ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 253

บ่ายวันนี้ ขณะที่ลู่ม่านกำลังเตรียมตัวจะออกไปซื้ออาหารสด ก็ได้ยินเสียงดังมาจากข้างนอก

หลังจากฟังอย่างละเอียด ก็พบว่าเป็นสาวใช้ข้างบ้านคนนั้นอีกแล้ว ช่างแปลกเสียจริง สาวใช้คนนี้ถ้าไม่หาเรื่องทะเลาะกับชาวบ้านชาวช่องเขาทุกวัน ดูท่าพระอาทิตย์คงจะขึ้นทางทิศตะวันตกแน่ ๆ

ท่าทีของลู่ม่านที่มีต่อพฤติกรรมของนางคือ ขอแค่ไม่ได้มาหาเรื่องตัวเอง ลู่ม่านก็จะไม่ไปสนใจนาง

ใครจะรู้ว่าพอเปิดประตูออกไป กลับพบว่าเป็นหน้าประตูบ้านนางอีกแล้ว

มีรถม้าซึ่งมีลักษณะไม่เป็นจุดสนใจนักคันหนึ่งจอดอยู่ที่นั่น

สาวใช้คนนั้นยังคงโวยวายด้วยเหตุผลที่ว่า มันส่งผลกระทบต่อฮวงจุ้ยของบ้านนาง ลู่ม่านกวาดตามองแวบหนึ่ง ก็มองออกได้ทันทีว่าคนบนรถม้านั้นเป็นคนของจวนกั๋วกง ครั้งก่อนตอนที่อยู่ในอุทยานหลวง ก็เห็นนางตามอยู่ด้านหลังของฮูหยินกั๋วกง

ขณะที่รีบร้อนจะเตรียมตัวทักทาย คนผู้นั้นก็คว้ามือของลู่ม่านเอาไว้อย่างรวดเร็ว

“แม่นางลู่ ฮูหยินบ้านข้าได้รายการอาหารของเจ้าไปเมื่อไม่กี่วันก่อน หลังจากกลับไปลองทำดูแล้ว ปรากฏว่าท่านกั๋วกงชอบมาก หลายวันมานี้ท่านแข็งแรงกระปรี้กระเปร่าขึ้นไม่น้อย ฮูหยินกล่าวว่าเพื่อจะแสดงความขอบคุณ จึงอยากจะเชิญเจ้าไปร่วมงานเลี้ยงที่บ้านช่วงเที่ยงของวันพรุ่งนี้”

“ฮูหยินเกรงใจเกินไปแล้วเจ้าค่ะ!” ลู่ม่านตอบรับไปตามสถานการณ์

“ไม่หรอก นี่คือสิ่งที่สมควรแล้ว” พูดจบ นางก็เหลือบมองสาวใช้ที่ส่งเสียงดังเอะอะอยู่ข้าง ๆ แวบหนึ่ง ก่อนจะขมวดคิ้วมุ่นอย่างอดไม่ได้ “ได้ยินมาว่าแม่นางลู่ซื้อบ้านใหม่ เดิมทีคิดว่าที่บริเวณนี้ก็เป็นย่านบ้านเรือนที่สะอาดสะอ้านผู้คนมีความรู้ แต่นี่มันอะไรกัน? มีพวกปากยื่นปากยาวไม่ต่างจากอีกามาส่งเสียงดังหนวกหูแบบนี้ด้วยรึ?”

คนในจวนคนใหญ่คนโตล้วนไม่ธรรมดา จะด่าคนทั้งทียังไม่มีคำพูดหยาบคายหลุดรอด

ลู่ม่านแทบอดใจไม่ไหว อยากจะยกนิ้วโป้งขึ้นกดไลค์ให้แม่นมท่านนี้จริง ๆ!

สีหน้าของสาวใช้คนนั้นกลายเป็นสีเขียวคล้ำไปแล้ว “ยายเฒ่า เจ้าด่าใครว่าอีกาน่ะ?”

“ใครตอบรับ ก็คนนั้นแหล่ะ” แม่นมผู้นั้นไม่ได้มีท่าทีตื่นตระหนกเลยแม้แต่น้อย ต่อให้นางนั่งรถม้าธรรมดา ๆ ไม่มีอะไรโดดเด่น แต่บนร่างของนางก็ยังแผ่รังสีของคนมีชั้นเชิงออกมาเต็มเปี่ยม

สาวใช้คนนั้นท่าทางคุมอารมณ์ไม่อยู่ พุ่งเข้ามาตั้งท่าจะลงมือทำร้ายคน

คนขับรถที่อยู่ข้างหลังเข้ามาคว้ามือนางทันที แล้วพูดว่า "บังอาจ! คนของจวนกั๋วกงให้เจ้ามาดูหมิ่นตามใจชอบได้รึ?"

เมื่อได้ยินคำว่าจวนกั๋วกง สาวใช้คนนั้นก็ถึงกับตกตะลึง แต่เพียงไม่นานก็พูดจาเล่นลิ้นขึ้นว่า “โกหก จวนกั๋วกงจะทำตัวราบเรียบขนาดนี้ได้อย่างไรกัน?”

ทันทีที่สิ้นเสียง คนขับรถม้าก็ดึงป้ายห้อยเอวของจวนกั๋วกงออกมาแสดง

ในที่สุดสาวใช้ก็ต้องยอมแพ้ วินาทีต่อมานางก็ผล็อยหลับร่วงลงไปกับพื้น ถึงกับเป็นลมไปเลย

คนที่อยู่ตรงนั้นต่างก็เป็นคนฉลาด ใครบ้างไม่รู้ว่าเก้าในสิบส่วนของนางเป็นการแสร้งทำเป็นหมดสติ? แต่ทุกคนคร้านจะสนใจเปิดโปงลูกไม้ง่อย ๆ ของนาง จึงปล่อยให้นางนอนแผ่หราอยู่บนพื้นต่อไปทั้งอย่างนั้น แม่นมพูดกับลู่ม่านอีกสองสามประโยค ก่อนจะหันหลังขึ้นรถม้าไป

ตอนที่รถเริ่มออกตัว แม่นมท่านนั้นก็จงใจพูดขึ้นว่า “ฮูหยินชอบแม่นางมาก หากว่าวันใดแม่นางไปเจอพวกแมลงวันที่ตาไร้แววมาตามตอแยให้รำคาญใจ ก็เชิญพูดออกมาได้เต็มที่ แม้ว่าจวนกั๋วกงของเราจะไม่ยิ่งใหญ่เท่าเมื่อก่อน แต่ถ้าแค่ตีแมลงวันตายสักตัวสองตัวก็นับว่าไม่ครณามือนัก"

นี่คือการส่งสัญญาณสนับสนุนลู่ม่าน ดูไปแล้วเหมือนว่าจะเป็นความต้องการของฮูหยินกั๋วกงด้วย

ลู่ม่านกล่าวขอบคุณพวกเขาอย่างจริงใจ มองส่งพวกเขาจากไปจนลับสายตา

รอจนพวกเขากลับไปหมดแล้ว ลู่ม่านก็ออกไปซื้อผักหญ้าอาหารสดด้วยตัวเอง

ตอนที่เดินออกจากตรอก ลู่ม่านก็หันหลังกลับไปโดยไม่รู้ตัว สาวใช้คนที่แสร้งทำเป็นเป็นลมหมดสติเมื่อครู่นี้ กลัวลนลานจนรีบเผ่นหนีไปแล้ว

อย่างนี้ก็ดี ดูเหมือนว่าจากนี้ นางคงจะโล่งหูไปอีกนาน

พลบค่ำ ลู่ม่านก็บอกเรื่องนี้ให้เฉินจื่ออานฟัง เฉินจื่ออานพูดด้วยท่าทีลำบากใจเล็กน้อยว่า “เสี่ยวม่าน อาจารย์โจวแนะนำข้าให้รู้จักกับเพื่อนร่วมงานในหน่วยราชการคนหนึ่ง เมื่อไม่กี่วันก่อนข้าไปที่กรมเพื่อทำการขอนัดหมายไว้แล้ว กำหนดนัดพบกันคือวันพรุ่งนี้”

มีเรื่องแบบนี้ด้วยสินะ เฉินจื่ออานพูดขึ้นอีกครั้งว่า “ข้ากังวลว่าจะไม่ได้พบ ดังนั้นก็เลยไม่เคยพูด แต่ใครจะรู้ล่ะว่าหลังจากที่เจ้าไปซื้ออาหารวันนี้ จู่ ๆ คนผู้นั้นก็มาหาถึงที่นี่เลย”

“ถ้าอย่างนั้นก็เอาเถอะ พรุ่งนี้เราแยกกันไปทำธุระของใครของมัน” ลู่ม่านพูดด้วยรอยยิ้ม

วันรุ่งขึ้น เฉินจื่ออานออกบ้านไปก่อน ลู่ม่านหลังจากทำงานบ้านเสร็จหมดแล้ว ถึงค่อยไปเปลี่ยนเสื้อผ้า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน