องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 1032

เมืองหลวง

หลังจากที่ขี่ม้าไม่หยุดมาสิบวัน น่าหลันเหวินก็นำหลินกงกงและฉิงเอ๋อร์มาถึงเมืองหลวงในที่สุด

ทันทีที่ทั้งสามมาถึงในเมือง พวกเขาก็ได้ยินว่ากองทัพของเจิ้นเป่ยอ๋องถอนกำลังออกจากเมืองหลวงและมุ่งหน้าไปทางใต้

จู่ ๆ น่าหลันเหวินก็รู้สึกเสียดาย

เมื่อนางได้ยินจากแคว้นหลางว่ารัชทายาทกบฏและทำรัฐประหารเพื่อยึดบัลลังก์ น่าหลันเหวินก็รู้ว่าเรื่องราวไม่ได้ง่ายขนาดนั้น

นางรู้ดีว่าเสด็จพ่อของนางเป็นคนแบบใด และน้องชายของนางสามารถทำอะไรได้บ้าง

เขาจะไม่มีวันเอาชนะเสด็จพ่อของเขาได้

แต่สุดท้ายแล้วองค์รัชทายาทก็จะประสบความสำเร็จ ซึ่งก็หมายความว่านี่คือสิ่งที่เสด็จพ่อได้เตรียมการเอาไว้

เมื่อน่าหลันเหวินได้ยินข่าวนี้ นางก็รีบออกจากแคว้นหลางและตรงไปที่เมืองหลวงทันที

แต่ระหว่างทางนางก็ได้ยินว่าทัพแคว้นหนานยึดเมืองหลวงได้ และน่าหลันเหวินก็กังวลมาก ต่อมานางได้ยินว่าเจิ้นเป่ยอ๋องได้ยึดเมืองหลวงกลับคืนมาได้ น่าหลันเหวินจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้และท่านอาหวังอาจจะตอบอะไรนางได้ นางจึงรีบเร่งมาหา

แต่น่าเสียดายที่มาช้าเกินไป

เจิ้นเป่ยอ๋องอพยพลงไปทางใต้โดยออกทางประตูทิศใต้ แต่พวกเขามาทางประตูทางทิศตะวันตก จึงทำให้ไม่ได้พบกันระหว่างทาง

ทั้งสามเดินเข้าไปในเมืองฉางอัน ซึ่งปัจจุบันนี้ไม่มีคนเป็นเจ้าของ

ถนนหนทางรกร้างและมีคนเดินถนนน้อย

ไม่มีแม้แต่ทหารรักษาการณ์ที่เฝ้าประตูเมือง

เมื่อสองวันก่อน ได้ยินมาว่าทัพแคว้นฉีก็อพยพออกนอกเมืองและมุ่งหน้าตรงไปยังชิงโจว ซึ่งเป็นมณฑลใหญ่ทางตะวันออกสุดของราชวงศ์อู่

ต้องเป็นจากระหว่างถนนไปยังเมืองหลวงแคว้นหนานแน่!

เมืองฉางอันในอดีตมีความเจริญรุ่งเรืองเพียงใด?

เป็นสถานที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในจงหยวน

หรือแม้แต่เป็นเมืองที่คึกคักที่สุดในโลก

แต่ตอนนี้มันเงียบเหงาเกินไป

ประชาชนในอดีตต่างก็เดินบ้างวิ่งบ้าง ยกเว้นบางคนที่ไม่เต็มใจไป เมืองทั้งเมืองก็แทบจะว่างเปล่า

“องค์หญิง กระหม่อมได้ไปสืบมาแล้วว่า กั๋วจิ้วผู้เฒ่ายังอยู่ที่เมืองหลวง!”

หลินกงกงรีบนำข่าวกลับมารายงานที่จวนผิงอัน

จวนผิงอันก็เงียบเหงาเช่นกัน แต่ก็ไม่มีใครก่อกวน มันแค่เปล่าเปลี่ยวมาก ไม่รู้ว่านานเพียงใดแล้วที่ไม่มีคนมาจัดการทำความสะอาดข้าวของที่นี่

สนามหญ้าเต็มไปด้วยวัชพืช และตอนนี้เริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองแล้ว

ใบไม้ร่วงอยู่ทุกที่

น่าหลันเหวินและฉิงเอ๋อร์นั่งซึมกระทืออยู่ในลานบ้าน เมื่อได้ยินคำพูดของหลินกงกงในตอนนี้ ในที่สุด น่าหลันเหวินก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

ดีแล้วที่กั๋วจิ้วผู้เฒ่าอยู่ที่นี่

หลินกงกงหยุดครู่หนึ่งแล้วกล่าว “นอกจากนี้แล้ว องค์หญิง...เมื่อครู่กระหม่อมเพิ่งได้ยินมาว่าองค์รัชทายาท พระองค์ พระองค์ทรงสติฟั่นเฟือน...”

พระราชวังไม่มีทหารรักษาการณ์อีกต่อไป

พวกเขาทั้งสามอยู่ที่ท้องพระโรง มององค์รัชทายาทซึ่งผมเผ้ายุ่งเหยิง หน้าตามอมแมม และสติฟั่นเฟือน

เขานั่งอยู่บนบัลลังก์มังกร ดูเหมือนกำลังหารือเรื่องสำคัญกับขุนนางที่มองไม่เห็น

บางครั้งเขาก็ขมวดคิ้ว บางครั้งก็พอใจ และบางครั้งก็โกรธ

ดูราวกับเป็นฮ่องเต้จริง ๆ

“น้อง...”

ทั้งสามยืนอยู่ที่ประตูทางเข้าท้องพระโรง เมื่อเห็นฉากนี้ น้ำตาของน่าหลันเหวินก็ค่อย ๆ ไหลลงมา

หลินกงกงและฉิงเอ๋อร์ต่างก็รู้สึกเศร้า

โดยเฉพาะหลินกงกงซึ่งอยู่กับรัชทายาทมาหลายปีและมีสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้น

เห็นเขาเป็นแบบนี้แล้วภายในใจก็รู้สึกเศร้ามาก

ทั้งสามอยากจะเข้าไป

แต่จู่ ๆ องค์รัชทายาทที่อยู่บนบัลลังก์ก็ลุกขึ้นยืน จ้องมองทั้งสามคนแล้วตะโกนด้วยความโกรธ

“กล้ามาก พวกเจ้าเป็นใคร กล้าดียังไงมารบกวนท้องพระโรง ทหาร ลากออกไปสังหารบัดเดี๋ยวนี้!”

ทั้งสามคนต่างตกใจ น่าหลันเหวินหยุดก้าว จากนั้นทั้งสามก็ถอยออกไป

น้ำตาของน่าหลันเหวินร่วงหล่นลงมาอีกครั้ง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน