เหตุการณ์ตรงหน้าดูตึงเครียดขึ้นมา
เมื่อหลี่จุ่นได้ยินที่เฟิงอู่หังเอ่ยก็มองไปยังหวังเยียนหรัน มองเห็นว่าหญิงสาวโกรธเสียจนน้ำตาเอ่อล้นคลอเบ้า
ฉับพลันนั้นก็รู้สึกทรมานใจขึ้นมายิ่งนัก
จู่ ๆ ชายหนุ่มก็ถอนหายใจยาวพลางมองไปยังหวังเยียนหรัน ครั้งนี้เขามิได้จงใจพูดด้วยเสียงต่ำอย่างเคย หากแต่ใช้เสียงเดิมของตน เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ดูเศร้า
“เจ้า... จะแต่งงานกับเขาจริง ๆ หรือ ?”
“แน่นอนอยู่แล้ว !”
หวังเยียนหรันโกรธเสียจนเป็นฟืนเป็นไฟ การที่หลี่จุ่นเอ่ยปากถามคราวนี้ทำให้นางรู้สึกได้ถึงความรังเกียจ รู้สึกขยะแขยงขึ้นมา จึงได้เอ่ยตอบสี่คำนี้ไปโดยแทบไม่เกิดการลังเลเลยสักนิด
คำตอบทั้งสี่คำนี้ช่างมีอำนาจ มีความเด็ดขาดมุ่งมั่นยิ่งนัก
“ได้”
สายตาของหลี่จุ่นที่อยู่ภายใต้หมวกไม้ไผ่นั้นหรี่ลง สีหน้าเปลี่ยนไปคล้ายไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ตนเองได้ยิน เจ็บปวดราวกับถูกมีดกรีดแทงลงบนหัวใจในทันที
แต่สุดท้ายกลับทำเพียงค่อย ๆ ลุกขึ้น น้ำเสียงที่เอ่ยก็ดูไร้ซึ่งเรี่ยวแรงขึ้นมา
“ผู้อาวุโส เช่นนั้นเราก็ไปกันเถิด”
“ฮึ !”
เฟิงอู่หังส่งเสียงฮึดฮัดในลำคอพลางขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจนัก
จู่ ๆ ก็จะไม่แย่งตัวเจ้าสาวแล้วหรือ ?
เช่นนั้นแล้วจะถ่อมาก่อเรื่องถึงที่นี่ทำไมกันเล่า ?
แม้แต่สุราเขายังไม่ทันได้ดื่มเลยสักอึกด้วยซ้ำ !
ครั้นเมื่อสะบัดชายแขนเสื้อ เดินออกจากโถงไปด้วยความโกรธ !
ทางหลี่จุ่นเองก็ดูหงอยเหงาขึ้นมา ชายหนุ่มเหลือบมองหวังเยียนหรัน และเดินตามไปโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง
คราวนี้เล่นเอาคนในครอบครัวของหวังโส่วหนิงถึงกับงุนงงไปไม่ถูก
นี่เล่นอะไรกันอีกอย่างนั้นหรือ ?
เมื่อครู่นี้โวยวายใหญ่โต... พอมาตอนนี้นึกจะหยุดก็หยุดเสียได้ ?
สองคนนี้เป็นบ้าไปแล้วหรืออย่างไรกัน ?
ทว่า ในเวลานี้เอง
หวังเยียนหรันจึงค่อยได้สติกลับมา... ร่างเพรียวบางของหญิงสาวสั่นสะท้านไปทั้งตัว สีหน้าแปรเปลี่ยนไป มองดูแผ่นหลังของหลี่จุ่นที่เดินจากไปด้วยอาการนิ่งอึ้ง
“ช้าก่อน !”
หญิงสาวร้องเรียกเสียงดังขึ้นกะทันหัน น้ำเสียงดูจะรีบร้อนลนลานขึ้นมา
หากแต่หลี่จุ่นกลับทำเพียงแค่หยุดก้าวเท้าเล็กน้อย แต่กลับไม่ได้มีท่าทีที่จะหยุดเดินเลยแม้แต่นิด เดินตามเฟิงอู่หังไปจนพ้นประตูภายในเรือนเสียแล้ว
“เอ๊ะ แม่ทัพใหญ่แคว้นหนานไปไวขนาดนี้เชียวหรือ ?”
“จะไม่ดื่มอีกสักแก้วหรือไรกัน ?”
“สุรานี่เป็นของดีนะ...”
“ไม่ สุรามิใช่ของดี สุราเป็นของไม่ดี”
“...”
เมื่อเห็นว่าไม่นานพวกเฟิงอู่ฟังก็ออกมา แขกภายในเรือนก็พากันนึกประหลาดใจ ส่งเสียงพูดคุยซุบซิบกันขึ้นมา
“ช้าก่อน...”
เสียงของอีกฝ่าย... ช่างคุ้นเคยยิ่งนัก !
ไม่สิ !
มันคือความคุ้นเคยชนิดที่เผาเหล็กร้อนแล้วประทับลงในใจด้วยซ้ำ !
นี่คือเสียงที่นางคิดถึงอยู่ทุกคืนวัน...
จนมันฝังเข้าสู่กระดูกดำ ยากที่จะลืมเลือนไปชั่วชีวิต
แต่บัดนี้เสียงนี้กลับปรากฏขึ้นต่อหน้าตนเองอีกครั้ง
แต่หวังเยียนหรันกลับไม่กล้าเชื่อสายตาตนเอง
เพราะเจ้าของเสียง... ไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว
แต่แล้วทำไมกันเล่า ?
จะใช่เขาหรือไม่ ?
หวังเยียนหรันตัวสั่นสะท้าน นางหวาดกลัวยิ่งนัก นางกลัวว่าจะผิดหวัง กลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่ใช่คนที่นางคิด
นางยืนมองผู้สวมหมวกไม้ไผ่คนนั่งด้วยแววตาเหม่อลอย คนคนนั้นหันหลังให้นาง แม้จะหยุดเดินแล้วแต่ก็ไม่ยอมหันมองนางแม้เพียงนิด
“ใช่... เจ้าหรือไม่ ?”
น้ำตาของหญิงสาวไหลรินลงจากตา
นางรอคำตอบจากอีกฝ่ายด้วยใจที่หวาดหวั่นเป็นที่สุด
หากแต่การถามซ้ำ ๆ ของหวังเยียนหรัน กลับแลกมาด้วยคำตอบจากหลี่จุ่นที่เอ่ยขึ้นช้า ๆ
“ไม่ใช่ข้า”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
ปลดล็อคแล้วอ่านไม่ได้...
เนื้อเรื่องสนุกคับ...แต่ก็รำคาญพระเอกอยุู่พอสมควรเจ้าชู้เกินกินพื้นที่หักเหลี่ยมเฉือนคมเยอะไปหน่อยน่าจะเป็นทุกเรื่องมั้งที่ผู้ชายเดินเรื่อง...
เชี่ยไรเนี่ย เติมเงินแต่อ่านไม่ได้สักบท...
กดปลดล็อคไม่ได้เติมเงินแล้ว แย่มาก...
737 ปลดล็อกแล้วอ่านไม่ได้...
736 ผมปลดล็อคแล้ว อ่านไม่ได้...
เขียนต่อเถอะครับ รอนานแล้ว...
ตอน 706 มีหรือยัง...
อยากอ่านต่อครับ ผู้เขียนไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้อ่านฟรี สนุกมากค่ะ สั่งซื้อกางเกงใน GQ ไป 3 ตัวแล้วค่ะ สนับสนุนโฆษณา ที่ได้อ่านค่ะ...