ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 224

ลู่ม่านกำลังจะตามไป แต่เสียงของเถ้าแก่จางดังขึ้นข้างหลังซะก่อน

“อย่าตามไป!”

เฉินจื่ออานตกใจ รีบคว้าลู่ม่านไว้ เถ้าแก่จางมองไปรอบๆ อย่างระมัดระวัง ก่อนจะพูดว่าขึ้นมา “ไปคุยกันที่โรงเตี๊ยม”

บริเวณนี้มีเพียงโรงเตี๊ยมเดียว เถ้าแก่จางก็พักอยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน

ด้านล่างของโรงเตี๊ยมเป็นร้านอาหาร ทั้งสามคนจึงจองห้องอาหารส่วนตัวแล้วนั่งลง ก่อนจะให้คนงานในร้านออกไป เฉินจื่ออานจึงถามออกมา “เถ้าแก่จาง นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”

เถ้าแก่จางมองไปรอบๆ และพูดเสียงเบา “คนที่ท่านเห็นเมื่อกี้นี้คือหัวหน้า ชื่อหลี่หรง หรือก็คือเจ้าของร้านขายของชำหลี่หรง”

“หรือว่า คนๆ นั้นจะมีคนคอยคุ้มครองอยู่ข้างหลัง?” ลู่ม่านถาม

เถ้าแก่จางพยักหน้า “เขามีคนคอยคุ้มครองอยู่ข้างหลังจริงๆ”

หลังจากที่เถ้าแก่จางพูดจบ เขาก็ค่อยๆ เล่าเรื่องที่เขามาที่นี่ในช่วงหลายวันนี้

ที่แท้ ในช่วงสิบวันที่ผ่านมา เขาแอบสอบถามเรื่องของร้านขายของชำหลี่หรงจากลูกค้าที่กำลังซื้อของ ในช่วงแรก เขาคิดจะไปบอกเฉินจื่ออาน แต่ตอนที่เขามาถึงหมู่บ้านไป่ฮัว เขาถึงได้รู้ว่าเฉินจื่ออานเพิ่งได้รับการปล่อยตัวออกมา

ตลอดช่วงที่ผ่านมา ครอบครัวนี้ช่วยเหลือเขามาตลอด คราวนี้ เขาคิดว่าเขาควรจะช่วยจัดการปัญหาเรื่องนี้ให้เฉินจื่ออานบ้าง

ดังนั้น หลังจากคิดได้แบบนั้นแล้ว เขาก็เดินทางมาที่อำเภอเฟิงหนานด้วยตัวเอง

เพราะเขาทำการค้าขายอยู่ในตำบล เขากลัวว่าจะถูกจำหน้าได้ ดังนั้นเขาจึงใช้เงินจ้าฃขอทานมาแต่งตัวให้ใหม่เพื่อไปสืบเรื่องที่ร้านขายของชำหลี่หรง แต่ใครจะไปรู้ ว่าคนที่นั่นระมัดระวังตัวกันมาก

ขอทานคนนั้นไม่รู้ไปทำอย่างไรถึงถูกจับได้ และถูกคนงานในร้านขายของชำหลี่หรงทุบตีจนเจ็บหนัก ตอนนี้เขายังนอนอยู่ในร้านยาฉืออานในอำเภอเฟิงหนาน

หลังจากเกิดเหตุการณ์นั้น เถ้าแก่จางก็เริ่มระมัดระวังตัวมากขึ้น หลายวันมานี้เขาพักอยู่ใน อำเภอเฟิงหนาน พยายามสอบถามอยู่นานกว่าจะรู้ว่า ที่แท้แล้วหลี่หรงเป็นหัวหน้าพรรคที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวง

ที่ผ่านมา เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ทางการปวดหัวมาตลอด แค่ไม่รู้ว่าทำไม? ปีนี้หลี่หรงถึงได้เปลี่ยนใจมาทำอาชีพสุจริต

เขาไม่เพียงแต่ยุบพรรคของเขาเท่านั้น แต่เขายังเริ่มต้นทำการค้าขายอีกด้วย

โดยเน้นที่การค้าขายของชำ ราคาถูกมาก และยังถูกกว่าร้านค้าของตระกูลจวงในเมืองหลวง ในตอนแรกทุกคนล้วนแต่คิดว่า เขาขายของในราคาถูกแบบนี้เพราะสินค้าของเขาไม่มีคุณภาพ

แต่ว่า หลังจากใช้ได้สักพัก ก็พบว่าคุณภาพของสินค้าเขาไม่มีปัญหาเลย เรื่องนี้สำหรับลูกค้าแล้ว เป็นเรื่องที่ดีมาก แต่สำหรับคนที่ค้าขายเหมือนกัน กลับเป็นเรื่องที่น่าปวดหัวมาก

ทุกคนรู้ดีว่าเขากำลังค้าขายอย่างขาดทุนไม่ได้กำไร อีกทั้งยังสร้างความวุ่นวายต่อการค้าขาย แต่ทางการไม่สนใจ ทางการบอกว่า ขอแค่หลี่หรงไม่ทำเรื่องผิดกฎหมาย พวกเขาก็จะไม่ทำการลงโทษใดๆ ทั้งนั้น

เพราะแบบนี้ แค่ช่วงเวลาไม่กี่เดือน ร้านขายของชำหลี่หรงจึงพัฒนาขึ้นจากหนึ่งร้านเป็นสิบร้าน จากนั้นก็เปิดจนทั่วเมืองหย่งอาน และข้ามมาที่อำเภอเฟิงหนาน

ที่อำเภอเฟิงหนาน หลังจากที่เปิดร้านก็เกือบจะผูกขาดตลาดทั้งหมด จนตอนนี้ แม้แต่ร้านค้าของตระกูลจวงก็แทบขายอะไรไม่ออกแล้ว

มิน่าล่ะ ก่อนหน้านี้จวงลี่จ้งถึงได้ยื่นข้อเสนอแบบนั้นออกมา ดังนั้น อีกเหตุผลหนึ่งที่เขาอยากสร้างโรงงานในเมืองหลวงก็เพื่อลดต้นทุนการขนส่งสินะ เมืองหลวงเป็นศูนย์กลางการค้าของยุคก่อนราชวงศ์ถัง เขาต้องการทำให้ตลาดในเมืองหลวงคงที่ก่อน?

“แล้วเรื่องที่หลี่หรงเปลี่ยนมาทำการค้าขายสุจริต ไม่มีใครคิดว่าแปลกเลยหรือ” เฉินจื่ออานถาม

“น่าจะมี แต่ทุกคนไม่อยากเข้าไปยุ่ง เพราะว่า สำหรับทางการแล้ว การกำจัดหัวหน้าพรรคที่ไม่ดีคนหนึ่งได้ พวกเขาจะได้ความดีความชอบมากกว่าไม่ใช่หรือ?”

“แต่เห็นได้ชัดว่าคนนี้ไม่ได้หวังดีจริงๆ!” เฉินจื่ออานกล่าว

ใช่ แต่จะให้ทำอย่างไรได้ ทางการปราบปรามการทุจริต แต่ก็ยังมีพวกที่ใช้วิธีอื่นเอาเปรียบคนอื่นอยู่ไม่ใช่หรือ? ไม่ว่าจะยุคปัจจุบันหรือยุคโบราณ ย่อมมีคนที่ชอบใช้ประโยชน์จากช่องโหว่นี้เสมอ

“ใครกันแน่นะ ที่อยู่เบื้องหลังหลี่หรงคนนี้?” ลู่ม่านพูดขึ้นมากะทันหัน

“ใช่ คนคนนี้จะต้องมีคนคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลังอย่างแน่นอน และอีกฝ่ายก็เป็นคนที่ฉลาดมาก แต่ไม่รู้ว่าจุดประสงค์ของพวกเขาคืออะไร”

“เรื่องนี้ข้ายังไม่รู้!” เถ้าแก่จางกล่าว “ข้าคิดว่าครั้งนี้ เราอาจจะขาดทุนอย่างหนักแล้วจริงๆ เราไม่มีหลักฐานใดๆ ที่จะพิสูจน์ว่าหลี่หรงขโมยสูตรของเรามา ถึงแม้จะไปร้องเรียนกับทางการก็ไม่มีใครสนใจ!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน