ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 372

สรุปบท บทที่ 372 แก้แค้น: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน

บทที่ 372 แก้แค้น – ตอนที่ต้องอ่านของ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน

ตอนนี้ของ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดย ฝูเชิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายประวัติศาสตร์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 372 แก้แค้น จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

หรูเฟิงเหมือนรวดเร็วราวกับลม รีบตามมาอย่างเงียบๆ ยังคงทำสีหน้าเรียบนิ่งแล้วเอ่ยถาม “นายหญิงจะไปไหนเจ้าคะ”

ลู่ม่านตบหน้าผาก แล้วรีบหาข้ออ้าง “อ๋อ นี่ก็ใกล้จะเที่ยงแล้ว ข้าจะไปทำอาหาร!”

“หรูเฟิงจะไปด้วยเจ้าค่ะ!”

ลู่ม่าน “...”

ลู่ม่านจึงได้แต่ไปทำอาหาร ลู่ม่านยืนหั่นผักหรูเฟิงก็ยืนมองอยู่ด้านข้าง ลู่ม่านกำลังล้างผัก หรูเฟิงก็ยืนดูอยู่ด้านข้าง ลู่ม่านกำลังจุดไฟ หรูเฟิงยังคงยืนดูอยู่เช่นเดิม

ในที่สุด ลู่ม่านก็หมดความอดทน!

“ทำไมข้าถึงรู้สึกว่าตัวเองไม่ใช่แค่เหมือนเป็นนักโทษเท่านั้น แต่ยังเหมือนสาวใช้ด้วย? หรูเฟิง เจ้าคิดว่าอย่างไร?”

หรูเฟิงขมวดคิ้ว ก่อนจะวางดาบในมือลง “หรูเฟิงช่วยทำอะไรได้บ้างเจ้าคะ”

“ยังพอจะสอนได้!” ลู่ม่านรีบยื่นมีดทำครัวในมือให้นาง “มานี่ ช่วยข้าหั่นผัก!”

หรูเฟิงมองมีดทำครัวในมือ แล้วก้มหน้าลงเริ่มหั่นผักอย่างจริงจัง ลู่ม่านหาเก้าอี้ตัวหนึ่งมานั่งแล้วเริ่มสั่งการ วิธีการหั่นผักของอาหารแต่ละจานนั้นควรจะหั่นอย่างไร ล้วนแตกต่างกัน

หรูเฟิงลำบากใจแล้วจริงๆ เพราะสำหรับคนที่เคยแต่จับดาบฟาดฟันมาตั้งแต่เด็กนั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ยากจริงๆ

ในที่สุดลู่ม่านก็พบจุดสมดุล จากนั้นก็บอกให้หรูเฟิงทำอาหาร หรูเฟิงโยนผักลงหม้อโดยไม่ได้ใส่น้ำมันลงไปก่อน และยังเป็นผักทั้งหมด...

ลู่ม่านรีบเอ่ยห้าม และบอกขั้นตอนการทำอาหารกับนางอีกครั้ง นางตกใจมาก “เหตุใดต้องทำเช่นนี้”

“นี่คือขั้นตอน!” หลังจากที่ลู่ม่านพูดจบ นางก็มานั่งดูอยู่ด้านข้างตามเดิม

หรูเฟิงจึงได้แต่เริ่มทำตามขั้นตอนที่ลู่ม่านบอกอีกครั้ง สามนาทีต่อมา จานที่มีอาหารสีดำก็ออกมา ไม่ใช่แค่อาหารจานนั้น แต่ทั้งห้องครัวก็เต็มไปด้วยควันดำ จนลู่ม่านแทบจะสำลักตาย

“นายหญิง ข้าขอโทษ!” นางรีบพูด

ลู่ม่านปัดควันในครัวที่เกือบจะเผาห้องครัว แล้วพูดยิ้มๆ “ข้าได้ยินมาว่าเมื่อก่อนข้ายังทำได้ไม่เท่ากับเจ้าเลย ครั้งแรกที่ข้าเข้าครัวของบ้านใหญ่ ข้าเกือบจะเผาห้องครัวไปแล้ว ที่จริงเจ้าเก่งมากแล้ว!”

หรูเฟิงเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ก่อนจะเห็นลู่ม่านเริ่มทำอาหารอีกครั้ง

ห้านาทีต่อมา หรูเฟิงมองดูหมูตุ๋นที่เพิ่งทำเสร็จ บนใบหน้าเต็มไปด้วยความนับถือ

ลู่ม่านภาคภูมิใจมาก นางหยิบตะเกียบออกมาแล้วยื่นให้หรูเฟิง “ลองชิมดูไหม”

หรูเฟิงสูดหายใจเข้าลึก เดิมทีอยากจะปฏิเสธ แต่ถูกกลิ่นหอมนั้นดึงดูดใจ ดังนั้นจึงอดที่จะคีบเนื้อชิ้นหนึ่งขึ้นมา แล้วใส่เข้าไปในปากทันที วินาทีต่อมา ใบหน้าของนางก็อบอุ่นมาก

“นายหญิง ท่านเก่งมากจริงๆ ข้าไม่เคยกินเนื้อที่อร่อยขนาดนี้มาก่อนเลย!”

ลู่ม่านเลิกคิ้ว “แล้วเมื่อก่อนพวกเจ้ากินอะไรมาบ้าง”

หรูเฟิงนิ่งคิดอยู่สักพัก แล้วพูด “แม่ของข้าเสียไปตั้งแต่พวกข้ายังเด็ก ข้ากับหรูอวี่เติบโตขึ้นมาด้วยอาหารฝีมือท่านพ่อ ท่านพ่อของข้าทำอาหารก็แค่หั่นทุกอย่างเป็นชิ้น แล้วโยนทุกอย่างลงในหม้อเลย...”

ลู่ม่าน “...ในเมื่อเจ้ามาอยู่ที่บ้านของข้าแล้ว จากนี้ไปข้าจะสอนเจ้าทำอาหารเอง”

ดวงตาของหรูเฟิงเป็นประกาย “ได้จริงหรือเจ้าคะ?”

“แน่นอน! ขอแค่เจ้ากับหรูอวี่เก็บดาบของพวกเจ้าไว้ จากนี้ไปก็เหมือนกับเหอเย่ว ใช้ชีวิตเหมือนคนปกติทั่วไป!”

เดิมทีลู่ม่านคิดว่าหรูเฟิงจะต้องรับมือยากแน่ๆ แต่นางกลับตอบตกลงโดยไม่ลังเล

“ได้เจ้าค่ะ!”

“คำไหนคำนั้นนะ!” ลู่ม่านพูดยิ้มๆ

“เข้าใจแล้ว เจ้าไปบอกเหอเย่ว ให้หาทางไปในตำบล ไปหาคุณหนูมู่หรง!” พอพูดจบ รถม้าก็ออกไปแล้ว

เพราะมีรถม้า ทั้งสองจึงรีบไปที่ทุ่งนาอย่างรวดเร็ว

ทันทีที่พวกนางไปถึงที่นั่น ก็เห็นว่าทั้งสองฝ่ายกำลังจะต่อสู้กัน เจ้าของที่ดินหลิ่วพาลูกน้องมาด้วย และกำลังเผชิญหน้ากับเฉินจื่ออาน ชาวบ้านส่วนใหญ่ในหมู่บ้านที่จะเช่าที่นายังคงอยู่ข้างเฉินจื่ออาน

แต่ก็มีบางส่วน ที่ยังยืนอยู่ข้างเจ้าของที่ดินหลิ่ว

เจ้าของที่ดินหลิ่วตะโกนออกมา “ผู้เข้าใจสถานการณ์คือผู้เฉลียวฉลาด พวกเจ้าที่อยู่ข้างข้า ข้าสัญญาว่าจะคิดค่าเช่าให้สองส่วน ยังมีใครมาอีกไหม ถ้ามี ก็จะได้เหมือนกัน แต่ว่า ถ้าผ่านวันนี้ไป ถ้าพวกเจ้ามาหาข้า ข้าจะเพิ่มค่าเช่าให้เป็นห้าส่วน!”

เฉินจื่ออานขมวดคิ้ว แล้วมองไปที่กลุ่มคนที่เดินไปทางนั้น “พวกเจ้าเซ็นสัญญาเรียบร้อยแล้ว แน่ใจหรือว่าจะคิดกลับคำ?”

“ข้าขอโทษ!” มีคนเอ่ยพูดขอโทษออกมา

เจ้าของที่ดินหลิ่วดูพอใจมาก “เห็นหรือยัง พวกเจ้าคงยังไม่รู้สินะ ตอนนี้เขาไม่ใช่ซือหนงอีกต่อไปแล้ว เขาไม่มีสิทธิที่จะคิดค่าเช่าให้พวกเจ้าสองส่วนอีกแล้ว แทนที่จะลำบากไปกับเขา รีบยกเลิกสัญญาเช่าไปเถอะ ไม่อย่างนั้น ถ้าข้าทำอะไรลงไป ถึงตอนนั้น คนที่ลำบากก็จะเป็นพวกเจ้าเอง!"

“ข้าไม่ยกเลิกสัญญาเช่า!” จู่ๆ ก็มีเสียงเด็กตะโกนขึ้นมา เฉินจื่ออานมองตามเสียงนั้นไป แล้วเห็นเด็กชายที่เคยทำงานให้บ้านของเฉินจื่ออาน เขาถูกปู่ของเขาจูงมือไว้ ด้วยใบหน้าที่แน่วแน่

“ใช่แล้ว หลานชายของข้าพูดถูก พวกเราจะไม่ยกเลิกสัญญาเช่า!”

พอได้ยินเช่นนั้น เจ้าของที่ดินหลิ่วก็ยิ้มเยาะออกมา “ได้ พวกเจ้าจะไม่ยกเลิกสัญญาเช่าใช่ไหม” หลังจากพูดจบ เขาก็ขยิบตาให้ลูกน้องที่อยู่ข้างหลังเขา ลูกน้องที่ถือท่อนไม้อยู่ในมือก็ก้าวไปข้างหน้า แล้วฟาดท่อนไม้ไปทางปู่หลานทั้งสองคน

พวกเขาอยากจะเข้าไปห้ามพวกเขา แต่ท่อนไม้ในมืออีกฝ่ายมันไม่มีตา มีหลายคนที่เข้าไปช่วยแล้วได้รับบาดเจ็บ เฉินจื่ออานโกรธมาก "พวกเจ้ายังเห็นกฎหมายบ้านเมืองอยู่หรือไม่"

“กฎหมายบ้านเมือง?” เจ้าของที่ดินหลิ่วยิ้มเยาะ “ในหมู่บ้านหลิ่วซู่แห่งนี้ ข้าก็คือกฎหมาย!”

หลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็สั่งลูกน้องที่อยู่ข้างหลัง “ดูเหมือนว่า เฉินซือหนงจะไม่รู้ถึงอำนาจของข้าง เจ้ามาบอกให้เขารู้ที”

พอได้ยินคำพูดนี้ ลูกน้องที่อยู่ข้างหลังเขาก็ยกท่อนไม้ขึ้นมา แล้วฟาดใส่เฉินจื่ออานทันที

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน