเชื่อ แล้วจะไม่เกิดขึ้นจริง เพราะหลายครั้ง เรื่องบางเรื่องก็ได้ถูกกำหนดไว้แล้ว อย่างไรก็ต้องเผชิญหน้ากับมัน
“เสี่ยวม่าน เราต้องทำอย่างไรต่อไป”
สำหรับความสงบนิ่งของเฉินจื่ออาน ลู่ม่านรู้สึกสงสารเล็กน้อย เขาเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับความผูกพันของคนในครอบครัวมากขนาดนั้น ผลลัพธ์นี้ถือว่าโหดร้ายต่อเขามาก
ลู่ม่านมุดเข้าไปในอ้อมกอดของเฉินจื่ออาน แล้วพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “มันเป็นการตัดสินใจของเขาเอง ท่านไม่ผิด”
“อืม!” เฉินจื่ออานพยักหน้า
“เรื่องนี้ ในเมื่อเรารู้รายละเอียดแล้ว เราต้องวางแผนระยะยาวกัน!” ลู่ม่านเสนอ “จะให้อยู่ที่นี่ต่อไปก็ไม่มีประโยชน์ เราต้องคิดหาวิธีที่จะทำให้ตลาดการค้าของเรามั่นคงก่อน”
เฉินจื่ออานพยักหน้า วันนี้ในศาลพวกเขาเห็นชัดเจนแล้ว ถึงแม้เรื่องนี้จะเอาไปร้องเรียนทางการ แต่พวกเราไม่มีหลักฐานที่รัดกุม ก็ถือว่าเราเสียโอกาสไปแล้ว
สำหรับตอนนี้ คงได้แต่กลับไปคิดมาตรการรับมือเท่านั้น
วันรุ่งขึ้น ทั้งสามคนก็เดินทางกลับ
การตัดสินใจของพวกเขาไม่ได้บอกกับเถ้าแก่จาง ไม่ใช่ว่าไม่ไว้วางใจ แต่เรื่องน่าอับอายในครอบครัวไม่สามารถเปิดเผยต่อสาธารณะได้
เถ้าแก่จางเองก็คงจะคิดว่าบ้านเฉินคงไม่มีวิธีจัดการ ดังนั้นเขาจึงพูดปลอบด้วยรอยยิ้ม “อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในช่วงนี้ก็ไม่ค่อยดี ข้าจึงอยากให้เวลาตัวเองได้พักผ่อนบ้าง! พอดีเลย ข้าจะได้จัดงานแต่งงานของตัวเองด้วยเลย”
เฉินจื่ออานรีบกล่าวแสดงความยินดีอย่างรวดเร็ว พอคิดว่าจากนี้ไปอาจจะมีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นอีกมาก เขาจึงถามว่า “จัดงานในตำบลใช่หรือไม่”
เถ้าแก่จางส่ายหัว “ถือโอกาสนี้ ข้าจะไปพักที่บ้านเกิดของข้าสักช่วงหนึ่ง”
บ้านเกิดของเถ้าแก่จางไม่ได้อยู่ในอำเภอเฟิงหนาน เฉินจื่ออานจึงพยักหน้า “อย่างนี้ก็ดีเหมือนกัน!”
“ข้าเกรงว่าพวกเราคงไม่สามารถไปร่วมงานได้ พรุ่งนี้ข้าจะให้คนส่งของขวัญของพวกเราไปให้ท่าน ข้าขอให้ท่านและเจ้าสาวมีความสุขมีความสุขมากๆ!”
เถ้าแก่จางพยักหน้าเข้าใจ “ข้าต้องขอบคุณแทนนางด้วย”
พอกลับมาถึงตำบลชางผิง ทั้งสามก็แยกกัน เถ้าแก่จางกลับไปที่ร้าน ส่วนลู่ม่านกับเฉินจื่ออานตรงกลับหมู่บ้านไป่ฮัวเลย
แทนที่จะตรงกลับบ้าน ทั้งสองไปที่บ้านเฉินก่อน
ตาแก่เฉินยังเหมือนเดิม ยืนสูบยาสูบอยู่ที่ประตู และพอเห็นพวกเขากลับมา เขาก็เข้ามาถาม “เกิดอะไรขึัน? พวกเจ้าไม่ได้ไปไหว้พระกับพวกเจ้าสองหรือ แล้วเหตุใดพวกเจ้าถึงกลับมาในเวลานี้ล่ะ”
“ท่านพ่อ...” เฉินจื่ออานพูดอะไรไม่ออก ลู่ม่านจึงรีบพูดแทน “เรามีปัญหาต้องไปจัดการขึ้นมากะทันหัน เลยต้องพักอยู่ในอำเภอสองวันท่านพ่อ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
เด็กไม่ตายเพราะแม่คลอดยากจะตายเพราะคนรับใช้ป้อนโจ๊กข้าวจนอิ่มตื้อ รอดได้คือดวงแข็งเว่อ...
อ่านไป งงไป ตัดสินประหาร หรืออภัยโทษ?...
หม่อมข้า? ใช้ MS Word ไม่ระวังเลย...
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอน 337 แล้ว โดยภาพรวมพระเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เฉียบแหลมเลย...
อะไรจะมีปมขนาดนั้น วุ่นวายตอกย้ำเหลือเกินเกี่ยวกับระบบศักดินา ทั้งที่มันเป็นคนละยุคสมัยกัน...
ตอน285-287 หายทำไงดี...
ตอนหายค่ะ 284แล้วกระโดดไป288เลยค่ะ...
บท 285-287 หายค่ะ 284แล้ว288เลย รบกวนด้วยค่ะ...
281-311 รบกวนด้วยค่ะ...
บทที่241-311 หายค่ะ...