เพราะก่อนหน้านี้ต้องใช้เวลาฝึกฝนพนักงาน บวกกับที่คนงานบางส่วนยังไม่ชำนาญมากพอ ดังนั้นสินค้าชุดแรกจึงมีไม่เยอะเท่าไหร่ รวมแล้วมีแค่สองร้อยกล่อง หรือก็คือสี่ร้อยซองเท่านั้น
แต่ลู่ม่านรู้สึกว่า เพียงพอต่อการเปิดขายในตลาดครั้งแรกแล้ว
ขอแค่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปสามารถเข้าถึงจิตใจของชาวบ้านทั่วไปได้ งั้นต่อมา นางก็จะมีเงินทุนมากพอที่จะไปเตรียมทำซีอิ๊ว นั่นจะเป็นธุรกิจของนางเพียงผู้เดียว นางไม่อยากร่วมหุ้นกับใครอีกแล้ว
จวงลี่จ้งจะมาตอนช่วงเย็นๆ สำหรับความลึกลับซับซ้อนของเขาลู่ม่านก็ชินไปแล้ว แต่เฉินหลิ่วเอ๋อคงได้รอคอยอย่างโดดเดี่ยวตลอดไปแล้วล่ะ
จวงลี่จ้งทำถึงขั้นนี้เพื่อที่จะหลบหน้านาง
สองร้อยกล่อง ลู่ม่านให้จวงลี่จ้งไปหนึ่งร้อยห้าสิบกล่อง ที่เหลืออีกห้าสิบกล่อง นางขอให้เก็บไว้ให้ร้านขายของชำบ้านจาง
จวงลี่จ้งโต้แย้งขึ้นมาในทันที ลู่ม่านอธิบาย “ข้าเข้าใจความรู้สึกของเจ้านะ ในเมื่อมีสินค้าใหม่ออกมา ก็ต้องอยากจับการตลาดนี้ไว้เพียงผู้เดียว แต่ว่า ร้านขายของชำของตระกูลจวงจะแผ่ซ่านไปทั่วราชอาณาจักรแค่ไหน ก็ไม่ได้แผ่ซ่านไปทั่วทุกมุมนี่ และครั้งนี้พวกเรามุ่งเป้าไปยังชาวบ้านทั่วไป ต้องให้ชาวบ้านทุกคนสามารถจับต้องสินค้าชิ้นใหม่นี้ได้……”
มุ่งเป้าไปยังชาวบ้านทั่วไป? จวงลี่จ้งหรี่ตาลง
พี่ใหญ่รับรู้ได้ถึงการมีตัวตนของเขาจากผลไม้กวนเมื่อปีก่อน ปีนี้พี่ใหญ่ของเขาเริ่มทำธุรกิจชั้นสูง อยากจะกดเขาลงไป
หากอยู่ในด้านชั้นสูง พี่ใหญ่มีตายายของเขาคอยสนับสนุน ยังได้รับการดูแลจากพ่อและแม่อีก แต่ว่า เขากลับไม่มีอะไรเลย
แทนที่รู้ว่าจะต้องเจอทางตันของทางข้างหน้า เปลี่ยนกลยุทธ์และลองมุ้งเป้าไปยังชาวบ้านไม่ดีกว่าเหรอ เพราะยังไงคนที่มีเยอะที่สุดในยุคก่อนราชวงศ์ถัง ก็คือประชาชน
แต่ว่าผู้หญิงตรงหน้า……
จวงลี่จ้งขมวดคิ้ว ทำไมทุกครั้งเขาถึงยอมฟังและทำตามที่นางบอกกันนะ? และงานโคมไฟครั้งก่อน เขากลับเข้าใจผิดคิดว่านางเป็นว่าที่ภรรยาของเขา
แต่ที่น่าตลกตคือ เขาเคยเห็นว่าที่ภรรยาของตัวเองแค่ตอนเด็กเท่านั้น ตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุในตอนนั้น เขาก็ไม่เคยเห็นนางอีกเลย คนอื่นบอกว่า นางอาจจะจากโลกนี้ไปแล้วก็ได้
ลู่ม่านกำลังพูดอธิบายอยู่นั้น ก็เห็นจวงลี่จ้งจ้องมองนางตาไม่กะพริบ นางขมวดคิ้วพูดว่า “คุณชายจวง?”
จวงลี่จ้งก็ถึงสะดุ้งตื่นแล้วพยักหน้าช้าๆ “ข้าตกลง แต่สำหรับด้านการขาย ข้าจำเป็นต้องจัดการฝ่ายบัญชีของเรามา แล้วแบ่งเงินปันผลของพวกเราให้เท่ากันตามในหนังสือสัญญา”
ลู่ม่านไม่ได้คิดอะไรมาก “เจ้าจัดฝ่ายบัญชีของเจ้ามาได้”
สองฝ่ายตกลงกันเสร็จสรรพ จวงลี่จ้งก็เรียกคนให้ขนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปหนึ่งร้อยห้าสิบกล่องขึ้นรถไป
ลู่ม่านจัดระเบียบของในโรงงานเสร็จแล้วก็ถึงปิดประตูออกมา เพิ่งออกมาถึงนอกประตู ก็เห็นเฉินจื่ออานรีบเดินมาจากบ้าน
เห็นลู่ม่านออกมา เขาก็โล่งใจ “วันนี้ทำไมถึงกลับดึกขนาดนี้ล่ะ?”
ลู่ม่านพูดด้วยรอยยิ้ม “คนของตระกูลจวงมา เพิ่งขนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของพวกเราไปทั้งหมด” ว่าแล้ว นางก็คล้องแขนของเฉินจื่ออานไว้ เพราะเป็นตอนกลางคืน จึงเดินง่ายขึ้นบนถนน
เฉินจื่ออานไม่ได้นั่งรถเข็น ทั้งสองเดินไปข้างหน้าพร้อมกัน
ลู่ม่านเพลิดเพลินกับบรรยากาศในตอนนี้มาก อดไม่ได้เพ้อฝันถึงอนาคต “หากในอนาคต พวกเรามีเงินแล้ว ก็ไม่ต้องลำบากทำงานให้เหนื่อยเหมือนอย่างตอนนี้แล้วล่ะ ถึงตอนนั้น จื่ออานเจ้าเดินเล่นแบบนี้กับข้าได้ไหม?”
เฉินจื่ออานพยักหน้า “ก็ต้องได้อยู่แล้ว เสี่ยวม่านอยากไปไหน ข้าก็จะคอยอยู่กับเจ้าตลอดไป”
“อืม……” ลู่ม่านพยักหน้าอย่างพึงพอใจ “เจ้าพูดเองนะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
เด็กไม่ตายเพราะแม่คลอดยากจะตายเพราะคนรับใช้ป้อนโจ๊กข้าวจนอิ่มตื้อ รอดได้คือดวงแข็งเว่อ...
อ่านไป งงไป ตัดสินประหาร หรืออภัยโทษ?...
หม่อมข้า? ใช้ MS Word ไม่ระวังเลย...
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอน 337 แล้ว โดยภาพรวมพระเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เฉียบแหลมเลย...
อะไรจะมีปมขนาดนั้น วุ่นวายตอกย้ำเหลือเกินเกี่ยวกับระบบศักดินา ทั้งที่มันเป็นคนละยุคสมัยกัน...
ตอน285-287 หายทำไงดี...
ตอนหายค่ะ 284แล้วกระโดดไป288เลยค่ะ...
บท 285-287 หายค่ะ 284แล้ว288เลย รบกวนด้วยค่ะ...
281-311 รบกวนด้วยค่ะ...
บทที่241-311 หายค่ะ...