ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 255

ตอนที่ออกจากจวนกั๋วกง จวงลี่จ้งก็เตรียมตัวจะกลับไปพอดี พอดีว่าเป็นทางเดียวกัน พวกเขาจึงกลับไปพร้อมกัน

ลู่ม่านนั่งอยู่บนเกี้ยว ในขณะที่จวงลี่จ้งขี่ม้าอยู่ข้าง ๆ

ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ค่อนข้างคึกคักในตอนบ่าย รถม้าแล่นผ่านใจกลางเมืองตรงไปตลอดทาง ระหว่างการเดินทาง ทั้งสองคนแทบจะไม่ได้สนทนาปราศรัยอะไรกันเลย

เห็นว่าใกล้จะถึงที่หมายแล้ว ลู่ม่านก็ได้ยินน้ำเสียงใสกระจ่างดังแว่วมา

“พี่อาจ้ง” ลู่ม่านหันไปทำตาปริบ ๆ มองดูจวงลี่จ้งที่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่บนหลังม้า

แต่เสียงนั้นกลับใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ "คารวะท่านพี่อาจ้งเจ้าค่ะ"

“หว่านถิงจวิ้นจู่!” จวงลี่จ้งลงจากหลังม้าก่อนจะโค้งกายรับการคำนับ ที่แท้ก็คือหลี่หว่านถิง ลู่ม่านเกิดลังเลว่าควรจะออกไปข้างนอกดีมั้ย

“พี่อาจ้ง ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะเจ้าคะ?” หลี่หว่านถิงเอ่ยถาม “เมื่อไม่กี่วันก่อน ได้ยินพี่ชายบอกว่าช่วงนี้ท่านยุ่งมาก กระทั่งวันนี้พี่ชายจัดงานเลี้ยง ท่านก็ยังไม่มีเวลาไปร่วมเลย”

"อื้ม ข้าไม่ว่างเลยจริง ๆ"

“พี่โกหกอีกแล้ว!” หลี่หว่านถิงหัวเราะพลางพูดว่า “ตั้งแต่เล็กจนโต พี่มักชอบพูดว่าพี่ยุ่งมาก แต่ข้าจำได้ว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งที่พี่บอกว่ายุ่ง แต่ผลคือพี่พาคนไปเที่ยวเล่นเสียอย่างนั้น!”

พูดจบ ก็หันไปมองเกี้ยวที่อยู่ข้าง ๆ "ครั้งนี้คนที่อยู่ในเกี้ยวคือใครกันนะ?" หลี่หว่านถิงเอื้อมมือออกไปเปิดม่านที่บังหน้าเกี้ยว

กระอักกระอ่วนเป็นบ้า ถ้าลู่ม่านรู้ว่าจะเป็นอย่างนี้ ไม่สู้ให้นางออกมาเองตรง ๆ ยังจะดีซะกว่า

“จวิ้นจู่!” ลู่ม่านลุกขึ้นเดินออกไปทำความเคารพ

“พี่ลู่ ทำไมถึงเป็นพี่ไปได้ล่ะ?” หลี่หว่านถิงรู้สึกประหลาดใจมาก

“อ้อ เมื่อครู่ฮูหยินกั๋วกงเชิญข้าไปงานเลี้ยงที่จวน บังเอิญได้พบกับคุณชายจวงที่ไปทำธุระที่นั่นเข้าพอดี....” ลู่ม่านจงใจเน้นคำว่า “ธุระ” สองคำนี้อย่างจริงจังมาก ด้านหนึ่งก็เพื่อจะชี้แจงถึงความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาสองคน

อีกด้านหนึ่ง ก็เพื่อจะสื่อความหมายโดยนัยว่าจวงลี่จ้ง ข้าช่วยเจ้าแล้วนะ

ตอนนี้เองหลี่หว่านถิงค่อยพยักหน้ารับ "เป็นอย่างนี้นี่เอง เช่นนั้นเป็นความผิดของข้าเองที่ไปปรักปรำพี่อาจ้ง"

จวงลี่จ้งยังคงทำสีหน้าเย็นชาไม่เปลี่ยน "ข้ายังมีธุระที่ต้องไปทำ .... "

ลู่ม่านรีบรับคำทันที “ข้าก็มีธุระที่ต้องไปทำเช่นกัน...”

“ข้าไปด้วย!” หลี่หว่านถิงพูดพลางหัวเราะ

ลู่ม่าน "....."

แม้ว่าหลี่หว่านถิงคนนี้จะเป็นคนที่นิสัยไม่เลว แต่เพราะแม่ของนางไม่ใช่คนใจดีมีเมตตาอะไร ถ้านางรู้ว่าลูกสาวมาอยู่กับตัวเอง น่ากลัวว่าจะตามราวีไม่เลิกอีกแน่ ดังนั้น ลู่ม่านจึงไม่อยากมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องใด ๆ กับหลี่หว่านถิงเลยจริง ๆ

“นี่เกรงว่าจะ.…” ลู่ม่านยังพูดไม่ทันจบ หลี่หว่านถิงก็เกาะแขนของลู่ม่านเรียบร้อยแล้ว

“พี่ลู่ วางใจเถอะ ข้าเป็นคนสงบเงียบมากเลย ข้าขอแค่ตามหลังพวกพี่ ๆ ไปก็พอ” หลี่หว่านถิงเป็นคนที่ตีสนิทคนอื่นได้เก่งมาก นิสัยก็ดี เป็นการยากที่จะปฏิเสธนางจริง ๆ

ลู่ม่านหันไปขยิบตาส่งสัญญาณให้จวงลี่จ้งอย่างเอาเป็นเอาตาย จวงลี่จ้งเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “เช่นนั้นพวกเจ้าก็ไปเที่ยวเล่นกันเถอะ ข้าขอตัวกลับก่อนแล้ว”

ลู่ม่าน "...." ไม่ใช่ว่าควรจะช่วยนางให้หลุดพ้นจากการตามตื๊อนี่ก่อนเรอะ!? เขาถึงกับชิ่งหนีไปคนเดียวเนี่ยนะ?

แม้ว่าหลี่หว่านถิงจะมีท่าทางผิดหวังเล็กน้อย แต่ก็ยังมองส่งจวงลี่จ้งจากไปอย่างสงบเสงี่ยมเรียบร้อย จากนั้นนางจึงหันมาส่งยิ้มให้ลู่หม่านด้วยความจริงใจเป็นพิเศษ “พี่ลู่ มีโรงน้ำชาอยู่ข้างหน้า ไม่สู้ข้าเชิญพี่ไปดื่มชาสักหน่อยดีหรือไม่?”

ลู่ม่านไม่อยากไปจริง ๆ "เปลี่ยนเป็นวันอื่น..."

“ข้ารู้ พรุ่งนี้พี่ก็จะกลับไปที่หมู่บ้านไป่ฮัวแล้ว พี่ลู่…”

ที่แท้กระทั่งเรื่องนี้นางก็ยังรู้ด้วย ลู่ม่านจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องพยักหน้าแล้ว “ถ้าอย่างนั้นข้าเชิญเจ้าเองดีกว่า”

หลี่หว่านถิงไม่ได้มีแนวคิดลึกซึ้งเรื่องคำว่าเลี้ยงข้าวหรือเครื่องดื่มเท่าไหร่นัก จะว่าไป สำหรับนางแล้ว แค่ดื่มชาก็ไม่ใช่ของแพงอะไรมากมาย จึงตอบตกลงทันที

โรงน้ำชาที่สูงที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองหย่งอาน เมื่อนั่งที่ชั้นบนจะสามารถมองเห็นได้ราว ๆ ครึ่งหนึ่งของเมืองหย่งอาน ทั้งยังสามารถเห็นผังของพระราชวังได้อีกด้วย ด้วยความที่มาได้ตรงช่วงเวลาที่เหมาะสม ได้จุดที่เหมาะสม ที่นี่เป็นสถานที่ที่มีผู้คนสัญจรไปมาเป็นจำนวนมาก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน