องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 1076

ซั่งกวนหว่านเอ๋อร์มองไปที่หลี่จุ่น เห็นรอยยิ้มข้างปากของตาหมอนี่ และสีหน้าที่ดูถูกเหยียดหยามนั่น ตัวนางก็เหม่อลอยอยู่เล็กน้อย

ทันใดนั้นถึงได้ค่อย ๆ กลับคืนสู่สภาพเดิม ก่อนจะเอ่ยปากพูดขึ้นว่า

“ต้องการให้พวกเราทำอะไรหรือไหม? หากต้องการละก็ เจ้าก็รีบเอ่ยปากออกมาเถิด”

หลี่จุ่นพยักหน้าพลางมองซั่งกวนหว่านเอ๋อร์ แล้วเอ่ยถามว่า

“ข้าต้องการเงินจำนวนมาก ท่านอาจารย์มีเงินหรือไม่? หากมี ก็ขอให้ข้ายืมไปใช้ก่อน รอเสร็จเรื่องแล้ว ข้าค่อยไปเบิกเงินคืนจากฝ่าบาท จากนั้นค่อยคืนให้ท่าน!”

ซั่งกวนหว่านเอ๋อร์เอ่ยถามขึ้นชืด ๆ ว่า “เจ้าต้องการเงินเท่าไร?”

หลี่จุ่นยิ้มพลางเอ่ยขึ้นว่า “แน่นอนว่ามีเท่าไรก็ต้องการเท่านั้น”

ซั่งกวนหว่านเอ๋อร์พยักหน้า ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า

“ได้ เจ้าไปหาอวิ๋นเอ๋อร์ อยากได้เงินเท่าไรก็ไปบอกกับนาง...อืม ต้องให้ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนคืน!”

หลี่จุ่นได้ยินดังนั้นก็อึ้งไป ทันใดนั้นเขาก็พยักหน้าแล้วยิ้ม

เขาประสานมือเอ่ยขอบคุณไปทางซั่งกวนหว่านเอ๋อร์ในทันที โดยไม่พูดพร่ำทำเพลง พลันไปหาอวิ๋นเอ๋อร์

เมื่อมาถึงยังห้องของอวิ๋นเอ่อร์ ก็เคาะประตูอยู่ข้างนอกเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า

“พี่อวิ๋นเอ๋อร์ ข้าเอง”

“ท่านนายน้อย ท่านมาได้อย่างไร?”

ประตูห้องถูกเปิดออกอย่างรวดเร็ว สีหน้าของอวิ๋นเอ๋อร์ระแวงอยู่เล็กน้อย ทันใดนั้นก็รีบเชิญหลี่จุ่นเข้าไปข้างในอย่างนอบน้อม

หลี่จุ่นมองสีหน้าของอวิ๋นเอ๋อร์ทีหนึ่ง ในใจแอบลอบถอนหายใจเฮือกหนึ่ง

นับตั้งแต่เขาทำร้ายซั่งกวนเฮ่าจนบาดเจ็บในโถงโรงเตี๊ยม อวิ๋นเอ๋อร์ก็มองตนไม่เหมือนอย่างแต่ก่อน

ก่อนหน้านี้ทุกครั้งที่เห็นตน ใบหน้าจะแฝงไปด้วยรอยยิ้มหน่อย ๆ ราวกับดีอกดีใจเป็นอย่างมาก

ทว่าตอนนี้ครั้นเห็นตัวเขาก็มีแต่ความหวาดระแวง และความนอบน้อมที่ไม่แสดงออกมาไม่ได้ ส่วนรอยยิ้มประเภทนั้นในก่อนหน้านี้ ได้มลายหายไปแล้ว

“พี่อวิ๋นเอ๋อร์ ข้าขอยืมเงินท่านอาจารย์จำนวนหนึ่ง ท่านอาจารย์ให้ข้ามาเอากับพี่อวิ๋นเอ๋อร์” หลี่จุ่นเอ่ยปาก

ท่าทีที่อวิ๋นเอ๋อร์มีต่อตน ก็ไม่ได้แยแสอะไรมากมาย

ก่อนหน้านี้นางดีกับตัวเขาขนาดนั้น แต่เป็นเพราะเห็นเพียงแค่ตัวตนของเขาแบบผิวเผิน ตอนนี้ได้รู้จักโฉมหน้าที่แท้จริงของตัวเขาแล้ว ภายใต้ความแตกต่างระหว่างสองด้าน ความรู้สึกดี ๆ เหล่านั้นยากที่จะเลี่ยงไม่ได้รับผลกระทบ

อวิ๋นเอ๋อร์รีบพยักหน้า ครุ่นคิดแล้วเอ่ยถามขึ้นว่า

“ท่านนายน้อยอยากได้เท่าไร?”

“ให้ข้าได้เท่าไรก็ให้เท่านั้นก็แล้วกัน เกรงว่าในสองสามวันนี้ต้องใช้จ่ายเยอะมาก ๆ รอหลังจากออกจากเมืองไปแล้ว ข้าจะให้ฝ่าบาทคืนให้แน่ ๆ” หลี่จุ่นเอ่ย

นัยน์ตาของอวิ๋นเอ๋อร์หดตัวลงเล็กน้อย นางลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่หลังจากนั้นก็ล้วงเงินออกมา

“เดิมทีทัพแคว้นหนานเขาไม่ได้มีความคิดที่จะทำร้ายพวกเราเลย หลอกให้เราออกจากเมืองไปอะไรนั่นเป็นเรื่องโกหก ทั้งหมดนี่พวกทัพเหยียนโจวเขาพูดเพ้อเจ้อไปเองทั้งนั้น สร้างเรื่องมาหลอกพวกเรา!”

“นี่ทำไมถึงได้กลายเป็นเรื่องโกหกล่ะ? ฝ่าบาทสถาปนาแคว้นในเมืองหลวงของเขาจริง ๆ นี่ อีกฝ่ายคงอับอายกลายโทสะจริง ๆ คิดจะหลอกพวกเราให้ออกจากเมือง จากนั้นก็ฆ่าพวกเราเพื่อระบายความเคียดแค้นในใจ!”

“ไม่ใช่ เดิมทีไม่ได้เป็นเช่นนี้เลย ทัพแคว้นหนานเขาอยู่ทางตะวันตก แต่พวกเราออกไปจากทางประตูเมืองตะวันออก มุ่งหน้าเข้าไปในอำเภอผิงอันเลย เขาจะขัดขวางพวกเราได้อย่างไร? เมื่อมองเช่นนี้แล้วก็เป็นเรื่องไร้สาระชัด ๆ!”

“ให้ตายเถอะนี่...เหมือนจะใช่จริง ๆ!”

“นี่ นี่จริง จริงหรือ?”

“...”

สองความคิดเสียงแตกกัน ทว่าคำวิพากษ์วิจารณ์ที่เป็นผลดีต่อทัพแคว้นหนานมีมากขึ้นเรื่อย ๆ บอกว่าทัพเหยียนโจวสร้างเรื่องไร้สาระขึ้นมา!

ภายในครู่เดียวคำวิพากษ์วิจารณ์เหล่านี้ก็หนาหูและลือสะพัดไปอย่างรวดเร็ว ได้ยินมาปากก็บอกต่อแพร่ออกไป เพียงชั่วพริบตาภายในเมืองก็เกิดความโกลาหลขึ้นอย่างสมบูรณ์

เกิดอะไรขึ้น?

แน่นอนว่าหลี่จุ่นเป็นคนลงมืออย่างไรเล่า!

เขาจัดการใช้หน้าม้าปล่อยข่าวฉบับโบราณ ขอแค่ให้เงิน คนที่ยอมพูดอะไรก็ได้ย่อมมีทั้งนั้น ก็เลยนำไปสู่อีกด้านของการวิพากษ์วิจารณ์ของมวลชนเสียเลย!

ศึกการวิพากษ์วิจารณ์ของมวลชนศึกนี้ เปิดฉากอย่างสมบูรณ์!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน