ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 245

ความคิดแรกของลู่ม่านเมื่อเข้าได้ไปในห้องเครื่องก็คือ ฮ่องเต้แห่งยุคโบราณองค์นี้ฟุ่มเฟือยเกินไปแล้วจริง ๆ!

ความคิดที่สองก็คือ ครัวนี้น่าจะใหญ่จนให้คนทั้งหมู่บ้านเข้ามาช่วยกันทำอาหารได้เลยมั้งเนี่ย?

ห้องเครื่องเสวยช่างสมกับเป็นห้องเครื่องเสวยจริง ๆ หรูหราอลังการจนสุดจะพรรณนา ชวนให้ผู้คนอิจฉาตาร้อนได้เลยจริงๆ! ติดแค่ว่า ต่อให้ครัวจะใหญ่สักแค่ไหน สำหรับคนเป็นพ่อครัวแม่ครัวแล้ว สุดท้ายพื้นที่ที่พวกเขาเหล่านั้นจะยืนได้ ว่าตามจริงก็แค่ไม่กี่ตารางนิ้วหน้าเตาเท่านั้นแหล่ะ

เช่นเดียวกับชีวิตคนเรา ไม่ว่าจะเป็นคนแบบไหนในตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ หลังจากตายไปก็ต้องไปนอนในโลงเหมือนกันหมด......

เอิ่ม...... คนตัวสูงอาจกินพื้นที่มากกว่าหน่อยนึงล่ะนะ

หลิวกงกงพาลู่ม่านเข้าไปส่งมอบให้ผู้ดูแลห้องเครื่องเสวยโดยตรง "นี่คือแม่นางลู่ ฝ่าบาททรงมีรับสั่งให้นางมาสอนพวกเจ้าทำอาหาร ยามเที่ยงวันนี้ พระองค์ทรงมีพระประสงค์ให้ใช้ฝีมือของนางทำอาหารจัดเลี้ยงแก่ท่านหญิงในวังหลังทุกท่าน ถ้านางต้องการอะไรเพิ่มเติม พวกเจ้าที่ทำงานในห้องเครื่องแห่งนี้จะต้องให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่!"

เมื่อผู้ดูแลคนนั้นได้ยินเช่นนี้ ก็พินิจมองลู่ม่านขึ้น ๆ ลง ๆ รอบหนึ่ง

ก็แค่ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ผอมกะหร่องคนเดียวไม่ใช่รึ? ถึงกับต้องให้มาสอนพวกเขาที่เป็นถึงพ่อครัวห้องเครื่องทำอาหารเชียว?

เขาเก็บแววตาที่ดูไม่ค่อยจะสบอารมณ์กลับ ก่อนจะมองไปที่หลิวกงกง “หากฝ่าบาททรงมีพระประสงค์จะเปลี่ยนรสชาติ ข้าสามารถสั่งให้ลูกมือไปคิดค้นศึกษาอาหารชนิดใหม่ได้ จะเชิญหญิงสาวชาวนาคนหนึ่งมาช่วยได้อย่างไรกัน?”

ลู่ม่านรู้สึกยอมไม่ได้ขึ้นมาทันที “ท่านผู้ดูแล ที่ท่านพูดแบบนี้ มันจะทำให้ข้าคิดว่าท่านกังวลเรื่องที่หญิงสาวชาวนาตัวเล็ก ๆ อย่างข้า อาจจะแย่งชิงความโดดเด่นของท่านไปไม่ใช่หรือ?”

ผู้ดูแลถูกพูดจี้ใจดำ ชั่วขณะนั้นสีหน้าพลันเปลี่ยนเป็นดำคล้ำทะมึนไปทันที “พูดจาเหลวไหลไร้สาระ ! ข้าต้องกลัวเจ้าด้วยรึ?”

“มิกล้า ๆ ข้าก็แค่มาที่นี่ตามคำสั่งของฝ่าบาทเท่านั้น ไม่กล้าพูดว่าจะมาสอนทุกท่านหรอก แค่หวังว่าทุกท่านจะให้ทางเดินกับผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างข้าสักหนทางหนึ่ง หากว่าอาหารวันนี้ทำออกมาได้ดี สำหรับข้าแล้ว อย่างมากสุดก็คือได้รับพระราชทานรางวัล แต่ถ้าทำได้ไม่ดี คนที่มีหน้าที่ช่วยทำอย่างคนในห้องเครื่อง ก็ไม่แน่ว่าอาจพลอยติดร่างแหให้ต้องลำบากไปด้วย......"

ทุกคนที่นี่ล้วนแล้วแต่เป็นคนฉลาด ลู่ม่านพูดมาขนาดนี้แล้ว มีหรือที่พวกเขาจะฟังไม่เข้าใจ?

ทุกคนต่างสมองตื่นรู้ขึ้นมาทันที จะปล่อยให้ความอิจฉาริษยาเป็นเหตุให้หัวตัวเองต้องหลุดจากบ่าไม่ได้เด็ดขาด

ผู้ดูแลคนเมื่อครู่ก็เข้าใจขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ในฐานะผู้ชาย เขาก็ยังคงปฏิเสธที่จะปล่อยวางศักดิ์ศรี เพียงแต่ระหว่างที่จัดเตรียมความพร้อมให้ลู่ม่าน ก็นับได้ว่าสุดท้ายเจ้าตัวก็ไม่แสดงท่าทีหยิ่งยโสเหมือนเมื่อครู่ออกมาแล้ว

พ่อครัวน้อยที่อายุได้ราว ๆ สิบกว่าปีถูกแบ่งให้มาทำหน้าที่เป็นลูกมือของลู่ม่าน ลู่ม่านกวาดตามองไปรอบ ๆ ห้องเครื่องรอบหนึ่ง ก็ไม่พบซีอิ๊วในห้องเครื่องอย่างที่คิด นางจึงหันไปถามพ่อครัวตัวน้อยคนนั้นด้วยเสียงแผ่วเบาว่า

“มีซีอิ๊วหรือไม่?”

พ่อครัวตัวน้อยชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดขึ้นว่า “แม่นางกำลังพูดถึงเครื่องปรุงชนิดใหม่ ที่เป็นสีดำ ๆ นั่นน่ะรึ?”

“ถูกต้อง เป็นเจ้าสิ่งนั้นนั่นล่ะ!”

“แต่ท่านผู้ดูแลบอกว่า เจ้าของแปลกประหลาดแบบนั้น ไม่อาจให้ฝ่าบาทเสวยได้นะขอรับ” พ่อครัวตัวน้อยมีท่าทางลำบากใจมาก

ลู่ม่าน "....." มิน่าล่ะ! นางกำลังคิดอยู่เลยว่าทำไมคนในห้องเครื่องถึงได้โง่กันขนาดนี้? ผ่านมาตั้งหลายเดือนแล้วแท้ ๆ ก็ยังศึกษาค้นคว้าพวกอาหารที่นางทำไม่ได้ซักที ที่แท้ก็เพราะไม่ยอมใช้ซีอิ๊วนี่เอง.....

“เจ้ามีหรือไม่?” ลู่ม่านไม่มีเวลาอธิบายอะไรแล้ว จึงเอ่ยปากถามขึ้นตรง ๆ

“ข้ามีอยู่ขวดหนึ่ง ตอนที่ผู้ดูแลให้ข้าดูรายการอาหารเหล่านั้น พอข้าดูจนหมดแล้ว ก็แอบไปซื้อมาคิดว่าจะลองใช้ดู แต่ผู้ดูแลไม่อนุญาต เลยไม่เคยได้ใช้.....”

“ให้เจ้าดูอย่างนั้นรึ?” ลู่ม่านยิ่งแปลกใจเข้าไปใหญ่ กลายเป็นว่ารายการอาหารพวกนั้น ถึงกับถูกส่งให้พ่อครัวตัวน้อยคนนี้ดูแค่คนเดียว

พ่อครัวตัวน้อยรีบร้อนอธิบายด้วยท่าทางรู้สึกผิดว่า "เป็นเพราะข้าโง่เกินไป ไม่อาจทำออกมาได้ตรงตามรสมือของแม่นาง"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน