องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 113

มีวิธีการแก้ไขปัญหาแล้ว ไม่เพียงแต่ร้านอาหารเช้า แต่ร้านเต้าหู้ก็ใช้ความคิดโมเดลวีไอพีเริ่มเปลี่ยนแปลงด้วย

แน่นอน

เพื่อประหยัดเวลา หลี่จุ่นจึงให้จ้าวเฟยเอ๋อร์สำรวจร้านค้าใหม่ ซื้อตึกที่เหมาะดัดแปลงชั้นบนและชั้นล่างจำนวนหนึ่งในทุกเส้นถนน

ห้าวันให้หลังก็จัดการได้เรียบร้อย ทยอยใช้ร้านใหม่ ส่วนร้านเก่าก็ทยอยปิด

พอใช้รูปแบบอย่างนี้แล้วก็ได้รับความนิยมและชมเชยมากทันที ไม่เกิดความเก้อเขินเหมือนในตอนแรกอีก

ทีแรกจ้าวเฟยเอ๋อร์ยังกลัวว่าจะขายห้องส่วนตัวยาก แต่คิดไม่ถึง เหมือนกับที่หลี่จุ่นบอก บรรดาคหบดีและคนสูงศักดิ์ไม่ลังเลที่จะจ่ายค่าห้องส่วนตัวต่างหากเลย

ด้วยเหตุนี้!

แค่ค่าห้องส่วนตัวของร้านก็ได้สามร้อยกว่าตำลึงทุกวัน!

ส่วนรายได้จากเต้าหู้ตำรับจ้าวก็ทะลุพันตำลึงแล้ว!

ตัดต้นทุนของทุกวันออก กำไรสุทธิของทุกวันสูงถึงประมาณเก้าร้อยตำลึง!

จ้าวเฟยเอ๋อร์กลายเป็นราชินีเต้าหู้โดยสมบูรณ์!

แน่นอน

ทำการค้าใหญ่โตย่อมมีคนอิจฉาตาร้อน แต่พอนึกถึงว่าจ้าวเฟยเอ๋อร์คือบุตรีเหยียนอ๋องและเบื้องหลังคือเหยียนอ๋องแล้วก็ไม่มีใครกล้าลงมือ

ได้แต่มองดูด้วยความอิจฉาอยู่อย่างนี้

นี่ก็คือสิ่งที่หลี่จุ่นคิดเอาไว้ก่อนแล้ว เขาขยี้ความคิดนี้ตั้งแต่แรก หลีกเลี่ยงเรื่องยุ่งยากอย่างนี้

ล้อเล่นน่า!

ใครจะกล้าหาเรื่องเหยียนอ๋อง!

หาเรื่องใส่ตัวชัด ๆ!

การค้าเต้าหู้ถือว่าดำเนินอยู่บนทางหลักแล้ว สร้างระบบการค้าที่สมบูรณ์แล้ว ทีแรกหลี่จุ่นยังอยากเสนอเต้าหู้เหม็น แต่คิดอีกที ชาติก่อนตัวเองยังรังเกียจความเหม็นของมันเลย ดังนั้นจึงละความคิดนี้เอาไว้ก่อน

รอให้เตรียมตัวพร้อมแล้วค่อยทำ

เพราะไม่ใช่ทุกคนจะกินสิ่งที่เหม็นแล้วรู้สึกอร่อยได้ บางคนรู้สึกแต่ว่ามันเหม็น และหลี่จุ่นก็คืออย่างหลัง!

การค้าเต้าหู้ดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่หลี่จุ่นกลับยุ่งกับการออกไซอิ๋วภาคแรก

หวังเยียนหรันส่งข่าวมา บอกว่าสำนักศึกษาสูงสุดพิมพ์ร้อยเล่มเสร็จและส่งมอบให้ร้านหนังสือจิงหงเรียบร้อยแล้ว

แต่ก่อนหน้านั้นร้านหนังสือจิงหงได้ต้นฉบับจากสำนักศึกษาสูงสุด เริ่มพิมพ์ด้วยมือแล้ว ทางร้านหนังสือจิงหงยังทำโฆษณาแล้วเหมือนกัน จะเริ่มวางตลาดไซอิ๋วภาคแรกในอีกห้าวันให้หลัง

ช่วงเวลาหนึ่ง!

โรงพิมพ์ร้านหนังสือลู่หมิง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน