บทที่ 56 เสียใจภายหลัง – ตอนที่ต้องอ่านของ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
ตอนนี้ของ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดย ฝูเชิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายประวัติศาสตร์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 56 เสียใจภายหลัง จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
หลังจากชิมแล้วไม่มีปัญหา ผู้ดูแลร้านช่ายกับลู่ม่านจึงตัดสินใจร่วมการค้ากัน หลังจากทำสัญญาเสร็จสิ้น ทั้งสองฝ่ายจึงทำข้อตกลงการจัดหา
เดิมทีผู้ดูแลร้านช่ายต้องการให้พวกลู่ม่านจัดหาสินค้าให้ทุกเดือน แต่ลู่ม่านไม่มีสวนผลไม้เป็นของตัวเอง ไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะจัดหาผลไม้ได้ต่อเนื่อง ดังนั้นจึงปฏิเสธ
เพียงบอกว่าถ้ามี ภัตตาคารเฟิ่งหลายจะได้เป็นเจ้าแรกอย่างแน่นอน
ผู้ดูแลร้านช่ายค่อนข้างพอใจกับสิ่งนี้ เรียกผู้ช่วยให้นำสองร้อยหกสิบเหวินของเมื่อวานมาให้ และจ่ายเงินมัดจำต่อเนื่องให้ลู่ม่านล่วงหน้าด้วย แล้วลู่ม่านกับเฉินจื่ออานก็ออกจากภัตตาคารเฟิ่งหลายไป
ไม่ได้ตรงกลับบ้านเลย ลู่ม่านเข็นเฉินจื่ออานไปยังร้านขายของชำของเถ้าแก่จางเมื่อครั้งก่อน
เมื่อเทียบกับประตูที่รกร้างไร้ผู้คนก่อนหน้านี้ ตอนนี้แตกต่างกันมาก
พวกลู่ม่านเพิ่งมาถึงทางแยก ก็เห็นประตูร้านของเถ้าแก่จางมีผู้คนมากมายแออัด ทั้งสองมองหน้ากันด้วยสีหน้ามีความสุข
ยังไม่ทันเข้าประตู ก็ได้ยินเถ้าแก่จางพูดอย่างขอโทษอยู่ข้างใน “ขอโทษด้วยๆ ผลไม้กวนขายหมดแล้ว วันนี้ข้าจะไปเติมของ ถ้ายังต้องการ พรุ่งนี้...พรุ่งนี้เช้ามีผลไม้กวนให้แน่นอน!”
หลังจากพูดคุยตกลงกัน ลูกค้ากลุ่มนั้นถึงได้ออกไป เถ้าแก่จางปาดเหงื่อ แล้วเหลือบไปเห็นลู่ม่านกับเฉินจื่ออานยืนยิ้มบางอยู่หน้าประตู
“อั๋ยหยา พวกเจ้าสองคนมาแล้ว ผลไม้กวนยังมีอีกไหม”
ลู่ม่านเห็นเขาท่าทางกังวล จึงเม้มปากกลั้นยิ้ม เฉินจื่ออานส่ายหน้าอย่างตรงไปตรงมา “ตอนนี้ในบ้านไม่มีแล้ว”
“อ้าว?” เถ้าแก่จางตกใจ “งั้นจะทำยังไงล่ะ จะทำยังไงดี ข้าสัญญากับลูกค้าเหล่านั้นไว้ว่าพรุ่งนี้เช้า แล้วจะทำยังไง”
ลู่ม่านเวียนหัวกับเขา จึงจำต้องบอกว่า “ตอนนี้ไม่มี ไม่ได้หมายความว่าพรุ่งนี้จะไม่มี...”
เถ้าแก่จางดวงตาเป็นประกาย “พรุ่งนี้จะมีใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้ส่งให้ข้าหนึ่งร้อยขวด ไม่สิ สามร้อยขวด...”
ลู่ม่าน “……..”
สุดท้ายก็ตกลงกันว่าพรุ่งนี้จะส่งอย่างน้อยหนึ่งร้อยขวด เป็นการจบปัญหา
เถ้าแก่จางมอบเงินหนึ่งร้อยยี่สิบเหวินให้กับลู่ม่านที่ขายสามสิบขวดจากการฝากขายครั้งก่อน และจ่ายเงินมัดจำสองร้อยเหวินของวันพรุ่งนี้จึงนับว่าจบเรื่อง
ก่อนออกเดินทาง ลู่ม่านมองไปยังร้านอีกครั้ง ยังเป็นการตกแต่งเช่นครั้งก่อน แต่กลางร้านมีรูปวาดเสริมเข้ามา รูปบนนั้นเป็นรูปวาดผลไม้กวน
นี่คล้ายกับโปสเตอร์โฆษณาชวนเชื่อในสมัยใหม่เลยไม่ใช่เหรอ ลู่ม่านไม่ได้คาดหวังว่าเถ้าแก่จางจะฉลาดมากเช่นนี้
เถ้าแก่จางเห็นนางจ้องไปที่ภาพวาด จึงอธิบายอย่างเขินๆ “สองวันแรกที่เริ่ม ได้ผลไม่ดี ต่อมาข้าเลียนแบบวิธีการของแม่นาง ทำกิจกรรมให้ลองชิม คิดว่าการมีภาพให้ดูอาจเพิ่มภาพจำ จึงวาดภาพนี้ขึ้นมา ทำให้แม่นางต้องหัวเราะแล้ว...”
“วาดได้ดีมากเลย!” เฉินจื่ออานพูด เถ้าแก่จางจึงดีใจมาก
ลู่ม่านถือโอกาสให้คำแนะนำแก่เขาเล็กน้อย “ผลไม้กวนขายดีแค่ไหนก็เพราะเป็นสินค้าใหม่ซึ่งค่อนข้างแปลก อนาคตจะค่อยๆ เบาบางลง จะไม่เป็นที่นิยมแบบนี้อีก สิ่งที่เถ้าแก่จางต้องทำคือใช้ประโยชน์จากผลไม้กวนถึงสามารถดึงดูดลูกค้าได้ โดยเปลี่ยนภาพลักษณ์ของร้าน ทำให้เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ถึงจะสามารถยั่งยืนได้ในระยะยาว!”
ลู่ม่านพูดคร่าวๆ เถ้าแก่จางเป็นคนฉลาด น่าจะสามารถเข้าใจมันได้
ทั้งสองออกจากร้านมา เดินไปเพียงไม่กี่ก้าวก็เห็นเถ้าแก่ซุนตรงข้ามเดินเข้ามาหาพร้อมกับรอยยิ้มกริ่ม “ท่านทั้งสอง อยู่ก่อน”
ลู่ม่านยังคงโกรธเพราะเรื่องครั้งก่อน จึงจงใจแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน เถ้าแก่ซุนร้อนรนมากและรีบเร่งตามให้ทัน เดินตามพวกเขาจนไขมันทั่วตัวกระเพื่อม
มาหอบเฮือกๆ อยู่ตรงหน้าทั้งสอง เขายิ้มอย่างประจบสอพลอ “ท่านทั้งสอง ครั้งก่อนที่พูดคือผลไม้กวนนั่นใช่ไหม”
ลู่ม่านเหลือบมองเฉินจื่ออาน เฉินจื่ออานพยักหน้า “ใช่!”
แต่เมื่อได้ยินคนข้างๆ ถามราคาม้า ลู่ม่านก็เลิกคิดทันที ม้าหนึ่งตัวมีค่าเท่ากับเงินสามสิบพวง! นี่มันแพงมาก!
ลู่ม่านได้แต่มองม้าพลางทอดถอนใจ แอบตัดสินใจว่าจะหาเงินให้ได้เยอะๆ โดยเร็วที่สุด เพื่อที่ในอนาคตจะได้นั่งรถม้า
เมื่อเห็นนางมีท่าทางอาลัยอาวรณ์ เฉินจื่ออานจึงมองม้าอยู่สักพัก แต่เขาก็รู้สถานการณ์ปัจจุบันของพวกเขา จึงจำต้องถอนสายตากลับมา
หลังจากเหตุการณ์นี้ ลู่ม่านไม่กล้าดูสัตว์ตัวอื่น ทั้งสองจึงเดินตรงไปหาวัว
เฉินจื่ออานนับว่ารู้เรื่องวัว หลังจากทั้งสองคนเลือกมาได้สักพัก ก็ถูกใจกับวัวขนาดกลางที่ดูเหมือนจะเพิ่งโต มันดูท่าทางแสนรู้มาก
สอบถามราคาแล้วต้องการเงินสองพวง
คิดไม่ถึงว่าวัวตัวนี้ก็มีราคาแพงเช่นกัน โชคดีที่ตอนลู่ม่านออกมาเมื่อเช้า ได้นำเงินติดตัวมาด้วย
เหตุผลหลักคือบ้านของพวกเขาทรุดโทรมเกินไป ลู่ม่านกลัวว่าทิ้งเงินไว้ที่บ้านจะไม่ปลอดภัย
เงินสองพวง โดยพื้นฐานแล้วมันเป็นทรัพย์สินเกินครึ่งของพวกเขา ตอนที่ลู่ม่านหยิบเงินออกมา ทันใดนั้นก็นึกถึงระบบธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ Alipay ในสมัยใหม่
ในยุคปัจจุบัน แค่ใช้รหัสผ่านโทรศัพท์มือถือก็จ่ายได้ ไม่ต้องเห็นเงินที่ดำรงชีวิตไหลออก หัวใจก็ไม่เจ็บมาก
ทำงานหนักมาหลายเดือน วัวหนึ่งตัวก็ทำเอาล้มละลายแล้ว
ที่จริงข้ามเวลามาถึงที่นี่ การหาเงินไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนในนิยายที่เขาแต่งไว้เลย ยิ่งไปกว่านั้น ลู่ม่านยังข้ามเวลามาลำบากที่สมัยก่อนราชวงศ์ถังซึ่งไม่ต้องการเหรียญเงินก้อนหมุนเวียนเลย ที่นี่มีแต่เหรียญทองแดงหรือไม่ก็ทอง
โดยปกติแล้วเหรียญเงินก้อนเป็นสิ่งที่ท้องพระคลังเท่านั้นที่ต้องการ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
เป็นพอ.ที่กลับกรอก เป็นที่พึ่งไม่ได้เลย ยอกจะออกจากครอบครัวเลวๆนี่ไม่จริงอีก ภาระของนางเอก ถ่วงแข้งถ่วงขาจริงๆ...
เด็กไม่ตายเพราะแม่คลอดยากจะตายเพราะคนรับใช้ป้อนโจ๊กข้าวจนอิ่มตื้อ รอดได้คือดวงแข็งเว่อ...
อ่านไป งงไป ตัดสินประหาร หรืออภัยโทษ?...
หม่อมข้า? ใช้ MS Word ไม่ระวังเลย...
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอน 337 แล้ว โดยภาพรวมพระเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เฉียบแหลมเลย...
อะไรจะมีปมขนาดนั้น วุ่นวายตอกย้ำเหลือเกินเกี่ยวกับระบบศักดินา ทั้งที่มันเป็นคนละยุคสมัยกัน...
ตอน285-287 หายทำไงดี...
ตอนหายค่ะ 284แล้วกระโดดไป288เลยค่ะ...
บท 285-287 หายค่ะ 284แล้ว288เลย รบกวนด้วยค่ะ...
281-311 รบกวนด้วยค่ะ...