ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 258

หลังจากที่จัดการที่ทางให้ครอบครัวนั้นเสร็จ ลู่ม่านก็นึกขึ้นมาได้ว่าตอนนี้พวกเขาไม่มีเงินแล้ว เพราะจ่ายค่าจ้างช่วงหกเดือนหลังจากนี้ให้พวกเขาไปหมดแล้ว ค่าครองชีพในเมืองหลวงแห่งนี้ ย่อมสูงกว่าที่หมู่บ้านไป่ฮัวอยู่บ้าง อย่างไรมาตรฐานการครองชีพก็ต้องสูงกว่าเป็นธรรมดา

ลู่ม่านให้ค่าจ้างพวกเขา โดยยึดตามมาตรฐานแต่ละเดือนจะได้คนละห้าร้อยเหวิน เดิมที พวกเขาเป็นคนรับใช้ที่ติดสัญญาแบบขายขาด ไม่ต้องการอะไรมากมาย แต่เพราะพวกลู่ม่านไม่ได้อยู่ที่นี่ พวกเขาจึงต้องดูแลเรื่องอาหารการกินของตัวเองหมด ลู่ม่านคิดส่วนนี้รวมเข้าไปแล้ว จึงตัดสินใจเพิ่มให้อีกหน่อย

เสี่ยวหู่ยังเล็ก จึงไม่ได้ให้ แต่ลู่ม่านไม่ได้ใช้เหตุผลเรื่องที่พวกเขาต้องเลี้ยงลูก มาหักเงินเดือนของพวกเขา

สองสามีภรรยาคุกเข่าลงด้วยความซาบซึ้ง เจ้านายคนก่อนของพวกเจ้าเห็นว่าเป็นสัญญาขายขาด จึงให้เงินพวกเขาแค่ร้อยเหวิน ทั้งยังทุบตีด่าทอตามอำเภอใจ ด้วยความที่พวกเขาเป็นคนที่ไม่ชอบพูดถึงคนอื่นในด้านร้าย พอลู่ม่านถาม ถึงได้บอกว่าก็ดีไม่น้อย

“ขอแค่พวกเจ้าทำงานให้ดีก็พอแล้ว!” ลู่ม่านพูด “ในวันปกติ พวกเจ้าไปทำความสะอาดโถงด้านหน้าทุก ๆ สามวันก็พอ ดอกไม้ในสนามต้องดูแลให้ดี แต่ข้าวของที่อยู่ในเรือนหลักอย่าไปแตะต้องตามอำเภอใจ เรือนพักของพวกเจ้าให้ถือว่าเป็นบ้านของพวกเจ้าเอง อยากวางของตรงไหนก็ตามสบาย ข้าเห็นว่าสวนหลังบ้านยังมีที่ว่างอยู่ พวกเจ้าจะปลูกผักอะไรก็ได้ตามเห็นสมควร”

หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ลู่ม่านก็พูดขึ้นอีกครั้งว่า “สำหรับเถียนโหย่วเต๋อ ถ้าเจ้าว่างก็สามารถออกไปหางานอื่นทำได้ เงินเหล่านั้นเป็นของพวกเจ้าเอง พวกเจ้าสามารถเก็บมันไว้เองได้ สรุปง่าย ๆ ประโยคเดียวคือ ขอแค่พวกเจ้าดูแลบ้านให้ดี อย่างอื่นจะออกไปทำอะไรก็ได้”

เงื่อนไขนี้เป็นอะไรที่ผ่อนคลายสบายมากจริง ๆ ที่แท้โลกใบนี้ก็มีเรื่องดี ๆ แบบนี้อยู่ด้วย แม้ว่าพวกเขาจะขายตัวเองไปเป็นทาส แต่พวกเขากลับรู้สึกเหมือนว่าจู่ ๆ ตัวเองก็ได้หวนกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมที่บ้านเกิดอย่างไรอย่างนั้น

หลังจากขอบคุณพวกเขาอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ลู่ม่านก็บอกให้พวกเขาออกไป ยังดีที่พวกเขาทำความสะอาดห้องไว้สองห้องก่อนจะออกมา ทั้งยังมีพวกเครื่องนอนหมอนผ้าห่มพร้อม ให้พวกเขาทำความสะอาดกันเองก็ใช้ได้แล้ว

ลู่ม่านครุ่นคิดอีกครู่หนึ่ง แล้วจึงให้พวกข้าว แป้ง น้ำมัน และเกลือที่ซื้อมาก่อนหน้านี้กับพวกเขา มีห้องครัวอยู่ในส่วนลานหลังบ้าน พวกเขาสามารถทำอาหารกินกันเองได้ เพราะถึงอย่างไรถ้าพวกเขากลับไป ของพวกนี้วางไว้ที่นี่เฉย ๆ ก็คงจะหมดอายุอยู่ดี

ระหว่างที่กำลังยุ่ง ๆ อยู่ ก็มีคนมาเคาะประตู เป็นจวงลี่จ้งที่มาเยือน

หลังจากเฉินจื่ออานเปิดประตูถึงรู้ว่า ที่แท้จวงลี่จ้งได้ส่งคนดูแลบ้านมาให้กลุ่มหนึ่ง

มองแวบแรกก็รู้เลยว่าเป็นคนที่จวงลี่จ้งฝึกฝนมาเอง ยามที่คนดูแลบ้านนั้นเผชิญหน้ากับพวกเขา ก็ไม่ถึงกับถ่อมตนเกินไป แต่ก็ไม่เย่อหยิ่งทะนงตน ดูมีเสน่ห์ที่ทำให้คนเห็นรู้สึกชื่นชอบอย่างมาก จวงลี่จ้งพูดว่า "บ้านหลังนี้ อย่างไรก็หาคนที่เชื่อถือได้มาคอยดูแลให้น่าจะดีกว่า"

ระหว่างที่กำลังพูดอยู่ เถียนโหย่วเต๋อสามคนพ่อแม่ลูกก็ออกมาจากเรือนด้านหลัง

เมื่อเห็นการจู่โจมระดับนี้ก็ตกตะลึงจนตาค้างกันไปเลย เดิมทียังคิดอยู่ว่าพวกตนเองคงจะถูกแทนที่แน่แล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าลู่ม่านจะปฏิเสธไป "ข้าหาคนได้แล้ว คงได้แต่ต้องปฏิเสธความหวังดีของคุณชายจวงแล้วล่ะ"

จวงลี่จ้งปรายตามองไปที่ครอบครัวสามคนนั้นแวบหนึ่ง พวกเขาดูแล้วไม่เหมือนคนเจ้าเล่ห์อะไร ติดแค่ว่าดูขี้ขลาดไปหน่อย

ครอบครัวเศรษฐีมีเงินส่วนใหญ่ ไม่ค่อยชอบคนรับใช้ที่มีนิสัยขี้ขลาดนัก มันส่งผลเสียต่ออำนาจบารมีของพวกเขา

ราวกับว่ามองเห็นถึงความคิดของจวงลี่จ้ง ลู่ม่านพูดว่า “พวกเราเองก็ไม่ใช่ครอบครัวเศรษฐีมีเงินอะไร อีกทั้งข้าคิดว่าสามคนพ่อแม่ลูกครอบครัวนี้ดูแล้วไม่เลว ก็เป็นพวกเขาเถอะนะ”

เมื่อจวงลี่จ้งเห็นว่านางตัดสินใจแล้ว ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก

“เมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าก็ขอให้พวกเจ้าเดินทางอย่างราบรื่น! ระหว่างทางข้าได้สั่งให้คนคอยอำนวยความสะดวกให้แล้ว พวกเจ้าค่อย ๆ เดินทางเถอะ ไม่ต้องรีบร้อนอะไรขนาดนั้น” พูดจบ จวงลี่จ้งก็ทำท่าว่าจะกลับไปแล้ว

ลู่ม่านเหมือนว่าจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ จึงเรียกเขาไว้อีกครั้ง “คุณชายจวง แม้ว่าข้าไม่อาจรับความหวังดีของเจ้าได้ แต่ข้ามีเรื่องหนึ่งที่รู้สึกว่าต้องการความช่วยเหลือจากเจ้าจริง ๆ”

“เรื่องอะไรรึ?” จวงลี่จ้งถาม

ลู่ม่านเหลือบมองไปทางสามคนพ่อแม่ลูกแวบหนึ่ง ก่อนจะเชิญจวงลี่จ้งเข้าไปในบ้าน

ไม่นานหลังจากนั้น จวงลี่จ้งก็กลับไป

ส่วนลู่ม่านกับเฉินจื่ออานก็ขึ้นรถม้าไปแล้ว รถม้าคันนี้เป็นจวงลี่จ้งเตรียมไว้ให้พวกเขา มีขนาดใหญ่กว่ารถม้าของบ้านพวกเขาคันนั้น ใช้ในการเดินทางได้มั่นคงแข็งแรงดีมาก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน